7 มี.ค. 2568 นสพ.The Korea Times ของเกาหลีใต้ เสนอรายงานพิเศษ Migrant workers reel from accidental airstrike northeast of Seoul ว่าด้วยเสียงสะท้อนจากแรงงานข้ามชาติและชาวบ้านท้องถิ่นในเมืองโพชอน จ.คย็องกี ที่เพิ่งเกิดเหตุเครื่องบินรบแบบ KF-16 ของกองทัพอากาศเกาหลีใต้ ซึ่งฝึกซ้อมรบโดยใช้อาวุธจริง ทิ้งระเบิดชนิด MK-82 ผิดพลาดใส่ย่านชุมชน จนทำให้บ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหาย และมีผู้บาดเจ็บ 29 ราย เมื่อวันที่ 6 มี.ค. 2568 ที่ผ่านมา ตามเวลาท้องถิ่น
ซอน จอย (Son Joy) คนงานชาวบังกลาเทศ ซึ่งทำงานในโรงงานที่ผลิตเครื่องเรือนภายในบ้าน และสามารถเดินจากที่พักไปจุดเกิดเหตุได้ภายในเวลา 20 นาที กล่าวว่า รู้สึกเจ็บปวดเพราะเรื่องแบบนี้อาจเกิดขึ้นกับตนได้ คำถามคือใครจะชดเชยให้กับคนงานที่ได้รับบาดเจ็บหากพวกเขาไม่สามารถทำงานได้อีกต่อไป มีแรงงานข้ามชาติชาวเอเชียจำนวนมากในเมืองโพชอน โดยเฉพาะในฟาร์มและในโรงงาน อย่างเพื่อนร่วมงานของตนหลายคนก็มาจากฟิลิปปินส์ บังกลาเทศและเมียนมา การซ้อมรบนั้นอันตรายและทหารควรระมัดระวังมากกว่านี้
กระทรวงกลาโหมของเกาหลีใต้ รายงานยอดผู้บาดเจ็บเป็นพลเรือน 15 ราย และทหาร 4 ราย ในส่วนของพลเรือนนั้นเป็นชาวต่างชาติ 6 ราย แบ่งเป็นชาวไทย 4 ราย เนปาล 1 ราย และเมียนมา 1 ราย โดยผู้บาดเจ็บที่เป็นพลเรือนจำนวน 7 ราย ในจำนวนนี้เป็นชาวไทย 1 ราย และเมียนมา 1 ราย ถูกส่งไปรักษาในโรงพยาบาลกลางของกองทัพ พร้อมกับผู้บาดเจ็บที่เป็นทหาร 2 ราย
อุบัติเหตุดังกล่าวเกิดขึ้นระหว่างการฝึกซ้อมยิงด้วยอาวุธจริงที่ดำเนินการโดยกองกำลังเกาหลีใต้และสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการเตรียมการสำหรับการฝึกซ้อมประจำปี Freedom Shield ซึ่งกำหนดไว้ในวันที่ 10-20 มี.ค. 2568 โดย บาทหลวง คิม ดัล-ซุง (Kim Dal-sung) หัวหน้าศูนย์แรงงานข้ามชาติในเมืองโพชอน รู้สึกตกใจที่การซ้อมรบร่วมระหว่างเกาหลีใต้และสหรัฐฯ ซึ่งเกี่ยวข้องกับการทิ้งระเบิดด้วยเครื่องบินขับไล่ เกิดขึ้นใกล้หมู่บ้านที่แรงงานข้ามชาติและคนในท้องถิ่นอาศัยอยู่
“ในเมืองโพชอน มากกว่า 20,000 คนจากประชากรทั้งหมด 150,000 คนเป็นแรงงานข้ามชาติ พวกเขามักทำงานในฟาร์มและโรงงาน เราเรียกร้องให้ยุติการฝึกทหารในหรือใกล้พื้นที่ที่มีชาวต่างชาติหรือผู้อพยพอาศัยอยู่ นอกจากนี้ เรายังเรียกร้องให้มีการสอบสวนอย่างละเอียด ลงโทษผู้รับผิดชอบอย่างรุนแรง และป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำอีก เราหวังว่าแรงงานข้ามชาติที่ได้รับบาดเจ็บจะได้รับบริการล่ามที่เหมาะสมและค่าชดเชยที่ไม่เลือกปฏิบัติ” บาทหลวงคิม กล่าว
สถานทูตไทยในกรุงโซลก็ตกใจกับอุบัติเหตุดังกล่าว ซึ่งส่งผลให้มีชาวไทยได้รับบาดเจ็บ 4 ราย โดย 3 รายได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยและได้รับอนุญาตให้กลับบ้านได้หลังจากเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลในเมืองโพชอน ส่วนอีก 1 รายที่ได้รับบาดเจ็บที่มือและขา ได้เข้ารับการผ่าตัดในวันที่ 7 มี.ค. 2568 โดย ธานี แสงรัตน์ (Tanee Sangrat) เอกอัครราชทูตไทยประจำเกาหลีใต้ เปิดเผยว่า ตนมีแผนจะไปเยี่ยมผู้บาดเจ็บที่ยังอยู่ในโรงพยาบาล ในวันที่ 10 มี.ค. 2568 โดยไม่ขอเปิดเผยชื่อ แต่ทราบว่าเป็นเพศหญิง เพื่อสอบถามความต้องการของตัวผู้บาดเจ็บ และสถานทูตกำลังติดต่อครอบครัวของเธออยู่
ทั้งนี้ เอกอัครราชทูตไทยประจำเกาหลีใต้ ยอมรับว่า มีชาวไทยมาทำงานในเกาหลีใต้เป็นจำนวนมากทั้งที่มีและไม่มีเอกสาร อย่างไรก็ตาม รัฐบาลไทยและสถานทูตไทยจะให้การคุ้มครองพลเมืองโดยไม่คำนึงถึงสถานะทางกฎหมาย โดยจะทำงานอย่างใกล้ชิดกับกระทรวงยุติธรรมและตำรวจเพื่อให้สิทธิของพวกเขาได้รับการคุ้มครอง
ชาวบ้านในหมู่บ้านโนก๊อก-รี ที่ถูกระเบิดก็ตกตะลึงเช่นกันกับเหตุการณ์ที่พวกเขาบอกว่าเป็นอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นไม่บ่อย ซึ่งเกิดขึ้นเพียง 30 กิโลเมตรทางใต้ของเส้นแบ่งเขตทหาร (MDL) อาทิ แช อ็อก-จา (Chae Ok-ja) แม่เฒ่าวัย 91 ปี เล่าว่า ตนกำลังจะกินอาหารเช้าเสร็จก็ได้ยินเสียงระเบิดดัง พอรู้ตัวอีกที หน้าต่างบ้านก็แตกเป็นเสี่ยงๆ จึงรีบวิ่งออกจากบ้านทันทีเพื่อดูว่าเกิดอะไรขึ้น ต่อมาทหารและตำรวจก็มาเคลียร์พื้นที่ แต่ตนไม่แน่ใจว่ากระจกจะซ่อมเสร็จเมื่อไหร่ ส่วนเรื่องชาวต่างชาติ ในอดีตหมู่บ้านแห่งนี้มีทหารอเมริกันจำนวนมากเพราะอยู่ใกล้ฐานทัพ แต่ปัจจุบันถูกแทนที่ด้วยแรงงานข้ามชาติที่มาทำงานในแปลงเกษตรที่เป็นเรือนกระจกไวนิล
ปาร์ก แจ-ยัง (Park Jae-young) ชายชราวัย 77 ปี เป็นอีกคนหนึ่งที่บ้านได้รับความเสียหายจากแรงระเบิด โดยพ่อเฒ่าปาร์ก กล่าวว่า ระเบิดทำให้หน้าต่างและผนังเสียหาย จึงต้องอพยพมาอยู่ที่ศูนย์พักพิงเป็นการชั่วคราว แต่ตนไม่รู้ว่าจะอยู่ที่นี่ได้นานแค่ไหน เพราะฤดูเพาะปลูกกำลังใกล้เข้ามา ดังนั้นตนจำเป็นต้องอยู่ใกล้กับฟาร์มและบ้าน แต่บ้านนั้นคงต้องสร้างใหม่หมดทั้งหลัง ส่วนเรื่องแรงงานข้ามชาติที่ได้รับบาดเจ็บ ตนก็รู้สึกแย่ไปกับเขาด้วย
“ฟาร์มส่วนใหญ่ต้องพึ่งพาแรงงานข้ามชาติ พวกเขาเป็นแรงงานที่จำเป็นที่นี่” พ่อเฒ่าปาร์ก กล่าว
ขอบคุณภาพจากรอยเตอร์
ขอบคุณเรื่องจาก
https://www.koreatimes.co.kr/www/nation/2025/03/281_393688.html
043...
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี