27 ก.ค. 2568 โลกจับตาสถานการณ์การสู้รบระหว่างไทยกับกัมพูชา ซึ่งผ่านมาแล้ว 3 วันและล่วงเข้าสู่วันที่ 4 ของการปะทะ ตามเวลาท้องถิ่นของทั้ง 2 ประเทศ โดยสำนักข่าว Fox News สหรัฐอเมริกา รายงานข่าว Trump calls for immediate ceasefire between Cambodia and Thailand amid escalating violence ระบุว่า โดนัลด์ ทรัมป์ (Donald Tump) ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เปิดเผยเมื่อวันที่ 26 ก.ค. 2568 ตามเวลาท้องถิ่นของสหรัฐฯ ว่า ตนได้พูดคุยกับผู้นำของไทยและกัมพูชา เรียกร้องให้ทั้ง 2 ฝ่ายหยุดยิง และสหรัฐฯ จะไม่เจรจาด้วยหากการหยุดยิงไม่เกิดขึ้น

“ผมเพิ่งได้พูดคุยกันอย่างราบรื่นกับนายกรัฐมนตรีกัมพูชา และได้แจ้งให้ท่านทราบถึงการหารือของผมกับกับรักษาการนายกรัฐมนตรีของไทย ทั้ง 2 ฝ่ายกำลังมองหาการหยุดยิงและสันติภาพโดยทันที พวกเขายังต้องการกลับเข้าสู่โต๊ะเจรจากับสหรัฐฯ ซึ่งเราคิดว่าไม่เหมาะสมที่จะทำเช่นนั้น จนกว่าการสู้รบจะยุติลง” ผู้นำสหรัฐฯ โพสต์ข้อความผ่านแพลตฟอร์ม Truth Social Saturday ขณะกำลังอยู่ในสกอตแลนด์ ระหว่างการเดินทางเยือนสหราชอาณาจักรเป็นเวลา 5 วัน

ทรัมป์ ยังเล่าต่อด้วยว่า กัมพูชาและไทยตกลงที่จะพบกันโดยทันที และจะรีบหาทางยุติการหยุดยิง และท้ายที่สุดคือสันติภาพ! นับเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ตนได้เจรจากับทั้ง 2 ประเทศ ซึ่งทั้งกัมพูชาและไทยมีประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมอันยาวนานและเปี่ยมไปด้วยเรื่องราว ตนหวังว่าทั้ง 2 ชาติจะเข้ากันได้ดีไปอีกหลายปี เมื่อทุกอย่างเสร็จสิ้นและสันติภาพใกล้เข้ามา ตนตั้งตารอที่จะสรุปข้อตกลงการค้าของสหรัฐฯ กับทั้ง 2 ประเทศ

นสพ.The Sun ของมาเลเซีย รายงานข่าว M’sia monitoring tensions at Thai-Cambodia border ระบุว่า อันวาร์ อิบราฮิม (Anwar Ibrahim) กล่าวระหว่างการแถลงข่าวที่ศูนย์การประชุมนานาชาติปุตราจายา เมื่อวันที่ 26 ก.ค. 2568 ว่า มาเลเซียกำลังติดตามสถานการณ์ความตึงเครียดตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชาอย่างใกล้ชิด ซึ่งการสู้รบยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าทั้งสองประเทศจะให้คำมั่นว่าจะลดความตึงเครียดลง นอกจากนี้ ตนขอขอบคุณสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ซึ่งแสดงความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของความขัดแย้งชายแดนต่อการค้าในภูมิภาค

“นายกรัฐมนตรีของไทยและกัมพูชาได้ออกแถลงการณ์และติดต่อตนเป็นการส่วนตัวเพื่อแสดงความขอบคุณ ซึ่งผมได้มอบหมายให้ โมฮาหมัด ฮาซัน (Mohamad Hasan) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของมาเลเซีย เป็นผู้ประสานงาน และผมจะเข้าแทรกแซงเป็นการส่วนตัวหากจำเป็น อย่างน้อยที่สุดก็ขอให้ยุติการปะทะกันก่อนและดำเนินการเจรจาต่อไป” นายกฯ มาเลเซีย กล่าว

สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานข่าว Thai-Cambodia border shelling continues despite Trump's ceasefire call ระบุว่า ไม่กี่ชั่วโมงหลังจาก โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ประกาศว่าไทยและกัมพูชาพร้อมหาทางออกเพื่อยุติการสู้รบ การปะทะกันของกำลังทหารทั้ง 2 ฝ่ายได้เริ่มขึ้นในรุ่งเช้าของวันที่ 27 ก.ค. 2568 ตามเวลาท้องถิ่นของทั้ง 2 ประเทศ ซึ่งทั้งไทยและกัมพูชาต่างกล่าวว่าอีกฝ่ายได้เปิดฉากโจมตีด้วยปืนใหญ่ในพื้นที่ชายแดนที่เป็นข้อพิพาท

ในช่วงช้าของวันที่ 27 ก.ค. 2568 กระทรวงกลาโหมกัมพูชา กล่าวว่า ไทยได้ยิงปืนใหญ่และโจมตีภาคพื้นดินในหลายจุด รวมถึงที่พนมกมอช (Phnom Kmoach) ซึ่งอยู่ติดกับ จ.ตราด ของไทย โดยโฆษกกระทรวงกลาโหมกัมพูชา อ้างว่ามีการยิงปืนใหญ่ใส่กลุ่มปราสาท ขณะที่ฝ่ายไทย กองทัพบกกล่าวว่า กัมพูชาได้ยิงปืนใหญ่เข้าใส่หลายพื้นที่ รวมถึงบริเวณใกล้บ้านเรือนประชาชน เช่นเดียวกับผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ ระบุว่า มีมีการยิงปืนใหญ่เข้ามาในพื้นที่ของจังหวัด ทำให้บ้านเรือนได้รับความเสียหายและปศุสัตว์ที่ชาวบ้านเลี้ยงไว้ล้มตาย

(รอยเตอร์) แผนที่จุดปะทะกันระหว่างทหารไทยและกัมพูชา (ปรับปรุงลาสุด 26 ก.ค. 2568)

ผู้สื่อข่าวของรอยเตอร์ในประเทศไทย ซึ่งลงพื้นที่ จ.ศรีสะเกษ รายงานว่า ได้ยินเสียงปืนใหญ่ยิงถล่มในช่วงเช้าวันที่ 27 ก.ค. 2568 แต่ยังไม่ชัดเจนว่าเป็นการยิงจากฝั่งใดของชายแดน ขณะที่ชาวบ้านในพื้นที่รายหนึ่ง กล่าวว่า หากมีการหยุดยิง สถานการณ์จะดีขึ้น และเป็นเรื่องดีที่สหรัฐฯ เรียกร้องให้มีการหยุดยิง เพราะจะนำมาซึ่งสันติภาพ ทั้งนี้ การสู้รบครั้งล่าสุดระหว่างไทยกับกัมพูชา เป็นสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุดของทั้ง 2 ชาติในรอบกว่าทศวรรษ ยอดผู้เสียชีวิตพุ่งสูงกว่า 30 ราย ส่วนใหญ่เป็นพลเรือน และมีประชากรกว่า 130,000 คนถูกอพยพออกจากพื้นที่ชายแดนของทั้ง 2 ประเทศ

ฮุน มาเนต (Hun Manet) นายกรัฐมนตรีกัมพูชา โพสต์ความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า ตนได้แจ้งต่อประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ว่ากัมพูชาเห็นด้วยกับข้อเสนอการหยุดยิงโดยทันทีและไม่มีเงื่อนไขระหว่างกองทัพทั้ง 2 ประเทศ และตนเห็นด้วยกับข้อเสนอการหยุดยิงก่อนหน้านี้ของมาเลเซียเช่นกัน ขณะที่ ภูมิธรรม เวชยชัย (Phumtham Wechayachai) รักษาการนายกรัฐมนตรีของไทย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า ตนขอขอบคุณประธานาธิบดีทรัมป์สำหรับความกังวล และแสดงความเห็นว่าไทยเห็นชอบในหลักการที่จะให้มีการหยุดยิง อย่างไรก็ตาม ไทยต้องการเห็นเจตนารมณ์ที่จริงใจจากกัมพูชาด้วย

รางานของรอยเตอร์ ยังกล่าวด้วยว่า ไทยและกัมพูชาขัดแย้งกันมานานหลายทศวรรษเกี่ยวกับพรมแดนทางบกของทั้ง 2 ประเทศที่มีความยาว 817 กิโลเมตร (508 ไมล์) โดยมีกรรมสิทธิ์ในวัดฮินดูโบราณอย่างปราสาทตาเมือนธม และปราสาทพระวิหาร โบราณสถานสมัยศตวรรษที่ 11 (ปี 1,000 – 1,099) เป็นศูนย์กลางของข้อพิพาท ซึ่งในปี 2505 ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ICJ) หรือศาลโลก ได้ตัดสินให้ปราสาทพระวิหารเป็นของกัมพูชา

แต่ความตึงเครียดทวีความรุนแรงขึ้นในปี 2551 หลังจากที่กัมพูชาพยายามยื่นเรื่องไปที่องค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (UNESCO) เพื่อขอขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลก ตามด้วยการปะทะกันด้วยกำลังทหารเป็นระยะๆ ในช่วงหลายปีหลังจากนั้น จนมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 12 ราย ขณะที่ความรุนแรงระลอกล่าสุด ทั้ง 2 ฝ่ายเผชิญหน้ากันในช่วงปลายเดือน พ.ค. 2568 ซึ่งมีทหารกัมพูชาเสียชีวิต 1 นาย

ตามแนวชายแดนของทั้ง 2 ประเทศ แต่ละฝ่ายได้เพิ่มกำลังทหารเข้าไปประจำการท่ามกลางวิกฤติทางการทูตอย่างเต็มรูปแบบ ซึ่งส่งผลให้รัฐบาลผสมที่เปราะบางของไทยสุ่มเสี่ยงพังทลายลง ขณะที่ในเดือน มิ.ย. 2568 กัมพูชาระบุว่าได้ยื่นคำร้องต่อศาลโลกให้ยุติข้อพิพาทกับไทย ในขณะที่ไทยประกาศจุดยืนไม่ยอมรับอำนาจศาลโลก และเรียกร้องให้กัมพูชากลับสู่การเจรจาด้วยกลไกทวิภาคี

(รอยเตอร์) 25 ก.ค. 2568 ทหารกัมพูชาและรถบรรทุกติดตั้งจรวดหลายลำกล้อง BM-21 Grad ในพื้นที่ จ.อุดรมีชัย ประเทศกัมพูชา ซึ่งอยู่ห่างปราสาทตาเมือนธม พื้นที่พิพาทระหว่างกัมพูชากับไทยประมาณ 40 กม. (24 ไมล์) 

นสพ.Korea JoongAng Daily ของเกาหลีใต้ รายงานข่าว Foreign Ministry raises Cambodia-Thailand border travel advisory ระบุว่า ช่วงเช้าของวันที่ 27 ก.ค. 2568 กระทรวงการต่างประเทศของเกาหลีใต้ ได้ยกระดับคำเตือนสำหรับ 5 จังหวัดของกัมพูชาตามแนวชายแดนไทย ซึ่งก่อนหน้านี้ 2 วัน ได้ยกระดับเป็นระดับ 2 หรือ “ระมัดระวังสูง” เป็นคำเตือนการเดินทางพิเศษ มีผลตั้งแต่เวลา 12.00 น. ของวันที่ 27 ก.ค. 2568 เป็นต้นไป

ทำให้ล่าสุด มี 7 จังหวัดของกัมพูชา อยู่ภายใต้คำแนะนำพิเศษด้านการเดินทางซึ่งประกาศโดยทางการเกาหลีใต้ ประกอบด้วย บันเตียเมียนเจย , ไพลิน , พระตะบอง , โพธิสัตว์ , เกาะกง , อุดรมีชัยและพระวิหาร คำแนะนำการเดินทางพิเศษนี้ถือเป็นระดับ 2.5 ซึ่งสูงกว่าระดับ 2 แต่ไม่รุนแรงเท่ากับระดับ 3 “จำกัดการเดินทาง” ประกาศนี้ออกในกรณีเร่งด่วนและมีผลบังคับใช้นานสูงสุด 90 วัน ส่วนพื้นที่อื่นๆ ของกัมพูชายังคงอยู่ภายใต้คำแนะนำการเดินทางพิเศษระดับ 1 “ระมัดระวัง”

กระทรวงการต่างประเทศของเกาหลีใต้ ขอความร่วมมือพลเมืองให้ยกเลิกหรือเลื่อนการเดินทางที่วางแผนไว้ไปยังพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ และแนะนำให้ผู้ที่อยู่ในพื้นที่นั้นย้ายไปยังพื้นที่ที่ปลอดภัยกว่า ทั้งนี้ ไทยและกัมพูชาได้เกิดความขัดแย้งด้วยอาวุธในพื้นที่พิพาทชายแดนตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค. 2568 ด้วยความกังวลที่เพิ่มขึ้นว่าการสู้รบอาจทวีความรุนแรงขึ้นเป็นสงครามเต็มรูปแบบ พื้นที่สู้รบได้ขยายออกไปทางตะวันตกของกัมพูชาและทางตะวันออกของไทย โดยเมื่อวันที่ 26 ก.ค. 2568 มีผู้เสียชีวิตจากทั้งสองฝ่ายอย่างน้อย 33 ราย

ขอบคุณเรื่องจาก

https://www.foxnews.com/politics/trump-calls-immediate-ceasefire-between-cambodia-thailand-amid-escalating-violence

https://thesun.my/malaysia-news/m-sia-monitoring-tensions-at-thai-cambodia-border-HF14553150

https://www.reuters.com/world/asia-pacific/thai-cambodia-border-shelling-continues-despite-trumps-ceasefire-call-2025-07-27/

https://koreajoongangdaily.joins.com/news/2025-07-27/national/socialAffairs/Foreign-Ministry-raises-CambodiaThailand-border-travel-advisory/2362151

043... 

(รอยเตอร์) 25 ก.ค. 2568 กำลังทหารพร้อมยุทโธปกรณ์ ในพื้นที่ จ.สุรินทร์ ประเทศไทย วันที่ 2 ของการสู้รบระหว่างไทยกับกัมพูชา