สื่อนอกตีข่าวชาวรัสเซียแห่หนีภัยสงครามยูเครนเข้าไทย ทำคนท้องถิ่นกังวลแย่งงาน-ราคาอสังหาฯพุ่ง
6 ก.ย.2566 สำนักข่าวอัลจาซีราของกาตาร์ เสนอรายงานพิเศษ ‘Russian-only’ businesses in Thailand’s Phuket spark backlash ว่าด้วยสงครามรัสเซีย-ยูเครน ส่งผลให้มีชาวรัสเซียจำนวนมากลี้ภัยมาพักอาศัยในประเทศไทย โดยเฉพาะใน จ.ภูเก็ต และคนเหล่านี้ได้เข้าไปแย่งงานคนไทยในท้องถิ่น โดยรายงานของทางการไทย พบว่า 7 เดือนแรกของปี 2566 มีชาวรัสเซียเดินทางไปภูเก็ตถึง 7 แสนคน เพิ่มขึ้นเท่าตัวเมื่อเทียบกับช่วงก่อนเกิดสงคราม
ในเดือน ก.ค. 2566 เซอร์เก ลาฟรอฟ (Sergey Lavrov) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของรัสเซีย เป็นประธานในพิธีเปิดสถานกงสุลรัสเซียที่ภูเก็ต เพื่อรองรับจำนวนพลเมืองที่กำลังมองหางานและพักผ่อนบนเกาะที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ทั้งนี้ การมีอยู่ของรัสเซียที่เพิ่มขึ้นกำลังนำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ราคาอสังหาริมทรัพย์พุ่งสูงขึ้น ซึ่งแม้ว่าจะเป็นประโยชน์ต่อเจ้าของและนายหน้าชาวไทย แต่ก็ทำให้ผู้เช่าหาสถานที่ที่เหมาะสมบนเกาะได้ยากขึ้น
ธุรกิจที่ดำเนินการโดยชาวรัสเซียและเน้นให้บริการเฉพาะชาวรัสเซียเท่านั้นได้เติบโตขึ้น โดยมักจะดำเนินการผ่านแอปพลิเคชั่นภาษารัสเซีย และมีพนักงานที่ทำงานโดยผิดกฎหมาย ซี่งรวมไปถึงการขายบริการทางเพศโดยชาวรัสเซียบริเวณศูนย์กลางสถานบันเทิงยามค่ำคืนของถนนบางลา โดย Prayut Thongmusik ประธานชมรมคนขับรถตู้ในภูเก็ต ซึ่งมีสมาชิก 200 ราย เปิดเผยว่า พวกตนได้รับผลกระทบจากชาวรัสเซียที่เข้ามาทำธุรกิจการท่องเที่ยว คนเหล่านี้ขับรถส่วนบุคคลที่ไม่ได้จดทะเบียนกับหน่วยงานกำกับดูแลการขนส่งของไทย ให้บริการรับนักท่องเที่ยวที่จองผ่านแอปฯ รัสเซีย โดยเสนอค่าบริการที่ถูกกว่าเเกือบร้อยละ 20 นั่นคือเงินรัสเซียทั้งหมดจะหมุนเวียนอยู่แต่กับชาวรัสเซีย
บนเพจเฟซบุ๊กของท้องถิ่น โพสต์ต่างๆ รวบรวมความกังวลที่เพิ่มขึ้นของคนในท้องถิ่นที่กลัวว่างานของพวกเขาจะถูกคุกคาม และคนไทยกำลังกลายเป็นเจ้าของธุรกิจการท่องเที่ยวแต่เพียงในนาม โดยมีนักลงทุนชาวรัสเซียอยู่เบื้องหลัง บางโพสต์มีรูปถ่ายการรับแท็กซี่ของรัสเซีย และผู้คนที่เชื่อว่าเป็นคนขับชาวรัสเซีย พร้อมกับเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาควบคุม
ท่ามกลางความไม่พอใจที่เพิ่มมากขึ้น กองกำลังตำรวจของภูเก็ตเมื่อเดือนที่แล้วได้ประกาศจับกุมคนงานผิดกฎหมายจำนวนหนึ่ง ซึ่งบางคนถูกชาวบ้านแสดงความไม่พอใจชี้ให้เห็น อาทิ ในเดือน ก.ค. 2566 มีการจับกุมชาวรัสเซีย 3 คนที่เปิดร้านทำผม โดย พ.ต.ท.ธงชัย มติธรรม (Thongchai Matitam) รอง ผกก.(สอบสวน)สภ.เชิงทะเล อ.ถลาง จ.ภูเก็ต กล่าวว่า ตำรวจได้ตั้งข้อหาทำงานในอาชีพที่สงวนไว้สำหรับคนไทยเท่านั้น
นอกจากนี้ยังมีความกังวลว่าการไหลเข้าของเงินรัสเซียอาจมาพร้อมกับการแข่งขันทางธุรกิจและอาชญากรรม ดังตัวอย่างเมื่อวันที่ 8 มิ.ย. 2566 เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง จ.ภูเก็ต จับกุมชายชาวคาซัคสถาน ผู้ต้องสงสัยก่อเหตุยิงนักธุรกิจชาวรัสเซีย ดมิทรี อาเลย์นิคอฟ (Dmitry Aleynikov) วัย 44 ปี ในเวลากลางวันแสกๆ ขณะที่เขานั่งอยู่ในรถด้านนอกร้านกาแฟที่มีผู้คนพลุกพล่าน รวมถึงเมื่อวันที่ 4 ก.ย. 2566 ในพื้นที่เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี ตำรวจเข้าจับกุมชาวรัสเซียวัย 31 ปี ผู้ต้องสงสัยสมรู้ร่วมคิดกับแก๊งตุ้มตุ๋นที่มีฐานปฏิบัติการในกัมพูชา ประเทศเพื่อนบ้านของไทย
อาชญากรชาวรัสเซียหลายคนถูกควบคุมตัวขณะหลบซ่อนอยู่ในรีสอร์ทอื่นๆ รวมถึงที่เมืองพัทยา จ.ชลบุรี ซึ่งในช่วงไม่กี่ปีมานี้มีชื่อเสียงในฐานะฐานที่มั่นของกลุ่มมาเฟียรัสเซียที่หลบหนีคดี ขณะที่ใน จ.ภูเก็ต ด้านหนึ่งทางการเน้นย้ำว่าประชากรชาวรัสเซียส่วนใหญ่ที่อาศัยอยู่ในไทยยังปฏิบัติตามกฎหมาย แต่อีกด้านหนึ่ง ชาวรัสเซียบางส่วนในภูเก็ตก็แสดงความกังวลเกี่ยวกับสัญชาตของพวกเขาที่อาจถูกเลือกปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรม
เซอร์เก มาลินิน (Sergey Malinin) ชาวรัสเซียที่ทำกิจการบริษัทนำเที่ยวมานาน 25 ปี กล่าวว่า คนไทยเข้าใจคนที่เห็นว่าเป็นชาวรัสเซียไปหมด โดยที่แยกไม่ออกว่านั่นอาจเป็นชาวอุซเบกิสถาน ยูเครน หรือจอร์เจียก็ได้ ชาวรัสเซียบางคนทำงานผิดกฎหมายเนื่องจากกฎหมายที่เข้มงวดของไทยเกี่ยวกับแรงงานข้ามชาติ แต่ภาพรวมคือความสัมพันธ์ทางวัฒนธรรมและเศรษฐกิจระหว่างประเทศที่กำลังเติบโต ชาวรัสเซียบางคนกลายเป็นอาชญากรเพราะพวกเขาไม่มีงานถูกต้องตามกฎหมายในประเทศไทย พวกเขาไม่สามารถขอวีซ่าได้อีกต่อไป เมื่อมีเงินแต่หางานไม่ได้ วิธีเดียวที่จะอยู่ได้คือทำผิดกฎหมาย
การมีส่วนร่วมอย่างมากของชาวรัสเซียต่อเศรษฐกิจท้องถิ่นมีความสำคัญอย่างยิ่งเนื่องจากการฟื้นตัวของการท่องเที่ยวจากประเทศจีนที่ซบเซาหลังสถานการณ์โรคระบาดโควิด-19 ซึ่งกำลังต่อสู้กับเศรษฐกิจที่ชะลอตัว Simpsonmarine Phuket ผู้จำหน่ายเรือยอชท์หรู ระบุว่า ลูกค้ารายใหญ่ที่สุดคือชาวรัสเซียที่ซื้อเรือยอชท์มูลค่าหลายล้านเหรียญสหรัฐ โดยจำนวนผู้ซื้อชาวรัสเซียเพิ่มขึ้นราวร้อยละ 10-20 นับตั้งแต่เกิดสงคราม
ในวันที่ 15 ส.ค. 2566 สมาคมการท่องเที่ยวของภูเก็ต ส่งผู้แทยไปจัดงานโปรโมทการท่องเที่ยวที่เมืองเซนต์ปีเตอร์สเบิร์กของรัสเซีย โดยหวังรายได้ประมาณ 1.7 พันล้านเหรียญสหรัฐ (เกือบ 6 หมื่นล้านบาท) ขณะที่ราคาอสังหาริมทรัพย์ก็พุ่งสูงขึ้น เนื่องจากชาวรัสเซียมองหาบ้านที่ห่างไกลจากสถานการณ์ความขัดแย้งที่ยังมองไม่เห็นวันสิ้นสุด ประกอบกับภูเก็ตก็มีที่ดินจำกัด
โซเฟีย มาลีกาเอวา (Sofia Malygaeva) นายหน้าอสังหาฯ ชาวรัสเซีย เปิดเผยว่า ลูกค้าจำนวนมากซื้อแบบไม่ได้อยู่แผน โดยใช้เงินราว 20-30 ล้านบาท คนเหล่านี้มีตั้งแต่มาจากกรุงมอสโกไปจนถึงแถบไซบีเรีย พวกเขายังคงมีธุรกิจในรัสเซียหรือทำงานจากระยะไกล แต่ต้องการให้ครอบครัวอาศัยอยู่ในภูเก็ตพร้อมลูกๆ และมองว่าที่นี่เป็นสถานที่ปลอดภัย
ขอบคุณเรื่องจาก aljazeera
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี