17 ม.ค. 2568 สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานข่าว Bird feathers, blood found in both engines of crashed jet in South Korea, source says อ้างการเปิดเผยจากแหล่งข่าวที่ใกล้ชิดกับคณะทำงานสอบสวนเหตุเครื่องบินของสายการบินเจจูแอร์ ซึ่งเดินทางจากกรุงเทพฯ ประเทศไทย และกำลังจะลงจอดที่สนามบินมูอันของเกาหลีใต้ เกิดไถลพุ่งเลยรันเวย์ไปชนกับแนวกั้นจนเกิดระเบิดขึ้นและมีผู้เสียชีวิต 179 ราย เมื่อวันที่ 29 ธ.ค. 2567 ว่า พบขนนกและเลือดในเครื่องยนต์ 2 เครื่อง ของเครื่องบินโบอิ้ง 737-800 ลำที่เกิดเหตุ

โศกนาฏกรรมครั้งนี้มีเพียง 2 คนที่รอดชีวิต โดยก่อนเกิดเหตุประมาณ 4 นาที นักบินคนหนึ่งรายงานว่ามีนกบินชนและประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินก่อนจะบินวนกลับและพยายามลงจอดที่ปลายรันเวย์ฝั่งตรงข้าม และ 2 นาทีก่อนที่นักบินจะประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน หอควบคุมการบินได้แจ้งเตือนให้ระมัดระวังเนื่องจากมีนกบินอยู่ในบริเวณดังกล่าว  ซึ่งก่อนเหน้านี้ ทีมสืบสวนเปิดเผยว่า พบขนนกในซากเครื่องยนต์เครื่องหนึ่งที่เก็บกู้ได้จากที่เกิดเหตุ และยังมีคลิปวีดีโอที่แสดงให้เห็นว่ามีนกบินชนเครื่องยนต์

กระทรวงคมนาคมของเกาหลีใต้ปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็นว่าพบขนนกและเลือดในเครื่องยนต์ทั้งสองเครื่องหรือไม่ ขณะที่กล่องดำ 2 กล่องของเครื่องบินซึ่งเป็นกุญแจสำคัญในการค้นหาสาเหตุของการตกของเครื่องบินเมื่อเดือนที่แล้ว พบว่าหยุดบันทึกประมาณ 4 นาทีก่อนเกิดอุบัติเหตุ จึงนับเป็นความท้าทายต่อการสืบสวนที่ยังคงดำเนินอยู่ โดยเมื่อวันที่ 12 ม.ค. 2568 ซิม ไจ-ดง (Sim Jai-dong) อดีตเจ้าหน้าที่สอบสวนอุบัติเหตุของกระทรวงคมนาคม กล่าวว่าข้อมูลที่ขาดหายไปนั้นน่าประหลาดใจ และชี้ให้เห็นว่าอาจมีการตัดกระแสไฟฟ้าทั้งหมด รวมถึงไฟฟ้าสำรอง ซึ่งเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ยาก

การที่นกชนเครื่องยนต์ทั้งสองเครื่องนั้นเกิดขึ้นไม่บ่อยนักในการบินทั่วโลก แม้ว่าจะมีกรณีที่นักบินสามารถนำเครื่องบินลงจอดได้สำเร็จโดยไม่มีผู้เสียชีวิตในสถานการณ์ดังกล่าว เช่น เหตุการณ์ "ปาฏิหาริย์บนแม่น้ำฮัดสัน" ที่สหรัฐอเมริกาในปี 2552 และเหตุการณ์เครื่องบินลงจอดในไร่ข้าวโพดที่รัสเซียในปี 2562

ขอบคุณเรื่องจาก

https://www.reuters.com/world/asia-pacific/bird-feathers-blood-found-two-engines-boeing-jet-that-crashed-south-korea-source-2025-01-17/