28 เมษายน 2566 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ญี่ปุ่นตัดสินใจอย่างเป็นทางการแล้วว่าจะปรับลดระดับสถานะของโรคโควิด-19 ให้อยู่ในระดับเดียวกับใข้หวัดใหญ่ที่เกิดขึ้นตามฤดูกาลตั้งแต่วันที่ 8 พฤษภาคมเป็นต้นไป ซึ่งเป็นการปูทางให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจและสังคมกลับมาเป็นปกติได้อย่างเต็มรูปแบบ

ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อของคณะกรรมการที่กระทรวงสาธารณสุขเปิดไฟเขียวให้ปรับสถานะโรคโควิดโดยพิจารณาจากสถานการณ์ปัจจุบันและความพร้อมของระบบดูแลสุขภาพหากเกิดการระบาดขึ้นในประเทศอีกครั้ง คณะกรรมการกล่าวว่า สถานบันทางการแพทย์ประมาณ 8,400 แห่ง ที่ประกอบด้วยร้อยละ 90 ของโรงพยาบาลและคลินิคทั่วประเทศ มีความพร้อมที่จะรับคนไข้ 58,000 คน สถานบันประมาณ 44,000 แห่งจะรับคนไช้นอกจาก 42,000 แห่งที่มีอยู่ในปัจจุบัน

นายคัตสึโนบุ คาโตะ รัฐมนตรีสุขภาพ แรงงานและสวัสดิการ กล่าวว่า มาตรการพิเศษที่รัฐบาลใช้รับมือกับการระบาดของโควิดจะสิ้นสุดลงในวันที่ 7 พฤษภาคม ในญี่ปุ่น โควิด-19 ในขณะนี้มีสถานะตามกฎหมายเท่ากับหรือเข้มงวดมากว่าระดับที่ 2 ที่ครอบคลุมโรคติดต่อต่าง ๆ เช่น วัณโรคและโรคทางเดินหายใจเฉียบพลันรุนแรง หรือ โรคซาร์ส และรัฐบาลประกาศว่า จะปรับสถานะโควิด-19 ให้อยู่ในระดับที่ 5 เท่ากับไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาล ตั้งแต่วันที่ 8 พฤษภาคมเป็นต้นไป ซึ่งหมายความว่า จะไม่มีการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินเมื่อมีการระบาดของโควิดอีกครั้ง

การปรับลดระดับสถานะโควิดเกิดขึ้นหลังจากรัฐบาลพิจารณาเลื่อนการยกเลิกมาตรการคุมเข้มพรมแดนให้เร็วขึ้นกว่า 1 สัปดาห์เป็นในเวลาเที่ยงคืนของวันศุกร์ โดยคาดหมายว่า ประชาชนจำนวนมากจะเดินทางไปต่างประเทศและกลับมาในช่วงวันหยุดยาวที่เรียกว่า “โกลเด้นวีค” ที่จะเริ่มขึ้นในวันเสาร์นี้ ภายใต้มาตรการที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน ผู้ที่ต้องการเดินทางเข้าประเทศญี่ปุ่นจะต้องมีหลักฐานยืนยันว่าได้ฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 แล้ว 3 โดส นอกจากนี้รัฐบาลคาดว่าจะยุติการสุ่มตรวจผู้ที่เดินทางมากับสายการบินซึ่งบินตรงมาจากจีนแผ่นดินใหญ่ด้วย ทั้งนี้แม้ว่ามาตรการต่างๆ จะถูกยกเลิกไป แต่เจ้าหน้าที่ระบุว่าจะยังคงตรวจสุขภาพผู้ที่มีอาการไข้และไอตามความสมัครใจของผู้ที่จะเดินทางเข้าประเทศ