22 พ.ย. 2567 สำนักข่าว SBS ของออสเตรเลีย รายงานข่าว 'Control access to the internet': Elon Musk takes aim at Australia's social media ban ระบุว่า อีลอน มัสก์ (Elon Musk) มหาเศรษฐีเจ้าของแพลตฟอร์มสื่อสังคมออนไลน์ “เอ็กซ์ (X)” ที่เปลี่ยนชื่อมาจากทวิตเตอร์ ออกมาแสดงความไม่พอใจรัฐบาลออสเตรเลีย ที่ออกกฎหมายห้ามผู้มีอายุต่ำกว่า 18 ปี ใช้งานสื่อสังคมออนไลน์ (Social Media)

มัสก์ ซึ่งกำลังจะได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งระดับสูงในรัฐบาลสหรัฐอเมริกา ภายใต้การนำของว่าที่ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ (Donald Trump) ได้แชร์โพสต์ของนายกรัฐมนตรีออสเตรเลีย แอนโธนี อัลบานีส (Anthony Albanese) เกี่ยวกับการออกกฎหมายดังกล่าว พร้อมกับตอบกลับว่า ดูเหมือนจะเป็นช่องทางลับๆ ที่รัฐบาลออสเตรเลียใช้ควบคุมประชาชนทุกคนในการเข้าถึงอินเตอร์เน็ต

โพสต์ข้อนายกฯ ออสเตรเลีย ระบุว่า ร่างกฎหมายนี้จะกำหนดให้ชาวออสเตรเลียทุกคนต้องยืนยันตัวตนหรือยืนยันอายุเพื่อใช้โซเชียลมีเดีย รวมถึงผู้ใหญ่ รัฐบาลยืนยันว่านี่เป็นวิธีเดียวที่จะบังคับใช้ได้ ซึ่งรัฐบาลกลางได้เสนอร่างกฎหมายเข้าสู่รัฐสภาเมื่อวันที่ 21 พ.ย. 2567 ที่ผ่านมา ขณะที่ มิเชลล์ โรว์แลนด์ (Michelle Rowland) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการสื่อสารของออสเตรเลีย กล่าวว่า การห้ามนี้เพื่อปกป้องเด็กและเยาวชน ไม่ใช่การลงโทษหรือแยกประชากรกลุ่มนี้ออกจากสังคม

สำหรับสาระสำคัญของร่างกฎหมายฉบับนี้ 1.กำหนดให้ผู้ที่ต้องการใช้งานบัญชีแพลตฟอร์มสื่อสังคมออนไลน์ต้องมีอายุขั้นต่ำคือ 16 ปี 2.กำหนดให้แพลตฟอร์มสื่อสังคมออนไลน์ต้องดำเนินขั้นตอนที่เหมาะสมเพื่อให้แน่ใจว่ามีการคุ้มครองพื้นฐาน 3.กำหนดให้แพลตฟอร์มต่างๆ ต้องนำระบบและการตั้งค่ามาใช้เพื่อให้แน่ใจว่าผู้ใช้ที่อายุต่ำกว่าเกณฑ์จะไม่สามารถสมัครหรือครอบครองบัญชีสื่อสังคมออนไลน์ได้ และหากไม่ดำเนินการหรือปล่อยปละละเลยจะถือว่าละเมิดต่อกฎหมาย

4.ภายใต้กฎหมายฉบับนี้ จะครอบคลุมแพลตฟอร์มสื่อสังคมออนไลน์ ทั้งเฟซบุ๊ก ยูทูบ ติ๊กต๊อก อินสตาแกรม สแน็ปแชท เป็นต้น ส่วนการเข้าถึงที่ไม่เข้าข่ายอยู่ภายใต้กฎหมาย คือแอปพลิเคชั่นส่งข้อความสนทนา (เช่น ว็อทส์แอป) แพลตฟอร์มเกมออนไลน์ และบริการที่มีจุดประสงค์หลักในการสนับสนุนสุขภาพและการศึกษาของผู้ใช้ปลายทาง อนึ่ง เว็บบอร์ดที่ผู้ใช้งานไม่ต้องเปิดเผยตัวตนอย่าง 4Chan หรือ Reddit ก็อาจไม่เข้าข่ายถูกควบคุมตามกฎหมายนี้เช่นกัน เนื่องจาก ผู้ใช้สามารถเข้าถึงได้โดยไม่ต้องสร้างบัญชี

รายงานข่าวกล่าวต่อไปว่า ยังไม่ชัดเจนว่าแพลตฟอร์มต่างๆ จะต้องจัดการกับผู้ใช้ที่มีอยู่หลายล้านคนที่ได้รับผลกระทบจากกฎหมายนี้อย่างไร ซึ่งคาดว่าชาวออสเตรเลียทุกคนที่ต้องการเข้าถึงแพลตฟอร์มที่ได้รับผลกระทบจะต้องผ่านกระบวนการตรวจสอบอายุตามร่างกฎหมาย ทั้งนี้ ในการประชุมสมาชิกวุฒิสภา (สว.) เมื่อช่วงต้นเดือน พ.ย. 2567 เจมส์ ชิสโฮล์ม (James Chisholm) รองอธิบดีกรมการสื่อสาร ซึ่งเข้าไปชี้แจงในที่ประชุม ยืนยันว่าทุกคนจะต้องผ่านกระบวนการตรวจสอบอายุ

อย่างไรก็ตาม ยังไม่ชัดเจนว่าผู้คนจะต้องส่งข้อมูลเพิ่มเติมใดให้กับบริษัทผู้ให้บริการแพลตฟอร์มเพื่อรักษาบัญชีของตนไว้ โดยรัฐบาลกล่าวว่า การดำเนินการดังกล่าวอาจต้องมีการรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลเพิ่มเติม แต่อีกด้านหนึ่ง ไมเคิล เชลเลนเบอร์เกอร์ (Michael Shellenberger) ผู้สนับสนุนเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นและต่อต้านการเซ็นเซอร์ มองว่า มาตรการใหม่นี้คือการก้าวกระโดดสู่ “โลกอนาคตแบบมืดหม่น (Dystopia)” อย่างที่เห็นในภาพยนตร์หรือละครซีรีส์ พร้อมยกตัวอย่างว่าเรื่องนี้เกิดขึ้นแล้วที่ประเทศจีน

เชลเลนเบอร์เกอร์ ยังกล่าวด้วยว่า มาตรการจำกัดอายุที่บังคับใช้ถือเป็น “ม้าโทรจัน” ในการสร้างรหัสประจำตัวประชาชนดิจิทัล อย่างไรก็ตาม รัฐบาลกลางได้ตัดสินใจไม่บังคับใช้รหัสประจำตัวประชาชนดิจิทัล และพรรคร่วมฝ่ายค้านได้กำหนดเส้นแบ่งชัดเจนเกี่ยวกับการบังคับใช้รหัสประจำตัวประชาชนดิจิทัล รัฐบาลกล่าวว่าร่างกฎหมายดังกล่าวจะช่วยให้เยาวชนสามารถใช้อินเตอร์เน็ตได้อย่างปลอดภัยและสร้างสรรค์มากขึ้น

เดวิด โคลแมน (David Coleman) โฆษกพรรคร่วมฝ่ายค้านในสภาออสเตรเลีย กล่าวว่า พรรคร่วมฝ่ายค้านจะทำงานร่วมกับฝ่ายรัฐบาลเพื่อร่างกฎหมายนี้ให้เสร็จสิ้น ซึ่งที่ผ่านมา พ่อแม่ผู้ปกครองต่างนอนไม่หลับเพราะกังวลว่าบุตรหลานของพวกเขาได้รับอะไรบ้างจากสื่อสังคมออนไลน์ และในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา เราพบเห็นแนวโน้มด้านสุขภาพจิตที่น่าวิตกกังวลมากสำหรับเด็กชาวออสเตรเลีย โดยเฉพาะเด็กผู้หญิง

ถึงกระนั้น ผู้เชี่ยวชาญหลายคนก็กังวลกับร่างกฎหมายใหม่ อาทิ ในเดือน ต.ค. 2567 ผู้เชี่ยวชาญ 140 คนได้เขียนจดหมายเปิดผนึกถึงนายกฯ อัลบานีส โดยให้เหตุผลว่า การห้ามเป็นเครื่องมือที่ตรงไปตรงมาเกินไปสำหรับการจัดการความเสี่ยงอย่างมีประสิทธิภาพ เช่นเดียวกับสำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ของออสเตรเลีย มีข้อสงวนอย่างจริงจังเกี่ยวกับการห้ามดังกล่าว เนื่องจากกฎหมายเหล่านี้อาจแทรกแซงสิทธิของเด็กและเยาวชนได้อย่างมาก

ทั้งนี้ หากร่างกฎหมายผ่านออกมาบังคับใช้ จะมีเวลาให้เตรียมตัวประมาณ 1 ปี ขณะที่ กสม. ออสเตรเลีย เสนอแนะว่า ควรนำมาตรการต่างๆ มาใช้เพื่อลดอันตราย เช่น ความสามารถในการปิดการทำงานของอัลกอริทึมส่วนบุคคล และการนำแบบจำลองหน้าที่ดูแลมาใช้ ซึ่งรัฐบาลกำลังดำเนินการอยู่

ขอบคุณเรื่องจาก

https://www.sbs.com.au/news/article/elon-musk-claims-australias-new-social-media-ban-will-control-access-to-the-internet-is-he-right/o9ra74ilg