2 ก.ค. 2568 สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานข่าว As USAID stops foreign aid, Rubio says future US assistance will be limited อ้างการเปิดเผยของ มาร์โก รูบิโอ (Marco Rubio) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐอเมริกา ที่ระบุว่า ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค. 2568 เป็นต้นไป หน่วยงานเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศสหรัฐ (USAID) จะยุติการช่วยเหลือต่างประเทศอย่างเป็นทางการ และ USAID จะถูกยุบรวมเข้าเป็นส่วนหนึ่งของกระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งแนวทางดังกล่าวเป็นไปตามนโยบายของประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ (Donald Trump) ที่ต้องการลดขนาดภาครัฐของสหรัฐฯ ให้เล็กลง
“สหรัฐฯ กำลังละทิ้งสิ่งที่เรียกว่ารูปแบบที่เน้นการกุศล และจะมุ่งเน้นไปที่การส่งเสริมให้ประเทศต่างๆ เติบโตอย่างยั่งยืน เราจะสนับสนุนประเทศต่างๆ ที่แสดงให้เห็นทั้งความสามารถและความเต็มใจที่จะช่วยเหลือตนเอง และจะจัดสรรทรัพยากรของเราไปยังพื้นที่ที่สามารถสร้างผลกระทบแบบทวีคูณและกระตุ้นภาคเอกชนที่ยั่งยืน รวมถึงบริษัทอเมริกันและการลงทุนทั่วโลก” รูบิโอ กล่าว
ในแถลงการณ์ที่ออกโดยรูบิโอ รมว.ต่างประเทศสหรัฐฯ ได้อธิบายว่า รูปแบบใหม่นี้จะให้ความสำคัญกับการค้าและการลงทุนมากกว่าความช่วยเหลือ และจะทำให้สหรัฐฯ อยู่ในตำแหน่งที่แข็งแกร่งขึ้นในการต่อต้านจีน ทั้งนี้ นับตั้งแต่ทรัมป์เข้ารับตำแหน่งผู้นำสหรัฐฯ ได้ระงับและลดเงินช่วยเหลือต่างประเทศหลายพันล้านเหรียญสหรัฐ โดยระบุว่าต้องการให้แน่ใจว่าเงินภาษีของพลเมืองอเมริกันจะถูกนำไปใช้เฉพาะกับโครงการที่สอดคล้องกับนโยบาย “อเมริกาต้องมาก่อน” ของทรัมป์เท่านั้น
รายงานข่าวกล่าวต่อไปว่า การปรับลดงบประมาณทำให้ USAID ต้องปิดตัวลงไปโดยปริยาย ส่งผลให้บุคลากรและผู้รับเหมางานหลายพันคนต้องถูกเลิกจ้าง ตลอดจนการส่งมอบอาหารและความช่วยเหลือทางการแพทย์ที่ช่วยชีวิตไว้ได้ตกอยู่ในอันตราย ทำให้ปฏิบัติการบรรเทาทุกข์ด้านมนุษยธรรมทั่วโลกตกอยู่ในความโกลาหล ตามการวิจัยที่ตีพิมพ์ในวารสารการแพทย์ The Lancet การตัดงบประมาณ USAID อย่างหนักและการยุบเลิกอาจส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นมากกว่า 14 ล้านคนภายในปี 2573
ผู้เชี่ยวชาญด้านสิทธิมนุษยชนและผู้สนับสนุนได้เตือนถึงการตัดงบประมาณดังกล่าว ซึ่งการจัดสรรงบประมาณของ USAID มีบทบาทสำคัญในการปรับปรุงสุขภาพทั่วโลก โดยมุ่งเน้นไปที่ประเทศที่มีรายได้น้อยและปานกลาง โดยเฉพาะในทวีปแอฟริกา ขณะที่สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานเมื่อวันที่ 1 ก.ค. 2568 ว่า รัฐบาลสหรัฐฯ ได้ยกเลิกสัญญาสำคัญในการจัดหาชุดฉุกเฉินสำหรับผู้รอดชีวิตจากการข่มขืนในสาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโกตะวันออก เนื่องจากความรุนแรงที่เพิ่มขึ้นในปี 2568 ทำให้ผู้คนหลายพันคนไม่สามารถเข้าถึงยาที่ช่วยชีวิตได้ ตามการเปิดเผยขององค์การสหประชาชาติ (UN) และกลุ่มบรรเทาทุกข์
USAID ก่อตั้งขึ้นในปี 2504 โดยประธานาธิบดีจอห์น เอฟ. เคนเนดี (John F. Kennedy) จากพรรคเดโมแครตในช่วงที่สงครามเย็นรุนแรงที่สุด โดยมีเป้าหมายเพื่อประสานงานความช่วยเหลือต่างประเทศให้ดียิ่งขึ้น ซึ่งถือเป็นฐานสำคัญของนโยบายต่างประเทศของสหรัฐฯ ในการต่อต้านอิทธิพลของลัทธิคอมมิวนิสต์ที่นำโดยสหภาพโซเวียต รัฐบาลสหรัฐฯ เป็นผู้บริจาคความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมรายใหญ่ที่สุดของโลก คิดเป็นอย่างน้อยร้อยละ 38 ของเงินบริจาคทั้งหมดที่บันทึกโดยสหประชาชาติ โดยในปี 2567 ที่ผ่านมา สหรัฐฯ ได้จ่ายเงินช่วยเหลือต่างประเทศ 61,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งมากกว่าครึ่งหนึ่งของจำนวนดังกล่าวผ่าน USAID
หนึ่งในโครงการที่ได้รับผลกระทบจากการตัดงบประมาณคือแผนฉุกเฉินของประธานาธิบดีสำหรับการบรรเทาทุกข์ด้านเอดส์ (PEPFAR) ซึ่งเป็นโครงการริเริ่มด้าน HIV/AIDS ชั้นนำของโลก โดยภูมิภาคแอฟริกาใต้สะฮารายังคงเป็นศูนย์กลางของการระบาดของโรคเอดส์ การตัดงบประมาณของทรัมป์ได้จำกัดการเข้าถึงยาที่ชาวแอฟริกันหลายล้านคนใช้เพื่อป้องกันการติดเชื้อ โดยเฉพาะชุมชนที่เปราะบาง เช่น ชายรักชาย (Gay) และผู้ขายบริการทางเพศ ในขณะที่กลุ่มช่วยเหลือและระบบสาธารณสุขในแอฟริกาพยายามอย่างหนักเพื่อหยุดยั้งการระบาดของโรค
ทรัมป์กล่าวว่าสหรัฐฯ จ่ายเงินช่วยเหลือต่างประเทศอย่างไม่สมส่วน และเขาต้องการให้ประเทศอื่นแบกรับภาระมากขึ้น ขณะที่เจ้าหน้าที่ระดับสูงของกระทรวงการต่างประเทศที่ให้ข้อมูลโดยขอไม่เปิดเผยชื่อ กล่าวถึง USAID ว่าเป็นการมีส่วนร่วมที่ล้มเหลว ซึ่งไม่ได้ลดความพึ่งพาของต่างประเทศที่มีต่อสหรัฐฯ และย้ำว่าประเทศอื่นๆ จำเป็นต้องก้าวขึ้นมา สหรัฐฯ ต้องการเห็นการลงทุนจากพันธมิตรมากขึ้น เห็นการลงทุนร่วมกัน เห็นข้อตกลงการค้า ข้อตกลง และความตกลงในการทำงานร่วมกัน
รายงานข่าวทิ้งท้ายว่า การปิด USAID ทำให้ 2 อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ จอร์จ บุช (George Bush) และ บารัค โอบามา (Barack Obama) ซึ่งเข้าร่วมการประชุมทางวิดีโอแบบปิดกับชุมชน USAID ออกมาตำหนิอย่างหนัก ขณะที่เมื่อวันที่ 30 มิ.ย. 2568 สำนักข่าว AP รายงานว่า การทำลาย USAID เป็นเรื่องน่าเศร้าและน่าสลดใจ เพราะเป็นงานที่สำคัญที่สุดอย่างหนึ่งที่เกิดขึ้นในทุกที่ของโลก
ขอบคุณเรื่องจาก
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
https://www.naewna.com/inter/858457 จากยุค‘ต้านคอมมิวนิสต์’ถึงวันที่‘ทรัมป์’ไม่ปลื้ม รู้จัก‘USAID’หน่วยงาน‘สหรัฐฯ’ส่งออกความช่วยเหลือทั่วโลก
043...
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี