มอสโก/สหประชาชาติ (เอพี/รอยเตอร์ส/บีบีซี นิวส์) - รัสเซียเตือนประชาคมโลกอย่าดูแคลนความเสี่ยงที่จะเกิดสงครามนิวเคลียร์ และเตือนว่าอาวุธตะวันตกในยูเครนเป็นเป้าหมายที่ชอบธรรมของรัสเซีย ด้านเลขาธิการสหประชาชาติ เดินทางไปเยือนและหารือสถานการณ์ด้านมนุษยธรรมในยูเครนกับผู้นำของตุรกี ก่อนเดินทางไปพบและเจรจากับผู้นำรัสเซียและผู้นำยูเครนต่อไป
เซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย ให้สัมภาษณ์สถานีโทรทัศน์ของรัฐบาลในประเด็นเรื่องความสำคัญของการหลีกเลี่ยงสงครามโลกครั้งที่ 3 และเรื่องสถานการณ์ปัจจุบันใกล้เคียงกับวิกฤตขีปนาวุธคิวบาที่สหภาพโซเวียตและคิวบาเผชิญหน้าทางทหารกับสหรัฐฯ ในปี 2505 หรือไม่ โดยชี้ว่า ความเสี่ยงที่จะเกิดสงครามนิวเคลียร์เป็นเรื่องที่น่าคิดในขณะนี้ เขาจะไม่เพิ่มความเสี่ยงขึ้นมาเอง เพราะอันตรายในเรื่องนี้เป็นเรื่องจริงที่ไม่ควรมองข้าม ลาฟรอฟกล่าวถึงองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือหรือนาโต ว่า ทำสงครามกับรัสเซียผ่านตัวแทนและกำลังจัดส่งให้อาวุธตัวแทนดังกล่าว ขอบอกให้รู้ว่าสงครามก็คือสงคราม ด้าน ดมิโตร คูเลบา รัฐมนตรีต่างประเทศยูเครน ทวีตผ่านทวิตเตอร์ในเวลาต่อมาว่า รัสเซียสูญเสียความหวังสุดท้ายที่จะทำให้โลกไม่กล้าสนับสนุนยูเครน แสดงว่ารัสเซียรู้ตัวแล้วว่ากำลังจะพ่ายแพ้
รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซียให้สัมภาษณ์เรื่องนี้ หลังจากรัฐมนตรีต่างประเทศและรัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ รับปากระหว่างไปพบประธานาธิบดียูเครนที่กรุงเคียฟ เมื่อวันอาทิตย์ว่า สหรัฐจะเพิ่มความช่วยเหลือทางทหารให้แก่ยูเครน และได้อนุมัติการจำหน่ายอาวุธให้แก่ยูเครน มีทั้งกระสุนปืนครก รถถัง และเครื่องยิงจรวด ขณะที่เอกอัครราชทูตรัสเซียประจำกรุงวอชิงตันดี.ซี.ได้ขอให้สหรัฐฯ ยุติการจัดส่งอาวุธให้ยูเครน โดยเตือนว่าเป็นการโหมไฟสงคราม
ด้าน อันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติ หรือ ยูเอ็น เข้าพบหารือกับประธานาธิบดีเรเซฟ ทายยิบ เออร์โดอันของตุรกี ในกรุงอังการา ในวันอังคาร โดยทั้งสองฝ่ายเห็นชอบร่วมกันว่าต้องมีความพยายามเพิ่มมากขึ้น เพื่อจัดตั้งเส้นทางอพยพที่ปลอดภัยสำหรับพลเรือน และเพื่อส่งความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมในยูเครน พร้อมกันนี้เลขาธิการยูเอ็น ยังได้กล่าวชื่นชมตุรกีที่พยายามเป็นคนกลางไกล่เกลี่ยปัญหาความขัดแย้งระหว่างยูเครนกับรัสเซีย
กูเตอร์เรส ยังมีกำหนดเดินทางไปรัสเซียเพื่อพบหารือกับประธานาธิบดีวลาดีมีร์ ปูติน และ นายลาฟรอฟ ที่กรุงมอสโกในวันเดียวกัน คาดว่าประเด็นหารือหลัก จะเป็นเรื่องของเมืองมาริอูโปลซึ่งรัสเซียประกาศชัยชนะยึดครองได้แล้ว แต่ยังเหลือที่มั่นสำคัญคือโรงงานเหล็ก อาซอฟสตอล ที่ทหารยูเครนยังตรึงกำลังปกป้องไว้อย่างเหนียวแน่น โดยยูเครน ร้องขอให้เลขาธิการยูเอ็นเจรจากับรัสเซียเพื่อรับประกันระเบียงมนุษยธรรม เพื่ออพยพพลเรือนที่หลบภัยอยู่ภายในโรงงานเหล็ก อาซอฟสตอลด้วย จากนั้นเลขาธิการยูเอ็นจะเดินทางไปเยือนยูเครนในวันพฤหัสบดี เพื่อพบหารือกับประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี และรัฐมนตรีต่างประเทศของยูเครน รวมทั้งเข้าพบกับเจ้าหน้าที่ของหน่วยงานต่างๆ ของยูเอ็นเพื่อผลักดันให้ภารกิจช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมในยูเครนมีความคืบหน้า
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี