วันพุธ ที่ 6 สิงหาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / ต่างประเทศ
‘อิหร่าน’ล่ามือมืด ใช้ก๊าซพิษโจมตีสถานศึกษาหลายแห่ง คาดไม่ต้องการให้ผญ.เข้าเรียน

‘อิหร่าน’ล่ามือมืด ใช้ก๊าซพิษโจมตีสถานศึกษาหลายแห่ง คาดไม่ต้องการให้ผญ.เข้าเรียน

วันพุธ ที่ 1 มีนาคม พ.ศ. 2566, 12.45 น.
Tag : ก๊าซพิษ โจมตีสถานศึกษา อิหร่าน
  •  

‘อิหร่าน’ ล่ามือมืด ใช้ก๊าซพิษโจมตีสถานศึกษาหลายแห่ง คาดคนร้ายไม่ต้องการให้ ‘ผู้หญิง’ ได้เข้าเรียน

1 มี.ค.2566 สื่อต่างประเทศรายงานข่าว ทางการอิหร่านเร่งสืบสวนเหตุคนร้ายใช้ก๊าซพิษโจมตีโรงเรียนหลายแห่ง ซึ่งเบื้องต้นมีข้อสังเกตว่าผู้ก่อเหตุพุ่งเป้าหมายไปที่นักเรียนหญิง โดยสำนักข่าว Voice of America (VOA) สหรัฐอเมริกา เสนอข่าว Suspected Schoolgirl Poisoning Attacks Rattle Iran ระบุว่า การโจมตีเกิดขึ้นตลอด 3 เดือนที่ผ่านมา ทำให้เด็กสาวหลายร้อยคนที่เรียนโรงเรียนต่างๆ ในอิหร่านต้องทนทุกข์ทรมานจากสิ่งที่เชื่อว่าเป็น “ควันพิษ (Noxious Fume)” ที่ลอยเข้ามาในห้องเรียน บางคนอาการหนักถึงขั้นอ่อนแรงจนต้องถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล


รายงานของสื่อสหรัฐฯ กล่าวว่า ในตอนแรกทางการอิหร่านไม่ได้สนใจเรื่องนี้ แต่เมื่อมีการแจ้งเหตุจากโรงเรียน 30 แห่ง จึงเชื่อว่ามีคนร้ายที่มีเจคนาก่อเหตุจริง และบางคนก็คาดการณ์ว่า แรงจูงใจของผู้ก่อเหตุคือการพยายามปิดโรงเรียนสำหรับนักเรียนหญิงในประเทศนี้ ซึ่งมีจำนวนกว่า 80 ล้านคน อนึ่ง ยังมีข้อสังเกตว่า เหตุโจมตีนี้เกิดในช่วงไล่เลี่ยกับเหตุชุมนุมประท้วงที่ยืดเยื้อยาวนานหลายเดือน เนื่องจากการเสียชีวิตของ มาห์ซา อามินี (Mahsa Amini) ขณะถูกควบคุมตัวโดยเจ้าหน้าที่ “ตำรวจศีลธรรม (Morality Police)” ในเดือน ก.ย. 2565

ทางการอิหร่านยังไม่ได้ระบุชื่อผู้ต้องสงสัย แต่การโจมตีได้สร้างความหวาดกลัวว่าเด็กผู้หญิงอาจถูกวางยาพิษเพียงเพราะต้องการการศึกษา ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่เคยถูกท้าทายเมาก่อนตั้งแต่การปฏิวัติอิสลามในปี 2522 ซึ่งที่ผ่านมา รัฐบาลอิหร่านยังได้เรียกร้องให้กลุ่มตาลีบัน ซึ่งปกครองอัฟกานิสถาน ประเทศเพื่อนบ้านทางตะวันออกเฉียงเหนือของอิหร่าน อนุญาตให้ผู้หญิงกลับเข้าสู่ระบบการศึกษาด้วย

รายงานการก่อเหตุโจมตีด้วยก๊าซพิษครั้งแรกเกิดขึ้นเมื่อเดือน พ.ย. 2565 ที่โรงเรียน Noor Yazdanshahr Conservatory ในเมืองกอม ทางภาคตะวันตกของอิหร่าน ซึ่งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของกรุงเตหะราน ประมาณ 125 กิโลเมตร และอีกครั้งในเดือน ธ.ค. ปีเดียวกัน โดยนักเรียนเล่าว่า รู้สึกปวดศีรษะ ใจสั่น เซื่องซึมหรือเคลื่อนไหวไม่ได้ บางคนอธิบายว่ามีกลิ่นคล้ายส้ม คลอรีน หรือสารทำความสะอาด

ในตอนแรก รัฐมนตรีกระทรวงศึกษาธิการของประเทศปฏิเสธรายงานดังกล่าว เช่นเดียวกับเจ้าหน้าที่ไม่ได้เชื่อมโยงคดี เนื่องจากโดยปกติฤดูหนาวในอิหร่านอุณหภูมิมักจะลดลงต่ำกว่าจุดเยือกแข็งในตอนกลางคืน โรงเรียนหลายแห่งได้รับความร้อนจากก๊าซธรรมชาติ นำไปสู่การคาดเดาว่าอาจเป็นพิษของคาร์บอนมอนอกไซด์ที่ส่งผลต่อนักเรียนหญิง กระทั่งในเวลาต่อมา มีรายงานเหตุแบบเดียวกันในกรุงเตหะราน 1 ครั้ง และอีกหลายครั้งในเมืองกอมและเมืองโบรูเจร์ด อีกทั้งพบรายงานผลกระทบต่อโรงเรียนที่มีนักเรียนชายด้วย จึงเริ่มชื่อว่าไม่น่าใช่ความบังเอิญ

ในเวลาต่อมา เจ้าหน้าที่เริ่มเข้ามาตรวจสอบอย่างจริงจัง อัยการสูงสุดของอิหร่านสั่งให้มีการสืบสวนเรื่องนี้ โดยกล่าวว่า มีความเป็นไปได้ที่จะมีการกระทำผิดทางอาญาโดยเจตนา อีกทั้งมีรายงานว่า กระทรวงข่าวกรองของอิหร่านก็เริ่มลงมือตรวจสอบเช่นกัน รวมถึงมื่อวันที่ 26 ก.พ. 2566 สำนักข่าว IRNA ซึ่งเป็นสื่อของทางการอิหร่าน ได้รวบรวมเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเพื่อแจ้งให้ทางการทราบถึงขอบเขตของวิกฤติ รวมถึงเผยแพร่ความเห็นของ ยูเนส ปานาห์ (Younes Panah) รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุชอิหร่าน ที่กล่าวว่า หลังจากการวางยานักเรียนในโรงเรียนที่เมืองกอมหลายครั้ง พบว่าบางคนต้องการให้โรงเรียนทั้งหมด โดยเฉพาะโรงเรียนสตรียุติการเรียนการสอน

รวมถึง เปดรัม ปาเคน (Pedram Pakaien) โฆษกกระทรวงสาธารณสุขอิหร่าน ที่กล่าวว่า พิษไม่ได้มาจากไวรัสหรือจุลินทรีย์ แต่ทั้งสองไม่ได้อธิบายเพิ่มเติม ขณะที่ อาลี เรซา โมนาดี (Ali Reza Monadi) สมาชิกรัฐสภาอิหร่าน ในฐานะคณะกรรมาธิการการการศึกษา อธิบายว่า พิษดังกล่าวเกิดขึ้นโดยเจตนา ซึ่งการมี “เจตจำนงของปีศาจ (Devil's Will)” ขัดขวางไม่ให้เด็กผู้หญิงได้รับการศึกษาถือเป็นอันตรายร้ายแรงและถือเป็นข่าวร้ายอย่างยิ่ง ดังนั้นต้องพยายามค้นหาต้นตอของสิ่งนี้

รายงานข่าวกล่าวต่อไปว่า Shargh สำนักข่าวออนไลน์ในอิหร่านซึ่งส่งเสริมแนวคิดปฏิรูป รายงานว่า พ่อมแผู้ปกครองนักเรียนจำนวนมากในเมืองกอมรู้สึกไม่สบายใจ จึงไม่ให้บุตรหลานไปโรงเรียนอีก ส่งผลให้โรงเรียนหลายแห่งในเมืองต้องปิดทำการในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะที่ล่าสุด วันที่ 28 ก.พ. 2566 มีรายงานการก่อเหตุที่บริเวณเทศมลฑลปาร์ดิส (Pardis) บริเวณชานเมืองฝั่งตะวันออกของกรุงเคหะราน

การตรวจสอบข้อมูลเหตุโจมตีด้วยก๊าซพิษในอิหร่านทำได้ยาก เนื่องจากเนื่องจากการปราบปรามผู้เห็นต่างทั้งหมดที่เกิดจากการประท้วง รวมถึงการชะลอของอินเตอร์เน็ตที่ดำเนินการโดยรัฐบาลอิหร่าน ซึ่งตามรายงานของ คณะกรรมการปกป้องนักข่าว (Committee to Protect Journalists) องค์กรซึ่งมีสำนักงานใหญ่ในเมืองนิวเยอร์กของสหรัฐฯ ระบุว่า ตั้งแต่เริ่มเกิดเหตุชุมนุมประท้วง มีผู้สื่อข่าวถูกจับกุมอย่างน้อย 95 คน

การโจมตีผู้หญิงเคยเกิดขึ้นมาแล้วในอิหร่าน โดยครั้งล่าสุดคือการโจมตีด้วยน้ำกรดในปี 2557 รอบเมืองอิสฟาฮาน ซึ่งในเวลานั้นเชื่อว่าดำเนินการโดยกลุ่มหัวรุนแรงที่มุ่งเป้าไปที่ผู้หญิงในเรื่องการแต่งกาย แต่แม้ในความวุ่นวายรอบการปฏิวัติอิสลาม ก็ไม่เคยมีใครตั้งเป้าไปที่เด็กนักเรียนเพื่อเข้าชั้นเรียน ญามิเลห์ คาดิวาร์ (Jamileh Kadivar) สื่อมวลชนซึ่งเป็นอดีตสมาชิกรัฐสภาสายปฏิรูปคน เขียนบทความเผยแพร่ในหนังสือพิมพ์ เอ็ททีลาอัท (Ettelaat) สื่อท้องถิ่นในกรุงเตหะราน ว่า มีนักเรียนมากถึง 400 คนล้มป่วยเพราะพิษ

คาดิวาร์ ชี้ว่า ผู้อยู่เบื้องหลังเหตุโจมตีอาจเป็นฝ่ายตรงข้ามที่ถูกล้มล้าง หรือไม่ก็เป็นพวกหัวรุนแรงภายในประเทศ ที่ต้องการเปลี่ยนแปลงอิหร่านจาก “สาธารณรัฐอิสลาม (Islamic Republic)” เป็น “รัฐอิสลาม (คอลีฟะห์-Caliphate)” หรือ “รัฐที่ปกครองด้วยกลุ่มอิสลาม (Islamic Emirate)” แบบเดียวกับกลุ่มตาลีบันในอัฟกานิสถาน รวมถึงอ้างแถลงการณ์ที่น่าจะมาจากกลุ่ม “เฟดายีน เวลายัท (Fidayeen Velayat)” ซึ่งอ้างว่า การศึกษาของผู้หญิงเป็นสิ่งต้องห้ามของศาสนาอิสลาม (ฮะรอม-Haram) และขู่จะก่อเหตุวางยาพิษต่อเนื่องหากโรงเรียนยังเปิดการเรียนการสอนให้นักเรียนหญิงอยู่

ทางการอิหร่านไม่ยอมรับกลุ่มใดที่เรียกตนเองว่า เฟดายีน เวลายัท ซึ่งแปลเป็นภาษาอังกฤษว่า “ผู้อุทิศตนเพื่อการพิทักษ์ (Devotees of the Guardianship)” อย่างไรก็ตาม การที่ คาดิวาร์ กล่าวถึงภัยคุกคามนั้น เกิดขึ้นในขณะที่เธอยังคงมีอิทธิพลในการเมืองของอิหร่านและมีสายสัมพันธ์กับชนชั้นปกครอง รวมถึงเจ้าของหนังสือพิมพ์ เอ็ททีลาอัท ยังได้รับการแต่งตั้งจาก อยาตอลเลาะห์ อาลี คาเมเนอี (Ayatollah Ali Khamenei) ผู้นำสูงสุดของอิหร่าน

อาซาร์ มานซูรี (Azar Mansouri) นักการเมืองแนวปฏิรูปที่โดดเด่นอีกคนหนึ่ง ยังเชื่อมโยงการโจมตีด้วยยาพิษที่ต้องสงสัยกับกลุ่มหัวรุนแรง โดยอ้างถึงการโจมตีด้วยน้ำกรดในอิสฟาฮานว่าถูกจัดตั้งขึ้น และหากผู้ก่อเหตุโจมตีถูกจับกุมดำเนินคดี ทุกวันนี้กลุ่มปฏิกิริยาคงไม่มารุมโทรมเด็กหญิงบริสุทธิ์ในโรงเรียน ด้าน ฮาดี แกมี (Hadi Ghaemi) ผู้อำนวยการบริหารของศูนย์เพื่อสิทธิมนุษยชนในอิหร่านในนิวยอร์ก กล่าวว่า นี่เป็นความคิดแบบ “สายเคร่งมาก (Very Fundamentalist)” ที่ปรากฏอยู่ในสังคม ตนไม่รู้ว่ากลุ่มนี้แพร่หลายแค่ไหน แต่ความจริงที่ว่าพวกเขาลงมือได้โดยไม่ถูกลงโทษนั้นเป็นเรื่องที่น่าหนักใจมาก

สถานีวิทยุและโทรทัศน์ SBS ของออสเตรเลีย เสนอข่าว Hundreds of Iranian schoolgirls poisoned in suspected attempt to 'close girls' schools' ระบุว่า นับตั้งแต่เดือน พ.ย. 2565 มีโรงเรียนกว่า 30 แห่ง ใน 4 เมืองของอิหร่าน ถูกโจมตีด้วยสารซึ่ง “ก่อความเป็นพิษแบบอ่อนๆ (Mild Poison)” โดย บาห์รัม เอนอลลาฮี (Bahram Einollahi) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขอิหร่าน กล่าวว่า การสืบหาว่าสารพิษอ่อนๆ นี้มาจากไหน รวมถึงเจตนาของการเคลื่อนไหวดังกล่าวนั้นไม่อยู่ในขอบเขตรับผิดชอบของกระทรวงฯ

นักบวชและนักการเมืองอาวุโสหลายคนวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลที่ล้มเหลวในการยุติการโจมตีด้วยยาพิษและให้เหตุผลที่ขัดแย้งกัน พร้อมเตือนว่าความไม่พอใจอาจจุดชนวนการประท้วงต่อไป อาทิ โมฮัมหมัด ญาวัด ตาบาตาบาอิ-โบรุเจอร์ดี (Mohammad Javad Tabatabai-Borujerdi) หนึ่งในนักบวชอาวุโส ให้ความเห็นว่า เจ้าหน้าที่ให้ถ้อยแถลงที่ขัดแย้งกัน บ้างบอกว่าเป็นเหตุที่มีผู้จงใจก่อขึ้น บ้างก็บอกว่ามันเชื่อมโยงกับประเด็นความมั่นคง และบ้างก็โทษว่าเป็นเพราะระบบทำความร้อนของโรงเรียน ทั้งหมดนี้ยิ่งเพิ่มความคลางแคลงใจต่อรัฐในหมู่ประชาชน  -009

