'ทรัมป์'อนุมัติแผนซื้อ'ติ๊กต็อก'มูลค่า1.4หมื่นล้านดอลลาร์ จำกัด'จีน'ถือหุ้น20%

'ทรัมป์'อนุมัติแผนซื้อ'ติ๊กต็อก'มูลค่า1.4หมื่นล้านดอลลาร์ จำกัด'จีน'ถือหุ้น20%

วันศุกร์ ที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2568, 07.48 น.

26 กันยายน 2568 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ลงนามคำสั่งฝ่ายบริหาร อนุมัติข้อเสนอซื้อกิจการของ 'ติ๊กต็อก' (Tiktok) ในสหรัฐฯ เพื่อให้แอปพลิเคชันยอดนิยมนี้สามารถให้บริการในสหรัฐฯ ต่อไปได้ 

โดยนาย เจ.ดี. แวนซ์ รองประธานาธิบดีสหรัฐฯ ระบุว่า เขาประเมินมูลค่าของข้อตกลงซื้อขายไว้ที่ 1.4 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ข้อตกลงดังกล่าวเป็นไปตามข้อกำหนดของกฎหมายความมั่นคงแห่งชาติที่กำหนดให้บริษัท 'ไบต์แดนซ์' (ByteDance) บริษัทแม่ของ'ติ๊กต็อก'ซึ่งตั้งอยู่ในประเทศจีน ต้องขายกิจการ'ติ๊กต็อก'ในสหรัฐฯ หรือเผชิญกับการถูกแบนในประเทศนี้ ภายใต้เงื่อนไขของข้อตกลง ซึ่งยังต้องรอการอนุมัติจากจีน บริษัทร่วมทุนแห่งใหม่จะเข้ามากำกับดูแลธุรกิจติ๊กต็อก ในสหรัฐฯ โดยที่ 'ไบต์แดนซ์' จะคงสัดส่วนการถือหุ้นไว้ไม่ถึง 20%


ตามรายงานของ CNBC บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่อย่าง 'ออราเคิล' (Oracle), 'ซิลเวอร์ เลค' (Silver Lake) และกองทุนเพื่อการลงทุน 'MGX' ซึ่งมีสำนักงานใหญ่ในอาบูดาบี จะเป็นผู้ลงทุนหลักในธุรกิจติ๊กต็อกของสหรัฐฯ โดยจะเข้าควบคุมสัดส่วนประมาณ 45% ของกิจการดังกล่าว ขณะที่นักลงทุนของ'ไบต์แดนซ์'และผู้ถือหุ้นรายใหม่จะถือครองหุ้น 35%

อย่างไรก็ตาม ไม่มีตัวแทนจาก'ไบต์แดนซ์'เข้าร่วมในการลงนามคำสั่งของ'ทรัมป์'และบริษัทก็ไม่ได้ออกมายอมรับว่ากำลังจะมีธุรกรรมใดๆ เกิดขึ้น ไม่มีการกล่าวถึงราคาซื้อ และไม่มีข้อบ่งชี้ว่ารัฐบาลจีนได้ทำการเปลี่ยนแปลงกฎหมายที่จำเป็นสำหรับข้อตกลงนี้แต่อย่างใด

'โดนัลด์ ทรัมป์' อ้างว่า ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีนได้ให้ไฟเขียวกับข้อตกลงดังกล่าวแล้ว ขณะที่รองประธานาธิบดีเจ.ดี. แวนซ์ กล่าวว่า รัฐบาลจีนพยายามขัดขวางบางอย่างก่อนที่จะมีการบรรลุข้อตกลงนี้

ทั้งนี้ ตามแผนที่วางเอาไว้ บริษัท'ออราเคิล'จะเป็นผู้ดูแลการดำเนินงานด้านความปลอดภัยของแอปฯติ๊กต็อก และยังคงให้บริการคลาวด์คอมพิวติ้งแก่บริษัทติ๊กต็อกสหรัฐฯ แห่งใหม่ต่อไป

'โดนัลด์ ทรัมป์' กล่าวก่อนหน้านี้ว่า นายแลร์รี เอลลิสัน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ 'ออราเคิล' จะมีส่วนร่วมในกลุ่มผู้ถือหุ้น และบริษัทของเขากำลังมีบทบาทสำคัญอย่างมาก "แอปฯนี้จะเป็นของคนอเมริกัน และเป็นคนอเมริกันที่มีความรู้ความสามารถสูง" ทรัมป์กล่าวในพิธีลงนาม "การดำเนินการทั้งหมดนี้จะเป็นไปโดยคนอเมริกัน"

เขาพยายามชงเรื่องการแบนแอปฯติ๊กต็อก ในสหรัฐฯ ในช่วงก่อนสิ้นสุดการปกครองสมัยแรกของเขา โดยอ้างความกังวลด้านความปลอดภัยของข้อมูล แม้นโยบายของเขาจะไม่เคยผ่านความเห็นชอบจากสภา แต่ในท้ายที่สุด รัฐบาลชุดต่อมาของนายโจ ไบเดน ก็ให้การสนับสนุนและลงนามเป็นกฎหมายในปี 2567 กฎหมายดังกล่าวทำให้บริการติ๊กต็อก ในสหรัฐฯ หยุดไปช่วงระยะเวลาหนึ่งในวันที่ 18 ก.ค. ก่อนที่ "กฎหมายควบคุมแอปพลิเคชันต่างชาติที่เป็นปรปักษ์" (Foreign Adversary Controlled Applications Act) จะเริ่มมีผลบังคับใช้ แต่ 2 วันต่อมา นายทรัมป์ก็ลงนามคำสั่งพิเศษ เลื่อนเส้นตายการแบนติ๊กต็อกออกไป 75 วัน

แต่ท่าทีของนายทรัมป์ที่มีต่อติ๊กต็อกเปลี่ยนไป หลังจากแอปพลิเคชันนี้ช่วยให้เขาชนะการเลือกตั้งปี 2567 อย่างถล่มทลาย กอปรกับความกังวลว่าจะทำให้ผู้ใช้งาน TikTok ในสหรัฐฯ กว่าร้อยล้านบัญชีไม่พอใจ ทำให้รัฐบาลของเขาเลื่อนการบังคับใช้กฎหมายดังกล่าวมาตลอด โดยครั้งล่าสุดเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อสัปดาห์ก่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top