โป๊ปเปิดอุโมงค์เชื่อมมัสยิดกับโบสถ์คริสต์

จาการ์ตา – สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส ประมุขแห่งคริสตจักรโรมันคาทอลิฟ ซึ่งกำลังเสด็จเยือนอินโดนีเซีย ทรงร่วมเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ การเปิดใช้อุโมงค์ที่เชื่อมระหว่างมัสยิดอิสติกลัล มัสยิดสำคัญอันเป็นสัญลักษณ์ของอินโดนีเซียในกรุงจาการ์ตา กับโบสถ์แม่พระแห่งอัสสัมชัญ นิกายโรมันคาทอลิกสไตล์นีโอโกธิค ซึ่งสร้างอยู่ติดกันและมีการสร้างอุโมงค์เชื่อมทางเดินระหว่างศาสนสถานทั้งสองแห่ง  เพื่อแสดงถึงสันติภาพ และการอยู่ร่วมกันอย่างสันติของศาสนาต่างๆ ได้ จึงได้ชื่อเป็นอุโมงค์แห่งภราดรภาพ ทำให้โป๊ปฟรานซิสทรงชื่นชมในการสร้างอุโมงค์นี้ขึ้น โดยตรัสว่า อุโมงค์มักถูกมองว่าเป็นสถานที่ที่มืดมิด แต่ทุกอย่างอุโมงค์นี้ทุกอย่างเปล่งแสงสดใส โดยพวกท่านทุกคนต่างเป็นแสงส่อง ด้วยมิตรภาพ ความสามัคคี และการช่วยเหลือเกื้อกูลกัน เหตุการณ์ประวัติศาสตร์จึงมีความสำคัญต่ออินโดนีเซีย ประเทศที่ประชากรกว่าร้อยละ 80 เป็นชาวมุสลิม ส่วนประชากรคาทอลิกมีประมาณร้อยละ 3 เท่านั้น เพราะอินโดนีเซียต้องการสร้างสังคมแห่งความปรองดองระหว่างศาสนา

คองโกได้รับวัคซีนฝีดาษวานร

คินชาซา – ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลกแถลงว่า วัคซีนป้องกันไวรัสฝีดาษวานร หรือเอ็มพ็อกซ์ ล็อตแรก จัดส่งถึงสาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโกแล้วเมื่อวานนี้ (5 ก.ย.) เป็นวัคซีนป้องกันฝีดาษวานรที่ผลิตโดยบริษัท บาวาเรียน นอร์ดิก ของเดนมาร์ก ซึ่งสหรัฐฯ และสหภาพยุโรปให้การช่วยเหลือในการจัดหาวัคซีนดังกล่าว ผู้บริหารโครงการวัคซีนของสาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโกกล่าวว่า วัคซีนล็อตแรกจะมีจำนวน 200,000 โดส และจะเริ่มฉีดให้ประชาชนได้ในช่วงสุดสัปดาห์นี้  เชื่อว่าหากการฉีดวัคซีนทำได้อย่างรวดเร็วก็น่าจะควบคุมการแพร่ระบาดของโรคได้ สถานการณ์แพร่ระบาดของโรคฝีดาษวานรรอบใหม่ในสาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโกเริ่มมาตั้งแต่เดือนสิงหาคมปีที่แล้ว  เป็นการระบาดของเชื้อไวรัสสายพันธ์เคลด 1 และเคลด 1 บี ที่มีอัตราการเสียชีวิตของผู้ป่วยราวร้อยละ 4 ซึ่งสูงกว่าอัตราการเสียชีวิตของผู้ติดเชื้อไวรัสสายพันธุ์ เคลด 2 ที่เคยระบาดเมื่อสองปีก่อน จนถึงขณะนี้ นี้มีผู้ติดเชื้อในคองโกแล้วราว 27,000 คน และมีผู้เสียชีวิตกว่า 1,100 คน ทำให้องค์การอนามัยโลกประกาศให้โรคฝีดาษวานรเป็นภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขระหว่างประเทศเมื่อวันที่ 14 สิงหาคมที่ผ่านมา

จีนเตรียมรับมือไต้ฝุ่นยางิ

ปักกิ่ง – มณฑลไห่หนานและมณฑลกวางตุ้ง ทางภาคใต้ของจีน เร่งเตรียมพร้อมรับมือกับไต้ฝุ่นยางิซึ่งขณะนี้มีศูนย์กลางอยู่นอกชายฝั่งมณฑลกวางตุ้ง โดยที่เมืองเหวินฉาง มณฑลไห่หนาน เรือประมงทั้งหมดต้องกลับเข้าฝั่ง ขณะเดียวกันทางการได้เตรียมพร้อมอาหาร น้ำดื่ม และของใช้จำเป็นสำหรับประชาชนที่จะอพยพมาอยู่ในศูนย์พักพิง  ส่วนที่เมืองหยางเจียง มณฑลกวางตุ้งเรือประมงทุกลำต้องเข้าเทียบท่าเช่นกัน ขณะที่คนงานในทะเลก็ต้องกลับขึ้นฝั่ง ไต้ฝุ่นยางิเป็นพายุลูกที่ 11 ที่พัดถล่มจีนในปีนี้ ล่าสุด ทวีกำลังแรงขึ้นเป็นซูเปอร์ไต้ฝุ่นระดับ 17 ด้วยความเร็วลมถึง 209 กิโลเมตรต่อชั่วโมง มีความเป็นไปได้ว่าอาจจะเป็นพายุรุนแรงที่สุดในรอบเกือบ 10 ปี  คาดว่าจะพัดขึ้นฝั่งทางภาคใต้ในช่วงบ่ายวันนี้ (6 ก.ย.) จุดที่พายุจะพัดขึ้นน่าจะอยู่ระหว่างเมืองเหวินฉางในมณฑลไห่หนานกับเขตซูเหวินในมณฑลกวางตุ้ง ส่วนที่ฮ่องกง มีการยกเลิก 36 เที่ยวบินเมื่อวานนี้ และคาดว่าสถานการณ์ในวันนี้จะย่ำแย่ลงอีก ชื่อของไต้ฝุ่น ‘ยางิ’ เป็นภาษาญี่ปุ่นแปลว่าแพะ หรืออีกความหมายหนึ่งจะหมายถึงกลุ่มดาวรูปมังกรซึ่งเป็น 1 ใน 12 ราศี