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

‘อิหร่าน’สั่งยุบ‘ตำรวจศีลธรรม’หลังปชช.ประท้วงยาวนานกว่า2เดือน-จ่อเลิกบังคับสตรีต้องคลุมผมด้วย

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • \'ญี่ปุ่น\'ประณาม\'ทรัมป์\' หลังเทียบถล่มอิหร่านกับทิ้งปรมาณูฮิโรชิมา เตือนให้ถอนคำพูด 'ญี่ปุ่น'ประณาม'ทรัมป์' หลังเทียบถล่มอิหร่านกับทิ้งปรมาณูฮิโรชิมา เตือนให้ถอนคำพูด
  • โผล่จากบังเกอร์ใต้ดิน! ผู้นำสูงสุดอิหร่านตบหน้าสหรัฐฯ เย้ยโจมตี3โรงงานนิวเคลียร์ล้มเหลว โผล่จากบังเกอร์ใต้ดิน! ผู้นำสูงสุดอิหร่านตบหน้าสหรัฐฯ เย้ยโจมตี3โรงงานนิวเคลียร์ล้มเหลว
  • คอนเฟิร์ม! \'อาลี ชาดมานี\'ผบ.กองทัพอิหร่านเสียชีวิตแล้ว หลังเข้ารับตำแหน่งเพียง2สัปดาห์ คอนเฟิร์ม! 'อาลี ชาดมานี'ผบ.กองทัพอิหร่านเสียชีวิตแล้ว หลังเข้ารับตำแหน่งเพียง2สัปดาห์
  • ให้โอกาสได้ฟื้นฟู! ‘ทรัมป์’ส่งสัญญาณ‘สหรัฐฯ’อาจผ่อนปรนคว่ำบาตร‘อิหร่าน’ ให้โอกาสได้ฟื้นฟู! ‘ทรัมป์’ส่งสัญญาณ‘สหรัฐฯ’อาจผ่อนปรนคว่ำบาตร‘อิหร่าน’
  • \'ทรัมป์\'ไฟเขียว! เปิดทางให้\'จีน\'ซื้อน้ำมันดิบจากอิหร่าน เรียกร้องหันมาอุดหนุนสหรัฐฯด้วย 'ทรัมป์'ไฟเขียว! เปิดทางให้'จีน'ซื้อน้ำมันดิบจากอิหร่าน เรียกร้องหันมาอุดหนุนสหรัฐฯด้วย
  • \'ทรัมป์\'ด่ากราด2สื่อใหญ่ปล่อยเฟคนิวส์ หลังตีข่าว3โรงงานนิวเคลียร์อิหร่านเสียหายแค่เล็กน้อย 'ทรัมป์'ด่ากราด2สื่อใหญ่ปล่อยเฟคนิวส์ หลังตีข่าว3โรงงานนิวเคลียร์อิหร่านเสียหายแค่เล็กน้อย
  •  

Breaking News

ด่วน!!! ตร.อำนาจเจริญเข้ม ‘ห้ามบินโดรน’ ฝ่าฝืนจำคุก1ปี-ปรับ40,000บาท

'อิ๊งค์'ยินดีสภาฯผ่าน พ.ร.บ.ชาติพันธุ์ ก้าวสำคัญของการคุ้มครอง-ส่งเสริมวิถีชีวิต

ฮือฮา!! 'จุรี นุ่มแก้ว' เปิดตัวลงสมัคร สส.เขต 2 สงขลา พรรคภูมิใจไทย

'พิชัย'เผยเจรจา'ภาษีสหรัฐฯ' ยังอยู่ระหว่างคุยรายละเอียด คาดเสร็จภายในเดือนนี้

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved