26 สิงหาคม 2568 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า 'ดร.พอล ยอนสัน' (Pål Jonson) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมสวีเดน ได้ออกมาเปิดเผยถึงประเด็นที่ไทยปิดดีลซื้อเครื่องบินขับไล่โจมตี 'กริพเพน' 4 ลำ หลังสื่อกัมพูชาตีข่าวร้องขอให้ทำสัญญาไม่ใช้โจมตีเพื่อนบ้าน
ทาง 'ดร.พอล ยอนสัน' รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมสวีเดน ระบุว่า ความสัมพันธ์ระหว่างสวีเดนและไทยแน่นแฟ้นยิ่งขึ้นหลังการลงนามในสัญญาความร่วมมือฉบับล่าสุด พร้อมแสดงความเห็นต่อกรณีการใช้เครื่องบินขับไล่กริพเพนในสถานการณ์ความขัดแย้งบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชาที่ผ่านมาว่า
สิ่งนี้ทำให้ความร่วมมือทวิภาคีระหว่างสวีเดนและไทยลึกซึ้งยิ่งขึ้น และผมภูมิใจมากที่เรามีคนไทยจำนวนมากอาศัยอยู่ในสวีเดนกว่า 80,000 คน และมีชาวสวีเดนกว่า 200,000 คนเดินทางมาประเทศไทยทุกปี
ดังนั้น จึงเป็นเรื่องปกติที่เราจะกระชับความร่วมมือด้านกลาโหมให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น ความร่วมมือครั้งนี้จะก่อให้เกิดประโยชน์ต่อสังคมไทยในวงกว้าง นอกเหนือจากมิติด้านความมั่นคง ผมคิดว่าความร่วมมือนี้จะเป็นประโยชน์ต่อภาคส่วนที่กว้างขวางขึ้นของสังคมไทยด้วย เพราะแพ็คเกจชดเชยจาก Saab จะหมายถึงการลงทุนในด้านการศึกษา การวิจัยและพัฒนา และภาคเกษตรกรรมของไทย
เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงผลกระทบจากการที่ไทยนำเครื่องบินขับไล่กริพเพนเข้าปฏิบัติการในช่วงความขัดแย้งกับกัมพูชา 'ดร.พอล ยอนสัน' ได้ตอบอย่างชัดเจนว่า " ประเทศไทยมีสิทธิ์ใช้กริพเพนตามกฎหมายระหว่างประเทศเพื่อเป็นการป้องกันตนเอง แน่นอนว่านั่นเป็นทางเลือกของประเทศไทย ตราบเท่าที่คุณใช้มันตามกฎบัตรสหประชาชาติและตามกฎหมายระหว่างประเทศ"
นอกจากนี้ 'ดร.พอล ยอนสัน' ยังได้แสดงความเห็นว่าทั้งฝ่ายไทยและกัมพูชาต่างมีความพยายามที่จะลดความตึงเครียดของสถานการณ์ และยินดีที่มีการจัดตั้งคณะกรรมาธิการร่วมและมีผู้สังเกตการณ์จากอาเซียนเข้ามามีบทบาท ซึ่งเป็นผลประโยชน์ของประชาชนทั้งสองชาติ ซึ่งแน่นอนว่าประเทศไทยก็เหมือนกับประเทศอื่นๆ มีสิทธิ์ในการป้องกันตนเอง และเราเคารพในสิ่งนั้น
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี