ชายชาวจีนถูกไล่ออกฐานงีบหลับเวลางาน ศาลตัดสินให้บริษัทต้องจ่ายชดเชย

ชายชาวจีนถูกไล่ออกฐานงีบหลับเวลางาน ศาลตัดสินให้บริษัทต้องจ่ายชดเชย

วันอังคาร ที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567, 11.28 น.

26 พ.ย. 2567 สถานีโทรทัศน์ News18 ของอินเดีย รายงานข่าว Longtime Chinese Employee, Fired For Sleeping At Desk, Drags Company To Court And Wins Rs 41 Lakh ระบุว่า ชายชาวจีนแซ่จาง (Zhang) ชนะคดีความบริษัทที่ไล่ตนเองออกจากงานเนื่องจากงีบหลับในเวลางาน โดยเขาเข้าทำงานมาตั้งแต่ปี 2547 และถูกไล่ออกเมื่อช่วงต้นปี 2567 หลังกล้องวงจรปิดจับภาพขณะที่นอนหลับได้ แต่ล่าสุด ศาลมณฑลเจียงซู ประเทศจีน ตัดสินให้ชายคนนี้ได้รับค่าชดเชยเป็นเงิน 350,000 หยวน หรือประมาณ 1.7 ล้านบาท

‘สหายจาง คุณเข้าร่วมงานกับบริษัทในปี 2547 และเซ็นสัญญาจ้างงานแบบไม่มีกำหนดระยะเวลา อย่างไรก็ตาม พฤติกรรมการนอนดึกในที่ทำงานของคุณถือเป็นการละเมิดนโยบายวินัย ซึ่งบริษัทจะไม่ยอมรับการกระทำผิดอย่างร้ายแรงของบริษัท ดังนั้น บริษัทจึงตัดสินใจเลิกจ้างคุณโดยได้รับการอนุมัติจากสหภาพแรงงาน ส่งผลให้ความสัมพันธ์ด้านแรงงานระหว่างคุณกับบริษัทสิ้นสุดลง’ ข้อความในเอกสารของบริษัทที่เลิกจ้างพนักงานคนดังกล่าว ตามรายงานจาก นสพ.South China Morning Post ของฮ่องกง


คดีนี้ถูกเปิดเผยหลังจากที่นายจางลงนามในรายงานของฝ่ายทรัพยากรบุคคลของบริษัทที่ระบุว่า จางถูกจับได้ว่านอนหลับในที่ทำงานเนื่องจากเหนื่อยล้า และมีการเผยแพร่ในกลุ่ม WeChat แอปพลิเคชั่นส่งข้อความสนสนาซึ่งนิยมใช้กันในจีน จางยังกล่าวอีกว่า ครั้งหนึ่งตนเคยนอนหลับในที่ทำงานประมาณหนึ่งชั่วโมง เมื่อเจ้าหน้าที่ฝ่ายทรัพยากรบุคคลบางคนถาม ซึ่งบริษัทได้ส่งหนังสือแจ้งการไล่ออกให้จาง โดยอ้างว่าการกระทำของเขาเป็นการละเมิดวินัยและความประพฤติอย่างร้ายแรง จึงสมควรไล่เขาออก

อย่างไรก็ตาม จางมองว่าตนเองถูกเลิกจ้างอย่างไม่เป็นธรรม จึงตัดสินใจฟ้องคดีต่อศาล โดยคดีนี้อยู่ในการพิจารณาของศาลประชาชนเมืองไท่ซิง ในมณฑลเจียงซู ในการไต่สวนนั้นศาลได้พิจารณามาตรฐานนโยบายวินัยของบริษัทเทียบกับประวัติการจ้างงานของจางและพฤติการณ์ของการละเมิด ซึ่ง จู ฉี (Ju Qi) ผู้พิพากษาในคดีนี้ มีความเห็นว่า แม้บริษัทจะรักษากฎระเบียบของพนักงานและไล่พนักงานที่ละเมิดกฎได้ตามกฎหมาย แต่จะต้องปฏิบัติตามภายใต้เงื่อนไขบางประการที่การกระทำของพนักงานส่งผลกระทบเชิงลบ

‘การงีบหลับในที่ทำงานถือเป็นความผิดครั้งแรก และไม่ก่อให้เกิดอันตรายร้ายแรงต่อบริษัท’ ผู้พิพากษาจู กล่าว

ในการพิจารณาคดี ศาลยังชี้ด้วยว่านายจางทำงานมานานกว่า 2 ทศวรรษ อีกทั้งยังได้รับการเลื่อนตำแหน่งและเงินเดือนให้สูงขึ้นอยู่หลายครั้ง นั่นหมายถึงนายจ้างปฏิบัติหน้าที่มีผลงานอยู่ในเกณฑ์ดี ศาลจึงเห็นว่าการเลิกจ้างครั้งนี้ไม่ได้สัดส่วนและไม่สมเหตุสมผล จึงตัดสินให้บริษัทต้องจ่ายค่าชดเชยให้นายจางผู้เป็นโจทก์ เป็นจำนวนเงิน 350,000 หยวนดังกล่าว

ขณะที่รายงานข่าว Man in China fired for napping at desk after working late, sues firm, awarded US$48,000 โดย นสพ.South China Morning Post ของฮ่องกง ระบุว่า ชายแซ่จางที่ลุกขึ้นฟ้องบริษัทต้นสังกัดนั้น ก่อนถูกไล่ออกมีตำแหน่งระดับผู้จัดการ ในบริษัทเคมีภัณฑ์แห่งหนึ่งในเมืองไท่ซิง โดยหลังจากถูกจับภาพการงีบหลับด้วยกล้องวงจรปิดเมื่อช่วงต้นปี 2567 ในเวลา 2 สัปดาห์หลังจากนั้น นายจางก็ถูกฝ่ายทรัพยากรบุคคลของบริษัทบอกให้เซ็นเอกสารเลิกจ้าง โดยนายจางยอมรับว่า ได้งีบหลับเป็นเวลา 1 ชั่วโมง

กระทั่งในวันที่ 22 พ.ย. 2567 สื่อฮ่องกงก็รายงานข่าวนี้ว่า บทสรุปของคดีคือนายจางได้รับค่าชดเชย 3.5 แสนหยวน ซึ่งหลังจากข่าวถูกเผยแพร่ออกไป เรื่องนี้ก็ถูกแชร์อย่างกว้างขวางในพื้นที่สื่อสังคมออนไลน์ของจีนแผ่นดินใหญ่ โดยชาวเน็ตรายหนึ่ง กล่าวว่า การงีบหลับในที่ทำงานนั้นเป็นสิ่งที่ผิด แต่การกระทำของบริษัทนั้นรุนแรงเกินไป หากความผิดพลาดเล็กน้อยสามารถนำไปสู่การไล่ออกได้ ก็ทำให้การไล่พนักงานออกเป็นเรื่องง่ายเกินไป เช่นเดียวกับชาวเน็ตอีกราย ที่บอกว่าศาลตัดสินได้ถูกต้องแล้ว

ขอบคุณเรื่องจาก

https://www.news18.com/viral/longtime-chinese-employee-fired-for-sleeping-at-desk-drags-company-to-court-and-wins-rs-41-lakh-9132959.html

https://www.scmp.com/news/people-culture/trending-china/article/3287350/man-china-fired-napping-desk-after-working-late-sues-firm-awarded-us48000

 

 

 

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top