วอชิงตัน/ปักกิ่ง (รอยเตอร์ส)-การไปรษณีย์สหรัฐฯ หรือ ยูเอสพีเอส จะระงับการรับพัสดุไปรษณีย์จากจีนและฮ่องกงเป็นการชั่วคราว และมีข่าวว่าสหรัฐฯ อาจจะขึ้นบัญชีแพลตฟอร์มอี-คอมเมิร์ซดังของจีน อย่าง ชีอิน (Shein) และเท่อหมู่ (Temu) ว่าบังคับใช้แรงงาน

ยูเอสพีเอสแจ้งว่า มาตรการดังกล่าวจะไม่กระทบต่อการส่งจดหมายและจดหมายขนาดใหญ่จากจีนและฮ่องกง แต่ไม่ได้เปิดเผยว่า เรื่องนี้เกี่ยวพันหรือไม่กับการที่ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ มีคำสั่งปิดช่องโหว่ทางการค้าที่ผู้ค้าปลีกจากจีนและหลายประเทศใช้การส่งสินค้าเข้าสหรัฐ ในมูลค่าขั้นต่ำที่ไม่ต้องเสียภาษี (de minimis) หากมีมูลค่าต่ำกว่า 800 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 26,900 บาท)

ประธานาธิบดีทรัมป์ลงนามคำสั่งฝ่ายบริหารเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ เรื่องจะเก็บภาษีเพิ่มอีกร้อยละ 10 กับสินค้านำเข้าทั้งหมดจากจีน มีผลตั้งแต่วันที่ 4 กุมภาพันธ์ และเรื่องปิดช่องโหว่ดังกล่าว ซึ่งมีส่วนเอื้อให้ชีอินและเท่อหมู่เติบโตในตลาดสหรัฐอย่างรวดเร็ว รายงานของคณะกรรมการในรัฐสภาสหรัฐฯ เมื่อเดือนมิถุนายน 2566 ระบุว่า ทั้ง 2 บริษัทนี้ครองสัดส่วนรวมกันมากกว่าร้อยละ 30 ของพัสดุไปรษณีย์ที่ส่งเข้าสหรัฐฯ ในแต่ละวันด้วยมูลค่าขั้นต่ำที่ไม่ต้องเสียภาษี ขณะที่เกือบครึ่งของพัสดุเหล่านี้มาจากจีน เว็บไซต์ข่าวเซมาฟอร์(Semafor) รายงานอ้างแหล่งข่าวว่า รัฐบาลทรัมป์กำลังหารือว่า จะขึ้นบัญชีชีอินและเท่อหมู่ไว้ในรายชื่อนิติบุคคลที่มีการบังคับใช้แรงงานของกระทรวงความมั่นคงมาตุภูมิหรือไม่

นักวิเคราะห์มองว่า ยูเอสพีเอสต้องการเวลาในการพิจารณาว่าจะเก็บภาษีใหม่กับจีนอย่างไร ก่อนจะอนุญาตให้รับพัสดุไปรษณีย์จากจีนและฮ่องกงอีกครั้ง ถือเป็นความท้าทายใหญ่ เนื่องจากปี 2567 ที่ผ่านมีพัสดุมูลค่าขั้นต่ำที่ไม่ต้องเสียภาษีเข้ามาในสหรัฐมากถึง 4 ล้านชิ้นต่อวัน ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่า มาตรการปิดช่องโหว่ของทรัมป์จะทำให้สินค้าออนไลน์ราคาถูกของจีนมีราคาสูงขึ้น แต่ไม่น่าจะทำให้ปริมาณสินค้าที่ส่งเข้าสหรัฐลดลงอย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจากยังคงมีราคาถูกกว่าสินค้าที่ซื้อในสหรัฐฯ

อย่างไรก็ดี มีรายงานว่าเจ้าหน้าที่ประจำสำนักงานไปรษณีย์แห่งชาติของจีน (china post) ที่ตั้งอยู่ในนครเซี่ยงไฮ้ ซึ่งเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจของจีน ยังคงทำงานกันปกติ
ในวันพุธที่ 5 ก.พ. ไม่สนใจต่อคำขู่ของทรัมป์ ขณะที่ทั้งชีอินและเท่อหมู่ ที่ธุรกิจในสหรัฐฯ กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว จากนโยบายยกเว้นภาษีสินค้านำเข้าที่ราคาไม่ถึง 800 ดอลลาร์ ก็ยังไม่ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับผลกระทบที่เกิดจากมาตรการนี้

ในอีกด้านหนึ่ง ทรัมป์กล่าวว่า เขาไม่รีบร้อนในการเจรจากับประธานาธบดี สี จิ้นผิง ของจีน เพื่อพยายามหาทางคลี่คลายสงครามการค้าครั้งใหม่ระหว่างสองประเทศที่มีเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดของโลก หลังจากทรัมป์ประกาศเก็บภาษีเพิ่มร้อยละ 10 จากสินค้าที่นำเข้าจากประเทศจีน ส่งผลให้จีนออกมาตอบโต้ ด้วยการประกาศเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากสหรัฐฯ พร้อมประกาศรายชื่อบริษัทสหรัฐฯ หลายแห่ง รวมถึงกูเกิล ที่อยู่ในข่ายที่อาจจะโดนมาตรการลงโทษทางการค้า