27 กันยายน 2568 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่าจากกรณีที่มีภาพว่อนโซเชียลทั่วโลกสำหรับประเด็นที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ถกเถียงพร้อมชี้หน้า สุภาพสตรีหมายเลข 1 'เมลาเนีย ทรัมป์' บนเฮลิคอปเตอร์ประจำตำแหน่ง 'มารีน วัน' ทำให้สื่อบางสำนักตั้งข้อสังเกตว่า พวกเขาอาจจะระหองระแหงกันเหมือนกับคู่ของประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง ของฝรั่งเศส ที่ถูกภริยาใช้มือผลักเข้าที่ใบหน้าในระหว่างการเยือนเวียดนาม จนภาพนั้นเผยแพร่ไปทั่วโลก

ต่อมาทาง 'นิวยอร์ก โพสต์'  ได้รายงานว่า สิ่งที่ดูเหมือนเป็นการโต้เถียงกันอย่างดุเดือด และทรัมป์ถึงกับชี้นิ้วใส่เมลาเนียนั้น แท้จริงแล้ว เป็นการพูดคุยกันอย่างออกรสชาติ เกี่ยวกับบันไดเลื่อนในอาคารสำนักงานใหญ่ของสหประชาชาติ ที่เกิดขัดข้องตอนที่พวกเขากำลังจะใช้งาน  ซึ่งคลิปวิดีโอที่แชร์กันอย่างกว้างขวาง เผยให้เห็นว่า ทรัมป์ชี้นิ้วไปที่เมลาเนีย ซึ่งตอบโต้ด้วยการสั่นศีรษะ ที่มองเห็นผ่านหน้าต่างของ 'มารีน วัน' ที่ลงจอดบริเวณสนามหญ้าด้านใต้ ของทำเนียบขาว

ทางเจเรมี ฟรีแมน ผู้เชี่ยวชาญด้านการอ่านคำพูดทางนิติวิทยาศาสตร์ ให้ความเห็นว่า จากการตีความของเขา นั่นไม่ใช่การทุ่มเถียงกัน แต่กำลังพูดถึงสิ่งที่เกิดขึ้นที่สหประชาชาติ ที่แมนฮัตตัน หนึ่งวันก่อนหน้านี้ เขาบอกว่า ตอนที่บันไดเลื่อนหยุดทำงานกระทันหัน เมลาเนียได้พูดกับทรัมป์ว่า "เดินต่อไปเลย" ซึ่งเมลาเนียอยู่หน้าทรัมป์และก้าวขึ้นไปก่อน เธอเกือบจะเสียการทรงตัว และทรัมป์ตอบว่า "ไม่น่าเชื่อเลย คุณทำได้ยังไง" ส่วนเหตุการณ์บนเฮลิคอปเตอร์ เมลาเนียพูดว่า "โดนัลด์ มองชั้นสิ" ก่อนที่ทั้งคู่จะลงจากเฮลิคอปเตอร์ และจับมือกันเดินข้ามสนามหญ้าไปด้วยกัน

หลังเกิดเหตุ ทรัมป์ประกาศว่า คนที่เกี่ยวข้องกันเรื่องนี้ "ต้องถูกจับ" โดยบอกว่า เป็น "การก่อวินาศกรรมอย่างแท้จริง" เพราะมีรายงานของ "ไทม์  ออฟ ลอนดอน" ที่ระบุว่า มีการหยอกล้อกันในหมู่เจ้าหน้าที่สหประชาชาติว่า จะปิดบันไดเลื่อนและให้ทรัมป์เดินขึ้นไปบนห้องโถงเพื่อกล่าวสุนทรพจน์ ทรัมป์ยังโพสต์บนโซเชียล มีเดีย ด้วยว่า "น่าประหลาดใจจริงๆ ที่เมลาเนียและผมไม่ได้ล้มลงไปบนขอบเหล็กแหลมของบันไดเลื่อน" และ "ถ้าเราทั้งคู่ไม่ได้จับราวบันไดไว้แน่น มันคงจะเป็นหายนะแล้ว"

ซึ่งผู้เชี่ยวชาญการอ่านปากอีกคนคือ นิโคลา ฮิคคลิ่ง ก็เชื่อว่า เมลาเนียได้แสดงความห่วงใยทรัมป์ ในขณะที่ทั้งคู่คุยกันบนเฮลิคอปเตอร์ โดยเธอบอกว่า "ชั้นไม่สามารถให้อภัยพวกเขาได้ พวกเขาพยายามจะทำร้ายคุณ" และทรัมป์ได้ชี้ไปที่ภรรยาของเขา ตอนที่บอกว่า "เราทำแบบนี้ไม่ได้ เราควรปลอดภัย คุณไม่ได้ปลอดภัยเลย" ก่อนจะบอกต่อว่า "พวกเขาจบเห่แล้ว เราต้องท้าทายพวกเขา"