17 กุมภาพันธ์ 2565 สำนักข่าวต่างประเทศรายงาน BBC รายงานข่าวน่าสนใจว่า มีการรักษาผู้ป่วยเอชไอวี(HIV) ได้สำเร็จ

รายงานดังกล่าวระบุถึงการเชื่อกันว่าผู้ป่วยในสหรัฐฯ เป็นบุคคลรายที่ 3  และเป็นผู้หญิงคนแรกที่หายจากการเชื้อเอชไอวี

ผู้ป่วยเข้ารับการรักษาโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาวเมื่อเธอได้รับการปลูกถ่ายสเต็มเซลล์จากผู้ที่มีภูมิต้านทานตามธรรมชาติต่อไวรัสที่ก่อให้เกิดโรคเอดส์ จากนั้นหญิงรายนี้ปลอดจากไวรัสมา 14 เดือนแล้ว

แต่ผู้เชี่ยวชาญ กล่าวว่า วิธีการปลูกถ่ายที่ใช้ซึ่งเกี่ยวข้องกับเลือดจากสายสะดือนั้นมีความเสี่ยงเกินกว่าจะเหมาะสำหรับคนส่วนใหญ่ที่ติดเชื้อเอชไอวี ซึ่งปัจจุบันมีอยู่ทั่วโลก 37 ล้านคน

กรณีของผู้ป่วย ถูกนำเสนอในการประชุมทางการแพทย์ในเดนเวอร์ เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา และเป็นครั้งแรกที่ทราบว่า วิธีนี้ใช้เป็นยารักษาเอชไอวี โดยผู้ป่วยได้รับการปลูกถ่ายเลือดจากสายสะดือซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการรักษามะเร็งของเธอ และตั้งแต่นั้นมาก็ไม่จำเป็นต้องใช้ยาต้านไวรัสเพื่อรักษาเอชไอวี อีกต่อไป

กรณีนี้เป็นส่วนหนึ่งของการศึกษาผู้ติดเชื้อเอชไอวีที่ได้รับการปลูกถ่ายเลือดชนิดเดียวกันเพื่อรักษามะเร็งและโรคร้ายแรงในสหรัฐฯ โดยเซลล์ที่ปลูกถ่ายนั้น ได้มีการกลายพันธุ์ทางพันธุกรรมที่เฉพาะเจาะจง ซึ่งนักวิทยาศาสตร์เชื่อว่าระบบภูมิคุ้มกันของผู้รับสามารถพัฒนาความต้านทานต่อเอชไอวีได้

ตอนนี้ก็เป็นผู้ป่วยในนิวยอร์กทั้ง 3 คนเป็นมะเร็งและต้องการการปลูกถ่ายสเต็มเซลล์เพื่อช่วยชีวิตพวกเขา การรักษาเอชไอวีให้หายขาดนั้นไม่ใช่เป้าหมายหลัก และการบำบัดก็เสี่ยงเกินกว่าจะใช้กับทุกคนที่ติดเชื้อเอชไอวี

ทางการแพทย์ ระบุอีกด้วยว่า ความหวังหลักของการรักษายังคงมุ่งเน้นไปที่วัคซีนหรือยาที่สามารถล้างไวรัสออกจากร่างกายได้เท่านั้น