รามัลเลาะห์/เบรุต/เทลอาวีฟ (รอยเตอร์ส/บีบีซี นิวส์/อัล-จาซีรา) - เจ้าหน้าที่ทหารอิสราเอลนำกำลังบุกสำนักงานสถานีโทรทัศน์อัล-จาซีรา ของกาตาร์ในเขตเวสต์แบงก์พร้อมกับคำสั่งของกองทัพที่สั่งปิดสำนักงานดังกล่าวเป็นเวลา 45 วัน ขณะที่กองทัพอิสราเอลและกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ในเลบานอนยังคงยิงขีปนาวุธและโจมตีตอบโต้กันอย่างดุเดือด

สถานีโทรทัศน์อัล-จาซีราที่มีสำนักงานใหญ่อยู่ในประเทศกาตาร์ ออกอากาศสดภาพเหตุการณ์ขณะที่เจ้าหน้าที่ทหารอิสราเอลพร้อมอาวุธครบมือ บุกสำนักงานสถานีโทรทัศน์อัล-จาซีราในเมืองรามัลเลาะห์ ที่อยู่ใจกลางเขตเวสต์แบงก์ ช่วงเช้ามืดวันที่ 22 ก.ย. เจ้าหน้าที่ทหารได้ส่งมอบคำสั่งของกองทัพที่สั่งปิดเป็นการชั่วคราวเป็นเวลา 45 วัน ให้แก่วาลิด อัล-โอมารี ผู้อำนวยการของสถานีอัล-จาซีรา ประจำเขตเวสต์แบงก์ ซึ่งอ่านข้อความในคำสั่งดังกล่าวออกอากาศแบบสดๆ ก่อนที่การออกอากาศของทางสถานีจะถูกระงับไป มีรายงานด้วยว่าเจ้าหน้าที่ทหารอิสราเอลได้ยึดไมโครโฟนและกล้องออกจากถนนด้านนอกสำนักงานสถานีโทรทัศน์แห่งนี้ และสั่งให้ผู้อำนวยการของสถานีออกจากพื้นที่ อีกทั้งยังปลดภาพโปสเตอร์ของผ้สื่อข่าวของอัล-จาซีราคนหนึ่ง ที่เสียชีวิตระหว่างรายงานข่าวทหารอิสราเอลบุกตรวจค้นพื้นที่ในเขตเวสต์แบงก์ ที่ติดไว้ภายในสำนักงานออกไปด้วย

ด้านสมาคมผู้สื่อข่าวปาเลสไตน์ ออกแถลงการณ์ประณามการกระทำของอิสราเอลว่า การตัดสินใจตามอำเภอใจของกองทัพอิสราเอลถือเป็นการละเมิดครั้งใหม่ต่อการทำงานของผู้สื่อข่าวและสื่อ ที่ได้เปิดโปงอาชญากรรมที่ผู้ยึดครองได้กระทำต่อประชาชนชาวปาเลสไตน์

ก่อนหน้านี้เมื่อเดือนพฤษภาคม อิสราเอลได้บุกห้องพักโรงแรมแห่งหนึ่งในนครเยรูซาเลมที่อัล-ซีราใช้เป็นสำนักงานและยึดอุปกรณ์ในการทำงาน หลังจากรัฐบาลอิสราเอลมีคำสั่งห้ามอัล-จาซีรา ดำเนินการในอิสราเอล โดยอ้างเรื่องเป็นภัยต่อความมั่นคงแห่งชาติ

ทั้งนี้ ความสัมพันธ์ระหว่างอิสราเอลกับสถานีโทรทัศ์อัล-จาซีราของกาตาร์ขัดแย้งกันมาโดยตลอด ก่อนจะขัดแย้งกันมากขึ้นหลังเกิดสงครามในฉนวนกาซา โดยผู้สื่อข่าวของอัล-จาซีรา ในพื้นที่ มักจะเป็นสื่อต่างชาติเจ้าเดียวที่ได้นำเสนอสถานการณ์ความรุนแรงในกาซา เนื่องจากสื่อต่างชาติอื่นๆไม่สามารถเดินทางเข้าพื้นที่ได้ ขณะที่อิสราเอลกล่าวหาอัล-จาซีรามาโดยตลอด ว่าเป็นสื่อและเป็นปากเสียงให้กับกลุ่มก่อการร้าย แต่อัล-จาซีราปฏิเสธข้อกล่าวหานี้ของอิสราเอล

ในอีกด้านหนึ่ง กองทัพอิสราเอลยังเดินหน้ายิงปืนใหญ่ข้ามพรมแดนโจมตีเป้าหมายกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ ทางภาคใต้ของเลบานอนตั้งแต่วันเสาร์ต่อเนื่องถึงเมื่อวันที่ 22 ก.ย. โจมตีเป้าหมายทางทหารต่างๆ ของกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ กว่า 290 จุด มุ่งเน้นทำลายแท่นยิงจรวดนับพันจุดของกลุ่มฮิซบอลเลาะห์พร้อมกับยืนยันว่าจะเดินหน้าโจมตีเป้าหมายของกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ในเลบานอน ที่มีอิหร่านหนุนหลังต่อไป

ขณะที่กลุ่มฮิซบอลเลาะห์ก็ยังคงเดินหน้าตอบโต้ ด้วยการยิงจรวดและขีปนาวุธจำนวนมาก ทั้งจากทางใต้ของเลบานอนและจากฐานอิรักข้ามไปยังพรมแดนตอนเหนือของอิสราเอล ซึ่งแม้จรวดและขีปนาวุธส่วนใหญ่จะถูกระบบป้องกันภัยทางอากาศของอิสราเอลยิงสกัดเอาไว้ได้ แต่ก็ส่งผลให้สัญญานเตือนภัยโจมตีดังไปทั่วพื้นที่ภาคเหนือของอิสราเอลตั้งแต่ช่วงกลางดึกคืนวันเสาร์จนถึงช่วงเช้าวันที่ 22 ก.ย. กลุ่มฮิซบอลเลาะห์ระบุผ่านสื่อออนไลน์เทเลแกรมว่า การโจมตีในวันนี้พุ่งเป้าไปที่ฐานทัพอากาศ รามัต เดวิสของอิสราเอล เพื่อตอบโต้ที่อิสราเอลโจมตีทางอากาศต่อเนื่องในเลบานอน ถือเป็นการโจมตีเข้าไปอิสราเอลลึกที่สุด นับตั้งแต่ความขัดแย้งระหว่างสองฝ่ายอุบัติขึ้น นอกจากนี้ จรวดและขีปนาวุธบางส่วนของฮิซบอลเลาะห์ยังลอยไปตกบริเวณชุมชนในเมืองมอเรเชต และเมืองเบียลิก ทางตอนเหนือของอิสราเอลด้วย มีชาวบ้านบาดเจ็บ 3 คน บ้านเรือนและยวดยานเสียหายจำนวนหนึ่ง