6 ตุลาคม 2568 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า สหรัฐฯ ชัตดาวน์ต่อเป็นวันที่ 5 (Government Shutdown) หลังจากผู้นำของพรรคเดโมแครต และพรรครีพับลิกันยังไม่สามารถบรรลุข้อตกลงเพื่อแก้ไขความเห็นที่ต่างกันเรื่องการจัดสรรงบประมาณได้ โดยทั้ง 2 พรรคนั้นมีความเห็นที่แตกต่างกันมากในเรื่องวิธีการยุติการปิดทำการบางส่วนของรัฐบาลสหรัฐฯ หรือ ชัตดาวน์ ขณะที่วันลงมติในวันจันทร์ที่ 6 ต.ค. 2568 ใกล้จะเกิดขึ้นแล้ว
นายฮาคีม เจฟฟรีส์ ผู้นำพรรคเดโมแครตในสภาผู้แทนราษฎร และ นายไมค์ จอห์นสัน ผู้นำพรรครีพับลิกัน ได้ให้สัมภาษณ์กับสถานี NBC ต่างก็โทษว่าเป็นความผิดของพรรคอีกฝ่ายที่ทำให้ยังไม่สามารถฝ่าทางตันได้ ซึ่งการชัตดาวน์จะเข้าสู่วันที่ 5 ในวันจันทร์นี้แล้ว (ตามเวลาท้องถิ่น)
ซึ่งประเด็นสำคัญที่สร้างความแตกแยกคือเรื่อง ประกันสุขภาพ โดยพรรคเดโมแครตต้องการทำให้แน่ใจว่า เงินอุดหนุนประกันสุขภาพสำหรับผู้มีรายได้น้อยจะไม่หมดอายุ และมีเป้าหมายที่จะยกเลิกการลดงบประมาณในโครงการสุขภาพเมดิเคด
ร่างกฎหมายเพื่อจัดสรรงบประมาณให้รัฐบาลมีเงินใช้จนถึงวันที่ 21 พ.ย. 2568 ผ่านความเห็นชอบจากสภาผู้แทนราษฎรแล้ว แต่ถูกตีตกในวุฒิสภาแล้วถึง 4 ครั้ง แม้ฝ่ายรีพับลิกันจะครองเสียงข้างมากที่ 53 เสียง แต่มาตรการจัดสรรงบประมาณใดๆ จะต้องได้รับเสียงสนับสนุนถึง 60 เสียง จึงจะผ่านได้
นายฮาคีม เจฟฟรีส์ ผู้นำพรรคเดโมแครต กล่าวหาพรรครีพับลิกันว่า โกหกเกี่ยวกับเจตนาของพรรคเดโมแครตในการเจรจาเพราะพวกเขากำลังแพ้ในเรื่องความเห็นของประชาชน แต่นายไมค์ จอห์นสัน กล่าวว่า พรรคเดโมแครต ไม่จริงจังและเจรจาด้วยเจตนาไม่สุจริตพวกเขากำลังทำเช่นนี้เพื่อหาข้ออ้างทางการเมือง
โดยคาดว่าวุฒิสภาจะมีการประชุมอีกครั้งในช่วงบ่ายวันจันทร์ (ตามเวลาท้องถิ่น) และจะหยิบยกมติคงคลัง 2 ฉบับขึ้นมาพิจารณาอีกครั้งเพื่อจัดสรรงบประมาณให้กับรัฐบาล ก่อนจะมีการโหวตลงมติเป็นครั้งที่ 5 ขณะเดียวกัน พรรคเดโมแครตในสภาผู้แทนราษฎรจะมีการประชุมในวันจันทร์เพื่อหารือเกี่ยวกับสถานการณ์ที่กำลังเกิดขึ้น
หลังนายไมค์ จอห์นสัน ขยายช่วงพักของสภาผู้แทนราษฎรออกไปตลอดสัปดาห์ ซึ่งหมายความว่าสภาล่างของรัฐสภาจะไม่อยู่ในสมัยประชุมเพื่อรับพิจารณาร่างกฎหมายงบประมาณ หากวุฒิสภามีการเปลี่ยนแปลงและบรรลุข้อตกลงใดๆ
อีกด้านหนึ่ง ผลสำรวจความคิดเห็นชุดใหม่จาก ซีบีเอส (CBS) ซึ่งเป็นพันธมิตรด้านข่าวในอเมริกาของสำนักข่าวชื่อดังBBC พบว่า ชาวอเมริกันมองการจัดการปัญหาการ ชัตดาวน์ ของทั้งพรรคเดโมแครตและรีพับลิกันไปในทางที่ไม่ดี และประธานาธิบดี ทรัมป์ ก็ได้รับผลตอบรับเชิงลบเช่นกัน ซึ่งผลสำรวจพบว่า 80% ของชาวอเมริกันเกือบ 2,500 คนที่ตอบแบบสำรวจ มีความกังวลมากหรือค่อนข้างกังวล เกี่ยวกับผลกระทบของการชัตดาวน์ มีเพียง 23% ของผู้ตอบแบบสอบถามเท่านั้นที่กล่าวว่าจุดยืนของพรรครีพับลิกันคุ้มค่ากับการปิดทำการของรัฐบาล ขณะที่ 28% กล่าวเช่นเดียวกันสำหรับข้อโต้แย้งของพรรคเดโมแครต
ผลโพลพบว่า ผู้มีสิทธิเลือกตั้งโทษ 'ทรัมป์' และพรรครีพับลิกันในรัฐสภาสำหรับสถานการณ์ที่เป็นอยู่นี้มากที่สุด ที่ 39% แต่พรรคเดโมแครตก็ไม่ได้ตามหลังมากนักโดยอยู่ที่ 30% ขณะที่มีชาวอเมริกันประมาณ 31% ที่ตอบแบบสำรวจว่า สมควรถูกตำหนิทั้งสองฝ่าย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี