สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า พื้นที่ส่วนใหญ่ของแคนาดา และกว่า 30 รัฐในสหรัฐฯ ตั้งแต่แคนซัสไปจนถึงชายฝั่งตะวันออก กำลังอยู่ภายใต้การเตือนภัยสภาพอากาศ โดยสำนักงานบริการสภาพอากาศแห่งชาติ (NWS) คาดว่าพายุฤดูหนาวลูกใหญ่จะทำให้เกิดหิมะตกและอากาศหนาวเย็นที่สุดในรอบ 10 ปี จะมีหิมะตกหนา 6-12 นิ้วในหลายรัฐตั้งแต่โอไฮโอไปจนถึงวอชิงตัน ดี.ซี.

6 รัฐในสหรัฐฯ ได้แก่ เคนทัคกี, เวอร์จิเนีย, เวสต์เวอร์จิเนีย, แคนซัส, อาร์คันซอ และมิสซูรี ตัดสินใจประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินแล้ว โดยที่แคนซัส, มิสซูรี และ เนบราสกา ประกาศเตือนภัยพายุหิมะ ส่วนที่รัฐฟลอริดา ที่ตามปกติจะมีอากาศปลอดโปร่ง ก็คาดการณ์ว่าจะเผชิญสภาพอากาศเย็นยะเยือก

คาดการณ์ว่าจะมีหิมะตกหนักในกรุงวอชิงตัน ดีซี และอินเดียนาโพลิส รัฐอินเดียนา ขณะที่เมืองแคนซัส รัฐมิสซูรี ซึ่งอยู่ภายใต้คำเตือนพายุหิมะ อาจมีหิมะตกสะสมมากกว่า 20 เซนติเมตร โดยมีรายงานว่าพายุหิมะพัดถล่มบางพื้นที่ของรัฐแคนซัสและมิสซูรี ขณะนี้ชาวอเมริกันร่วม 70 ล้านคนทั่วประเทศอยู่ภายใต้คำเตือนสภาพอากาศรูปแบบใดรูปแบบหนึ่ง ขณะที่เที่ยวบินหลายพันเที่ยวบินประสบปัญหาล่าช้าหรือถูกยกเลิก ซึ่งสนามบินในรัฐมิสซูรีได้รับผลกระทบหนักที่สุด

นักพยากรณ์อากาศ ระบุว่า สภาพอากาศที่เลวร้ายเกิดจากกระแสลมขั้วโลก ซึ่งเป็นบริเวณที่มีอากาศเย็นหมุนเวียนรอบๆ อาร์กติก 

หลังจากพายุพัดถล่มบริเวณที่ราบภาคกลางแล้ว คาดว่าพายุจะพัดถล่มชายฝั่งตะวันออกของสหรัฐฯ ภายในเย็นวันอาทิตย์ บางส่วนของตอนเหนือของรัฐนิวยอร์กประสบหิมะตกอย่างน้อย 3 ฟุต

NWS เตือนด้วยว่า พายุฝนฟ้าคะนองรุนแรงที่สามารถก่อให้เกิดพายุทอร์นาโดหลายลูก จะเคลื่อนตัวไปทางตะวันออก จากรัฐอาร์คันซอและลุยเซียนา เข้าสู่รัฐมิสซูรีและแอละแบมา ในเย็นวันอาทิตย์นี้ด้วย