เมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม 2566 สำนักข่าวบลูมเบิร์ก เสนอข่าว Thailand Must Raise Revenue to Boost Spending, World Bank Says อ้างข้อเสนอแนะจากรายงานการประเมินรายได้และการใช้จ่ายสาธารณะของประเทศไทย ซึ่ง ธนาคารโลก (World Bank) เพิ่งเผยแพร่ในวันนี้ ระบุว่า ประเทศไทยต้องปฏิรูประบบการจัดเก็บภาษีเพื่อให้มีรายได้เพิ่มขึ้นสอดคล้องกับจัดทำนโยบายสวัสดิการสังคม โดยเฉพาะเมื่อไทยเข้าสู่ภาวะสังคมสูงวัย มีประชากรสูงอายุเพิ่มมากขึ้น
โดยค่าใช้จ่ายของรัฐบาลในด้านเงินบำนาญ การดูแลสุขภาพ การศึกษา และการปรับตัวเข้ากับสภาพอากาศจะต้องเพิ่มขึ้น แต่ก็ต้องทำให้สำเร็จโดยไม่ขัดขวางการเติบโตทางเศรษฐกิจและการควบคุมหนี้สาธารณะ ซึ่ง ฟาบริซิโอ ซาร์โคเน (Fabrizio Zarcone) ผู้จัดการธนาคารโลกประจำประเทศไทย กล่าวว่า ไทยสามารถบรรลุเศรษฐกิจที่เท่าเทียมและยืดหยุ่นได้มากขึ้นด้วยการปรับปรุงประสิทธิภาพของการใช้จ่ายภาครัฐ การเพิ่มรายได้ และดำเนินนโยบายเพื่อสนับสนุนความเปราะบางที่สุดและตอบสนองต่อความท้าทายที่เกี่ยวข้องกับสภาพอากาศ
ธนาคารโลก ชี้ว่า หากไทยปฏิรูปภาษีแบบต่อเนื่องจะสามารถเพิ่มรายได้โดยรวมร้อยละ 3.5 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) )สำหรับชาติที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับสองของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) สิ่งเหล่านี้รวมถึงการเพิ่มอัตราภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) และยกเลิกการยกเว้น ขยายฐานภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาและปรับปรุงมาตรการลดหย่อนต่างๆ รวมถึงขยายการจัดเก็บภาษีทรัพย์สิน
“หากมีการดำเนินการอย่างค่อยเป็นค่อยไปในช่วงที่เหลือของทศวรรษนี้ การปฏิรูปจะส่งเสริมความเท่าเทียม ขณะเดียวกันก็จัดหารายได้ที่จำเป็นสำหรับการใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น ผลกระทบด้านลบต่อคนยากจนอาจถูกชดเชยด้วยการปฏิรูปความช่วยเหลือทางสังคม ในขณะที่ยังคงได้รับรายได้สุทธิจำนวนมาก” รายงานของธนาคารโลก ระบุ
รายงานข่าวกล่าวต่อไปว่า หนี้สาธารณะของไทยเพิ่มขึ้นเป็นมากกว่าร้อยละ 60 จากประมาณร้อยละ 40 ก่อนเกิดสถานการณ์โรคระบาดโควิด-19 หลังจากที่ประเทศต่างๆ เพิ่มการกู้ยืมเพื่อรับมือกับการระบาดของโควิดและมาตรการกระตุ้นกองทุน หนี้ของรัฐอาจเพิ่มขึ้นอีก เนื่องจากแนวร่วมของพรรคการเมืองที่สนับสนุนประชาธิปไตย ซึ่งชนะการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 14 พ.ค. 2566 มีการหาเสียงด้วยนโยบายลดแลกแจกถาม อาจจำเป็นต้องกู้ยืมเงินเพิ่มเติมเพื่อนำมาใช้จ่ายตามคำสัญญาของพวกเขา
ทั้งนี้ ธนาคารโลกยังกล่าวด้วยว่า ในขณะที่หนี้สาธารณะเพิ่มขึ้นเนื่องจากการตอบสนองต่อโรคระบาด แต่ความเสี่ยงทางการคลังโดยรวมยังคงสามารถจัดการได้ พร้อมเสริมว่าในระยะเวลาอันใกล้นี้ รัฐบาลสามารถเพิ่มการใช้จ่ายในโครงสร้างพื้นฐานสาธารณะและพื้นที่สำคัญอื่นๆ โดยการรวมการใช้จ่ายไว้ที่อื่น
- 006
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี