21 เม.ย.66 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า บริษัท สเปซเอ็กซ์ (SpaceX) ทดสอบส่งจรวดซูเปอร์เฮฟวี (Super Heavy) พร้อมยานอวกาศสตาร์ชิป (Starship) ขึ้นสู่อวกาศ การปล่อยจรวดครั้งนี้มีขึ้นบริเวณฐานปล่อยจรวดสเปซเอ็กซ์สตาร์เบส (SpaceX Starbase) บริเวณชายหาดโบคาชิกา (Boca Chica) รัฐเท็กซัส ประเทศสหรัฐอเมริกา

ภายหลังการปล่อยตัวจรวดออกจากฐานประมาณ 01.22 นาที จากกล้องภาคพื้นดินมองเห็นเครื่องยนต์จรวด Raptor engine จำนวน 33 เครื่องยนต์ ของจรวดซูเปอร์เฮฟวี ทำงานไม่เต็มที่หรืออาจหยุดทำงานประมาณ 5-6 เครื่อง (ข้อมูลอย่างไม่เป็นทางการ) ต่อมาจรวดเริ่มเสียการทรงตัว จนกระทั่งประมาณ 04.01 นาที ที่ระดับความสูงประมาณ 29 กิโลเมตร เหนือพื้นโลก ทีมงานภาคพื้นดินได้ตัดสินใจสั่งระเบิดจรวดกลางอากาศเพื่อความปลอดภัย

นับเป็นการทดสอบครั้งสำคัญของบริษัท สเปซเอ็กซ์ และอีลอน มัสก์ ผู้บริหารบริษัทที่เดินทางมาชมการส่งยานอวกาศสตาร์ชิป ด้วยตัวเองบริเวณศูนย์ควบคุมใกล้กับบริเวณฐานปล่อยจรวด อย่างไรก็ตามทีมงานของบริษัทเตรียมศึกษาข้อมูลอันล้ำค่าจากการทดสอบในครั้งแรกนี้ไปใช้เพื่อการปรับปรุงการปล่อยยานอวกาศครั้งต่อไป

ทั้งนี้ สตาร์ชิปเป็นจรวดที่ทรงพลังที่สุดเท่าที่มนุษย์เคยสร้างขึ้น มีระวางบรรทุกมากกว่า 100 ตัน หรือลูกเรือได้เกิน 100 คน จัดอยู่ในชั้นจรวดบรรทุกหนักมาก (super heavy-lift launch vehicle) ประกอบไปด้วย 33 เครื่องยนต์ โดยมีบูสเตอร์ที่ตั้งชื่อตรงตัวว่า Super Heavy เป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญ และทรงพลังมากกว่ายานอาร์ทีมิสของ องค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติสหรัฐฯ (นาซา) เป็นเท่าตัว

ความสูงของสตาร์ชิป คือ 120 เมตร สูงกว่าเทพีเสรีภาพ และใหญ่กว่าจรวด Saturn Five ที่พามนุษย์ไปเหยียบดวงจันทร์มาแล้วในภารกิจอะพอลโล ช่วงทศวรรษที่ 1960-1970

สตาร์ชิปจะถูกนำไปใช้ในภารกิจ Artemis III ซึ่งเป็นการเดินทางครั้งประวัติศาสตร์ที่จะพามนุษย์โลกขึ้นไปเหยียบดวงจันทร์อีกครั้ง ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นอย่างเร็วที่สุดในเดือน ธ.ค.2025

.-011