โตเกียว (เอเอฟพี/รอยเตอร์ส/เอ็นเอชเค) – ทางการญี่ปุ่นเตรียมจะเริ่มปล่อยน้ำที่ผ่านการบำบัดออกจากโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟุกุชิมะเป็นรอบที่ 2 ในสัปดาห์หน้า หลังดำเนินการปล่อยครั้งแรกเมื่อวันที่ 24 สิงหาคม
บริษัทเทปโก้ซึ่งผู้ดำเนินการโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟุกุชิมะแถลงว่า จะเริ่มปล่อยน้ำที่ผ่านการบำบัดลงสู่ทะเลรอบที่สองในวันที่ 5 ตุลาคมนี้ หลังจากที่การตรวจสอบการปล่อยน้ำในรอบแรกได้เสร็จสิ้นลง
ก่อนหน้านี้ โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟูกุชิมะได้ปล่อยน้ำลงสู่มหาสมุทรแปซิฟิกรอบแรกไปเมื่อวันที่ 24 สิงหาคม และไปสิ้นสุดลงเมื่อวันที่ 11 กันยายนที่ผ่านมา โดยน้ำที่ปล่อยออกมาในรอบแรกมีปริมาณราว 7,800 ตัน จากที่มีแผนว่าจะปล่อยน้ำทั้งหมดจากโรงไฟฟ้านิวเคลียร์แห่งนี้รวม 1.34 ล้านตันหรือเท่ากับน้ำในสระว่ายน้ำโอลิมปิก 500 สระ
น้ำเหล่านี้เป็นน้ำที่เก็บสะสมมาตั้งแต่หลังเกิดเหตุการณ์สึนามิรุนแรงเมื่อปี 2554 ซึ่งทำให้โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟุกุชิมะได้รับความเสียหายอย่างหนัก แต่ญี่ปุ่นยืนยันว่าน้ำที่ปล่อยออกมาได้ผ่านการบำบัดเอาสารกัมมันตรังสีออกไปจนอยู่ในระดับที่ปลอดภัยแล้ว และได้รับการรับรองจากทบวงพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ
อย่างไรก็ตาม หลายประเทศพากันประท้วงการปล่อยน้ำของญี่ปุ่น โดยเฉพาะจีนและเกาหลีใต้ ที่ต่างระงับการนำเข้าอาหารทะเลจากญี่ปุ่นโดยทันที ขณะที่ ราห์ม เอมมานูเอล ทูตสหรัฐฯ ประจำญี่ปุ่น ได้โพสต์ภาพถ่ายลงในแอปพลิเคชั่น X หรือทวิตเตอร์เดิม เป็นภาพเรือประมงของจีนที่เข้ามาจับสัตว์น้ำในทะเลนอกชายฝั่งญี่ปุ่นเมื่อวันที่ 15 กันยายน ทั้งๆ ที่จีนห้ามนำเข้าอาหารทะเลจากแหล่งเดียวกัน ซึ่งแสดงให้เห็นว่าอาหารทะเลจากแหล่งดังกล่าวมีความปลอดภัย โดยที่สหรัฐฯเองก็ให้การสนับสนุนญี่ปุ่นในเรื่องนี้
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี