23 มิถุนายน 2568 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า 'ฮุน มาเนต' นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ได้เป็นประธานกล่าวปิดการประชุมคณะกรรมการกลางของสหภาพสหพันธ์เยาวชนกัมพูชา (UYFC) โดยมีเนื้อหาส่วนใหญ่พูดถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา
ฮุน มาเนต แสดงความผิดหวังต่อกลุ่มต่อต้านที่อยู่ในต่างประเทศ ที่แม้ชาวกัมพูชาจะสามัคคีกันต่อต้านการรุกรานของไทย แต่กลับมีความเคลื่อนไหวเพื่อทำลายความสามัคคีของชาติ ยังชื่นชมความเข้มแข็งและความสามัคคีที่ลึกซึ้งของชาวกัมพูชา แม้จะมีความพยายามแบ่งแยกพวกเขาจากฝ่ายต่อต้านก็ตาม
'ฮุน มาเนต' กล่าวต่ออีกว่า ขณะนี้จิตวิญญาณแห่งความรักชาติของชาวกัมพูชาสูงมาก ขณะที่ประเทศไทยเองพยายามใช้การเคลื่อนไหวชาตินิยมสร้างความขัดแย้งกับกัมพูชา ใช้แรงกดดันทางเศรษฐกิจต่อกัมพูชา และใช้กำลังทหารรุกรานกัมพูชา
"ดังนั้น รากฐานของชาตินิยมกัมพูชาจึงไม่ได้มุ่งหวังที่จะสร้างแรงบันดาลใจให้ใครต่อสู้เพื่อผลประโยชน์ทางการเมืองภายใน แต่เนื่องมาจากปัจจัยภายนอก ประเทศหนึ่ง นักการเมืองของประเทศหนึ่ง ซึ่งต้องการผลประโยชน์ทางการเมืองของตนเอง สร้างเรื่องทางการเมืองภายใน และใช้กัมพูชาเป็นแพะรับบาป ซึ่งเป็นเหตุผลว่าทำไมชาติกัมพูชาของเราต้องตอบโต้"
กัมพูชาพยายามอดทนต่อการรุกรานของไทยอย่างมาก เพราะไม่ต้องการเห็นปัญหาเกิดขึ้นระหว่าง 2 ประเทศ และเสริมว่า กัมพูชาเป็นประเทศที่อ่อนโยน แต่ต้องตอบโต้เพื่อปกป้องเกียรติและศักดิ์ศรีของกัมพูชา
"กัมพูชามีความยืดหยุ่นในตัวเอง แต่ถ้าคุณละเมิด เราก็ต้องตอบโต้ เรามีความสามารถเพียงพอที่จะดำเนินมาตรการเพื่อปกป้องภาพลักษณ์ของชาติและอธิปไตยของชาติ เราใช้วิธีการเหมือนงู คือนิ่งเฉย แต่ถ้ามาสร้างความยุ่งเหยิง เราจะกัดและฆ่ามัน ใครก็ตามที่เริ่มใช้นโยบายฝ่ายเดียวนี้ไม่ใช่กัมพูชา กัมพูชาไม่ต้องการใช้เพราะมันทำให้คนตามแนวชายแดนลำบาก แต่ถ้าประเทศไทยทำ เราก็จะทำ"
มาตรการตอบสนองสถานการณ์ฉุกเฉินของกัมพูชาที่นิ่งเฉยเหมือนงู ซึ่ง ฮุน มาเนต กล่าวถึง เช่น การเปิดและปิดประตูชายแดน ฝ่ายไทยตัดสินใจฝ่ายเดียวว่าจะเปิดเวลา 8.00 น. และปิดเวลา 16.00 น. โดยไม่ได้แจ้งให้กัมพูชาทราบ แต่หนึ่งคืนต่อมา กัมพูชาตอบโต้ด้วยการเปิดเวลา 9.00 น. และปิดเวลา 16.00 น. ในเวลานี้ ฝ่ายไทยงุนงงมากที่กัมพูชายังไม่เปิดประตูเวลา 8.00 น. แต่รอจน 9.00 น.
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในมาตรการล่าสุดอีกประการหนึ่ง เมื่อฝ่ายไทยขู่ว่า จะตัดการส่งน้ำมันไปยังกัมพูชาเพื่อกดดันมากขึ้น อย่างไรก็ตาม ไม่กี่ชั่วโมงหลังจากการประกาศดังกล่าว รัฐบาลกัมพูชาได้ใช้มาตรการตอบโต้ด้วยการหยุดการนำเข้าน้ำมันและก๊าซจากไทยตั้งแต่เที่ยงคืนวันที่ 23 มิ.ย. 68 โดยไม่รอให้ฝ่ายไทยตัดการส่ง
ฮุน มาเนต ย้ำว่า การตัดสินใจตอบโต้มาตรการใด ๆ ของรัฐบาลกัมพูชาไม่ได้ทำอย่างเร่งรีบ แต่เป็นการศึกษาและพิจารณาอย่างรอบคอบในทุกแง่มุม นายกรัฐมนตรีระบุว่า กัมพูชายังมีไพ่ในมืออีกมากที่จะเล่นกับฝ่ายไทย หากไทยต้องการเล่นต่อไป กัมพูชาสามารถเล่นด้วยได้เสมอ
พรมแดนที่ปิดของกัมพูชาจะปิดถาวร หากต้องการเปิดใหม่ จะต้องเปิดพร้อมกันทั้งหมด
นายกฯ กัมพูชา ยังกล่าวถึงประเด็นอาวุธยุทโธปกรณ์ว่า อาวุธของกัมพูชาได้รับการออกแบบมาโดยลงทุนน้อยแต่ได้กำไรมาก ไม่มีรถถัง ไม่มีเครื่องบิน แต่มีปืนไว้ยิงรถถังและเครื่องบิน อาวุธของกัมพูชาได้รับการออกแบบมาเพื่อปกป้องบูรณภาพแห่งดินแดน ไม่ใช่เพื่อใช้ในการรุกรานผู้อื่น และบอกว่า กองกำลังติดอาวุธและอาวุธของกัมพูชามีความสามารถในการปกป้องดินแดนและอธิปไตยของชาติ
ฮุน มาเนต ยังตั้งคำถามว่า กัมพูชาควรทำงานร่วมกับฝ่ายใดในไทยกันแน่ เพราะฝ่ายหนึ่งเปิดกว้างสำหรับการเจรจา ในขณะที่ฝ่ายทหารปิดอยู่ โดยชี้ว่า ก่อนจะเจรจากับกัมพูชา ไทยควรตกลงกันภายในก่อน ฝ่ายใดก็ตามที่เข้ามาหารือเรื่องการเปิดจุดผ่านแดนกับกัมพูชาจะต้องดำเนินการตามนั้น เขากล่าวว่า การฟื้นฟูพรมแดนให้กลับเป็นเหมือนเดิมนั้นทำได้ง่ายมาก ขั้นแรกให้เปิดจุดผ่านแดนก่อน จากนั้นค่อยพูดถึงการถอนทหาร และย้ำว่า การแก้ไขปัญหาพรมแดน ซึ่งเป็นกุญแจสำคัญในการแก้ไขปัญหา อยู่ในมือของประเทศไทย
ฮุน มาเนต เปิดเผยด้วยว่า ประเทศไทยได้ส่งโดรนเข้าไปในดินแดนกัมพูชาซ้ำแล้วซ้ำเล่า โดยโดรนบางส่วนถูกยิงตก นอกจากนี้ กัมพูชาได้ยึดปืนกลที่ทหารไทยลืมไว้ และได้เรียกทหารไทยให้ไปเก็บคืนมา ย้ำว่า ชัยชนะและความพ่ายแพ้ไม่ได้ถูกกำหนดด้วยอาวุธเพียงอย่างเดียว ปัญหาพรมแดนกับประเทศไทยในปัจจุบันไม่ได้เกิดจากกัมพูชา
นอกจากนี้เขายังอ้างรายงานของสื่อไทยว่า มีคนไทยฆ่าตัวตายเพราะทหารไทยปิดพรมแดน จากปัญหาการค้าขายผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร บางประเทศขอเข้าร่วมไกล่เกลี่ยข้อพิพาทชายแดนระหว่างกัมพูชากับไทย และต้องการให้แก้ปัญหานี้แบบทวิภาคี แต่ตนยืนยันว่า นอกเหนือจาก 4 พื้นที่ ได้แก่ ปราสาทตาเมือนธม ปราสาทตาเมือนโต๊ด ปราสาทตาควาย และช่องบกแล้ว กัมพูชายังคงเข้าร่วมการเจรจาแบบทวิภาคี
ฮุน มาเนต กล่าวว่า กัมพูชามุ่งมั่นที่จะแก้ไขปัญหากับไทย แต่จะไม่ยอมก้มหัวหรือยอมจำนนต่อคำดูถูกเหยียดหยาม และกัมพูชาจะไม่แลกอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนเพื่อผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจ อย่าดูถูกหรือดูหมิ่นกัมพูชา กัมพูชามีศักยภาพที่จะเป็นอิสระและดำรงชีวิตอย่างอิสระโดยไม่ต้องพึ่งพาประเทศเพื่อนบ้าน
"กัมพูชาแตกต่างจากประเทศไทย ในกัมพูชา ไม่ว่านายกรัฐมนตรีจะสั่งอะไรก็ตาม จะต้องดำเนินการ ไม่เหมือนในประเทศไทย ที่นายกรัฐมนตรีสั่งอย่างหนึ่ง แต่กองทัพกลับทำตรงกันข้าม และเตือนไทยว่า ใช้กองทัพกดดันกัมพูชาให้ถอนคดีจากศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ เพราะจะไม่ประสบความสำเร็จ" ฮุน มาเนต กล่าว
ขอบคุณข้อมูล : Fresh News
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี