เทคโนโลยี‘แปลภาษา’ ทำให้นายจ้าง-เพื่อนร่วมงาน‘ญี่ปุ่น’สื่อสารกับแรงงานข้ามชาติได้ดีขึ้น

เทคโนโลยี‘แปลภาษา’ ทำให้นายจ้าง-เพื่อนร่วมงาน‘ญี่ปุ่น’สื่อสารกับแรงงานข้ามชาติได้ดีขึ้น

วันอาทิตย์ ที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2568, 13.08 น.

15 มิ.ย. 2568 นสพ.The Mainichi ของญี่ปุ่น รายงานข่าว Machine translator breaks barriers, improves mood at Kyoto Pref. plant with foreign workers ระบุว่า ที่ จ.เกียวโต ประเทศญี่ปุ่น โรงแห่งแห่งหนึ่งที่มีลูกจ้างครึ่งหนึ่งเป็นแรงงานข้ามชาติ ได้ใช้เทคโนโลยีแปลภาษาที่ติดตั้งมาในคอมพิวเตอร์และโทรศัพท์มือถือสมาร์ทโฟน ช่วยให้การสื่อสารภายในองค์กรราบรื่นมากขึ้น ซึ่ง ณ ปัจจุบัน มีแรงงานข้ามชาติอยู่ในเกียวโตราว 3 หมื่นคน สูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ ขณะที่ภาคธุรกิจเกือบครึ่งหนึ่งระบุว่า กำแพงด้านการสื่อสารเป็นปัจจัยที่ทำให้ไม่กล้าจ้างชาวต่างชาติ

ผู้สื่อข่าวของ The Mainichi ซึ่งไปเยี่ยมชมโรงงานแปรรูปโลหะ Kobayashi Seisakusho ในเมือง Nagaokakyo จ.เกียวโต เมื่อช่วงปลายเดือน พ.ค. 2568 ได้เห็นแรงงานชาวไทยคนหนึ่งกำลังทำงานโดยมองไปที่หน้าจอคอมพิวเตอร์ คำสั่งที่เพื่อนร่วมงานชาวญี่ปุ่นป้อนเป็นภาษาญี่ปุ่นผ่านสมาร์ทโฟนจะถูกแปลเป็นภาษาไทยทันทีและแสดงบนหน้าจอ เช่นเดียวกับแรงงานชาวเวียดนาม สามารถส่งข้อความภาษาเวียดนามถึงเพื่อนร่วมงานชาวญี่ปุ่นและชาวไทยผ่านฟังก์ชันแชทกลุ่มงานบนสมาร์ทโฟน ซึ่งข้อความดังกล่าวจะถูกแปลเป็นภาษาญี่ปุ่นและไทยโดยอัตโนมัติ


บริษัท Kobayashi Seisakusho ก่อตั้งขึ้นในปี 2498 และดำเนินการแปรรูปอุปกรณ์ต่างๆ รวมถึงชิ้นส่วนรถยนต์ โดยใช้วิธีผลิตแบบผสมผสานและปริมาณน้อย ในช่วงแรกแรงงานส่วนใหญ่เป็นชาวญี่ปุ่น แต่เมื่อธุรกิจขยายตัวก็ทำให้ต้องการแรงงานมากขึ้น  แม้จะมีความพยายามในการสรรหาพนักงานผ่านบริการจัดหางานสาธารณะ Hello Work และแผ่นพับในหนังสือพิมพ์ แต่ผู้สมัครชาวญี่ปุ่นก็ลดน้อยลง และประมาณ 10 ปีที่แล้ว บริษัทได้เริ่มจ้างนักศึกษาฝึกงานด้านเทคนิค ส่งผลให้มีแรงงานที่เป็นชาวต่างชาติเพิ่มมากขึ้น

จากพนักงานทั้งหมด 110 คนของบริษัท มี 60 คนเป็นแรงงานต่างด้าวชาวเวียดนามหรือชาวไทย หลายคนเป็นนักศึกษาฝึกงานด้านเทคนิคหรือคนงานที่มีทักษะเฉพาะ ซึ่งได้รับอนุญาตให้พำนักในญี่ปุ่นได้นานถึง 5 ปี โดย ฮิโรอากิ โคบายาชิ (Hiroaki Kobayashi) ประธานบริษัท วัย 46 ปี  กล่าวว่า แม้พนักงานชาวต่างชาติทุกคนจะจริงจังและกระตือรือร้นที่จะเรียนรู้งาน แต่ความแตกต่างทางภาษาได้สร้างกำแพงในการสื่อสารกับพนักงานชาวญี่ปุ่น และทำให้เกิดความผิดพลาด

“หากพนักงานไม่สามารถสื่อสารได้อย่างราบรื่น เช่น การทำให้แน่ใจว่าทุกคนรู้ว่าอะไรเร่งด่วนและงานใดที่ต้องให้ความสำคัญเป็นอันดับแรก จะส่งผลกระทบต่อกระบวนการหรือขั้นตอนการทำงานอย่างมาก อย่างพนักงานบางคนจะตอบว่า ‘ใช่’ โดยไม่เข้าใจจริงๆ ว่าเพื่อนร่วมงานชาวญี่ปุ่นบอกอะไรกับพวกเขา หรือบางคนจะไม่พูดถึงเรื่องสำคัญๆ เนื่องจากขาดทักษะภาษาญี่ปุ่น นี่ไม่ใช่เฉพาะกับพนักงานชาวญี่ปุ่นเท่านั้น แต่ยังรวมถึงพนักงานต่างชาติที่พูดภาษาแม่ต่างกันด้วย” โคบายาชิ กล่าว

โคบายาชิ เล่าต่อไปว่า ตนเคยคิดที่จะนำอุปกรณ์แปลภาษาด้วยเสียงจากบริษัทหนึ่งมาใช้ แต่ก็ล้มเลิกความคิดนี้ไป เพราะไม่สามารถใช้งานได้หากไม่ได้พบหน้ากัน ขณะที่พนักงานชาวญี่ปุ่นใช้วิธีสื่อสารด้วยท่าทางและแจกบันทึกข้อความด้วยภาษาญี่ปุ่นง่ายๆ เพื่อป้องกันไม่ให้อุปสรรคด้านภาษาส่งผลกระทบต่อการทำงานหรือกฎระเบียบในที่ทำงาน กระทั่งได้รู้จักกับระบบแปลภาษา "Kaminashi Jugyoin" สำหรับสมาร์ทโฟนและคอมพิวเตอร์ในงานนิทรรศการที่จัดขึ้นเมื่อปี 2567 ที่ศูนย์การประชุม Tokyo Big Sight

ระบบนี้ได้รับการพัฒนาโดย Kaminashi Inc. ซึ่งเป็นบริษัทสตาร์ทอัพจากกรุงโตเกียว ช่วยให้ผู้จัดการไซต์งาน ฝ่ายกิจการทั่วไป และพนักงานสามารถแลกเปลี่ยนข้อมูลและเอกสารกันได้ผ่านบริการเดียว รองรับการแปลภาษาต่างๆ ประมาณ 20 ภาษาด้วยความแม่นยำสูง และโคบายาชิได้เริ่มนำมาใช้ในบริษัทของตนเมื่อเดือน ม.ค. 2568 ซึ่งเมื่อป้อนคำสั่ง คำปรึกษา หรือข้อความอื่นๆ เป็นภาษาแม่ของเจ้าของสมาร์ทโฟน พนักงานคนอื่นๆ จะได้รับข้อความเหล่านั้นที่แปลเป็นภาษาแม่ของตน

เช่น จากภาษาญี่ปุ่นเป็นภาษาเวียดนาม จากภาษาไทยเป็นภาษาญี่ปุ่น และจากภาษาเวียดนามเป็นภาษาไทย เมื่อฝ่ายกิจการทั่วไปแบ่งปันข้อมูลกับพนักงานทุกคนเป็นภาษาญี่ปุ่น พนักงานชาวเวียดนามและชาวไทยก็สามารถเข้าใจข้อมูลนั้นในภาษาแม่ของตนได้ ระบบดังกล่าวทำให้พนักงานสื่อสารและรายงานซึ่งกันและกันอย่างแข็งขัน ซึ่งช่วยทำให้บรรยากาศในที่ทำงานดีขึ้น

"เสียงและความคิดที่หลากหลายของพนักงานกลายเป็นสิ่งที่มองเห็น บรรยากาศในที่ทำงานเปลี่ยนไป ส่งผลให้ทักษะของพนักงานดีขึ้น การเอาชนะอุปสรรคด้านภาษาทำให้ผลงานของบริษัทเพิ่มขึ้นและยอดขายก็เติบโตด้วย” โคบายาชิ กล่าว

คนงานชาวเวียดนามวัย 28 ปี ซึ่งทำงานเป็นปีที่ 4 ในบริษัทนี้ ได้แสดงความคิดเห็นเป็นภาษาญี่ปุ่นง่ายๆ ว่า ตอนนี้ตนสามารถสื่อสารกับทุกคนได้แล้ว สามารถเข้าใจคำสั่งและรายงาน รวมถึงมีความก้าวหน้ากับงานที่ทำ เช่นเดียวกับแรงงานไทยวัย 29 ปี ที่ใช้ระบบนี้แปลจากภาษาไทยเป็นภาษาญี่ปุ่น ได้ความว่า  ระบบนี้ช่วยให้สะดวกมาก หากมีปัญหาอะไรตนก็สามารถติดต่อคนอื่นได้ทันที และตอนนี้ก็สามารถถามคำถามที่ไม่เคยถามมาก่อนได้แล้ว อนึ่ง แม้ทั้งคู่จะทำงานคนละแผนก แต่พวกเขาก็กลายมาเป็นเพื่อนกันที่สื่อสารและปรึกษาหารือกันผ่านสมาร์ทโฟน

รายงานข่าวทิ้งท้ายว่า ในจังหวัดเกียวโต อุตสาหกรรมการผลิตมีจำนวนแรงงานต่างชาติมากที่สุด โดยอยู่ที่ประมาณ 9,400 คน (ยอด ณ สิ้นเดือน ต.ค. 2567) คิดเป็นร้อยละ 27 ของทั้งหมด ความคิดริเริ่มของนี้อาจกลายเป็นกรณีตัวอย่างสำหรับธุรกิจขนาดเล็กและขนาดกลาง ในการยอมรับแรงงานข้ามชาติมากขึ้น

ขอบคุณเรื่องและภาพจาก

https://mainichi.jp/english/articles/20250612/p2a/00m/0bu/031000c

043...

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top