ครู‘เกาหลีใต้’ลุกฮือประท้วงหลังเพื่อนร่วมอาชีพฆ่าตัวตาย ปมทน‘นร.เกเร-พ่อแม่ป้องลูกเทวดา’ไม่ไหว

5 ก.ย. 2566 The Korea Herald หนังสือพิมพ์ท้องถิ่นในเกาหลีใต้ เผยแพร่บทบรรณาธิการ “Teachers’ rally” ว่าด้วยครูในเกาหลีใต้นับหมื่นคน ชุมนุมประท้วงหน้าอาคารรัฐสภา เมื่อวันที่ 4 ก.ย. 2566 ที่ผ่านมา เพื่อไว้อาลัยให้กับเพื่อนร่วมอาชีพที่ฆ่าตัวตายเนื่องจากไม่อาจแบกรับความกดดันทั้งจากนักเรียนที่ไม่เชื่อฟังและพ่อแม่ผู้ปกครองที่มีพฤติกรรมข่มขู่คุกคามได้อีกต่อไป 

การชุมนุมในกรุงโซลจัดขึ้นพร้อมกับกิจกรรมไว้ทุกข์ที่คล้ายกันทั่วประเทศ และชั้นเรียนของโรงเรียนบางชั้นปิดเร็วเนื่องจากมีครูหลายพันคนในเขตการศึกษาท้องถิ่นแห่งเดียวได้หยุดงานหนึ่งวันเพื่อเข้าร่วมกิจกรรมร่วมกัน การดำเนินการอย่างพร้อมเพรียงโดยครูบางคนลาหยุดงานแม้จะมีคำเตือนที่เข้มงวดจากหน่วยงานการศึกษาก็ตาม แสดงให้เห็นถึงความสิ้นหวังและความโกรธแค้นต่อสถานการณ์ที่ไม่ยุติธรรมและตึงเครียดทั้งในและนอกห้องเรียน

เหตุการณ์เริ่มแรกซึ่งก่อให้เกิดการประท้วงหลายครั้งคือการฆ่าตัวตายของครูโรงเรียนประถมศึกษาในกรุงโซลเมื่อเดือน ก.ค. 2566 ซึ่งมีรายงานว่าผู้ตายพยายามดิ้นรนเพื่อจัดการกับคดีความรุนแรงในโรงเรียน เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เห็นได้ชัดว่าครูอีกสองคนฆ่าตัวตาย คนหนึ่งในกรุงโซลเมื่อวันที่ 31 ส.ค. 2566 และอีกคนในเมืองกุนซาน จังหวัดชอลลาเหนือ เมื่อวันที่ 1 ก.ย. 2566

ก่อนหน้าการชุมนุมเมื่อวันจันทร์ ในวันที่ 2 ก.ย. 2566 ครูประมาณ 200,000 คน ซึ่งหลายคนแต่งชุดดำแสดงความอาลัยทั่วประเทศรวมตัวกันในกรุงโซลเพื่อรำลึกถึงการเสียชีวิตของเพื่อนร่วมอาชีพ และเรียกร้องให้รัฐบาลและสมาชิกสภานิติบัญญัติใช้มาตรการที่มีประสิทธิภาพเพื่อปกป้องสิทธิของพวกเขา ซึ่งต้องบอกว่า การประท้วงของครูดำเนินมาเป็นสัปดาห์ที่ 7 และการชุมนุมแบบต่อเนื่องได้รับการตีความว่าเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าความคับข้องใจของครูเกี่ยวกับผู้ปกครองที่ไร้ความเห็นอกเห็นใจและนักเรียนที่มีพฤติกรรมก่อกวนกำลังใกล้ถึงจุดเดือดแล้ว

เพื่อตอบสนองต่อความรู้สึกที่แย่ลงของครู รัฐบาลเกาหลีใต้จึงรีบเปิดเผยชุดนโยบายใหม่ในวันที่ 23 ส.ค. 2566 ภายใต้กฎใหม่ที่มีผลบังคับใช้ ครูสามารถไล่นักเรียนออกจากชั้นเรียนและยึดโทรศัพท์มือถือได้เมื่อนักเรียนมีพฤติกรรมก่อกวนและขัดจังหวะชั้นเรียน แต่รัฐบาลจำเป็นต้องดำเนินการให้เร็วขึ้นเพื่อป้องกันเหตุการณ์ที่น่าสลดใจกว่านี้ โดยล่าสุดเมื่อวันที่ 3 ก.ย. 2566 ที่ผ่านมา พบครูอีกคนในวัย 60 ปี เสียชีวิตในเมืองซองนัม จังหวัดคยองกี ครอบครัวของเขาแจ้งตำรวจว่าเขาเครียดเนื่องจากการร้องเรียนจากผู้ปกครอง

“หัวใจสำคัญของความขัดแย้งคือความไม่ลงรอยกันเกี่ยวกับการปฏิบัติการในชั้นเรียน ซึ่งครูมักจะรู้สึกหมดหนทางเมื่อเผชิญกับนักเรียนที่เกเรและผู้ปกครองที่คอยปกป้องมากเกินไป ซึ่งขู่ว่าจะฟ้องร้องด้วยเหตุผลเล็กๆ น้อยๆ หรือเหตุผลเท็จ หรือเพียงคุกคามครูด้วยการส่งข้อความโจมตีพวกเขา ครูเชื่อว่าผู้ที่เสียชีวิตจากการฆ่าตัวตายเป็นเหยื่อของนักเรียนและผู้ปกครองที่ทารุณกรรมเช่นนี้ ไม่น่าแปลกใจเลยที่ครูจำนวนมากไม่เต็มใจที่จะดำเนินการทางวินัยกับนักเรียนที่กระทำการก่อกวนเนื่องจากกลัวว่าจะต้องเผชิญหน้ากับพ่อแม่ที่กดดัน” บทความของสื่อเกาหลีใต้ ระบุ

ในเกาหลีใต้ บรรดาครูได้เรียกร้องให้มีการแก้ไขกฎหมายว่าด้วยสวัสดิการเด็ก ซึ่งพวกเขากล่าวว่าอาจทำให้ครูต้องรับผิดชอบต่อการทารุณกรรมเด็กอย่างไม่ถูกต้องจากการดำเนินการทางวินัยที่ชอบด้วยกฎหมาย เพื่อให้ชั้นเรียนดำเนินไปได้ตามปกติ การประท้วงของครูยังแพร่กระจายไปสู่เวทีการเมือง ซึ่งฝ่ายบริหารชุดปัจจุบันและพรรคคู่แข่งมีจุดยืนที่แตกต่างกันในประเด็นนี้ กระทรวงศึกษาธิการเตือนครูอย่าลาหยุดเพื่อเข้าร่วมการชุมนุม โดยระบุว่าการกระทำที่ผิดกฎหมายของพวกเขาจะได้รับการจัดการอย่างเข้มงวด รวมถึงการเลิกจ้างและดำเนินคดีอาญา

พรรคการเมืองฝ่ายรัฐบาลเกาหลีใต้ แสดงความกังวลว่าการชุมนุมจะขัดขวางการดำเนินงานของชั้นเรียนในโรงเรียน พร้อมขอให้กระทรวงศึกษาธิการงดใช้มาตรการเข้มงวดต่อครู และพยายามฟื้นฟูสิทธิที่เสียหายแทน แต่ในทางตรงกันข้าม พรรคฝ่ายค้านให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่แก่ครูที่เข้าร่วมการชุมนุม ขณะเดียวกันก็ตำหนิกระทรวงศึกษาธิการที่มีจุดยืนที่เข้มงวดเหนือการชุมนุม

บทความของ The Korea Herald ทิ้งท้ายว่า ทั้งสองฝ่ายยืนยันว่าพวกเขาจะพยายามผ่านการแก้ไขกฎหมายที่เกี่ยวข้องทั้ง 4 ฉบับที่มีจุดมุ่งหมายเพื่อปกป้องสิทธิของครู โดยคณะอนุกรรมการด้านการศึกษาของรัฐสภาจะมีการประชุมร่างกฎหมายในวันที่ 7 ก.ย. 2566 เมื่อพิจารณาถึงความร้ายแรงของปัญหาแล้ว ผู้บัญญัติกฎหมายควรเร่งกระบวนการนิติบัญญัติให้เร็วขึ้น รัฐบาลจะต้องดำเนินการเพื่อปกป้องสิทธิของทั้งนักเรียนและครูอย่างสมดุล

ที่มา koreaherald