โดนเข้าแล้ว! 'สหรัฐฯ-อังกฤษ'จับมือปราบปรามสแกมเมอร์ใน'กัมพูชา'

โดนเข้าแล้ว! 'สหรัฐฯ-อังกฤษ'จับมือปราบปรามสแกมเมอร์ใน'กัมพูชา'

วันพฤหัสบดี ที่ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2568, 12.15 น.
Tag :

16 ตุลาคม 2568 กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ ยื่นคำร้องทางแพ่งเพื่อริบทรัพย์เป็นบิตคอยน์ มูลค่าประมาณ 127,271 บิตคอยน์ ซึ่งปัจจุบันมีมูลค่าประมาณ 15,000 ล้านเหรียญ (487,950 ล้านบาท) และะตั้งข้อหาผู้ก่อตั้ง "ปรินซ์ กรุ๊ป" (Prince Group) อาณาจักรธุรกิจของกัมพูชาว่าเป็นผู้บงการแผนการหลอกลวงคริปโตเคอร์เรนซี หรือ สกุลเงินดิจิทัล ครั้งใหญ่ ซึ่งพัวพันกับค่ายกักกันบังคับใช้แรงงานด้วย

นายเฉิน จื้อ (Chen Zhi) หรือที่รู้จักกันในชื่อ “วินเซนต์” (Vincent) อายุ 37 ปี สัญชาติสหราชอาณาจักรและกัมพูชา ผู้ก่อตั้งและประธานกลุ่มบริษัท ปรินซ์ โฮลดิ้ง กรุ๊ป (Prince Holding Group) หรือ ปรินซ์ กรุ๊ป (Prince Group) ซึ่งเป็นกลุ่มบริษัทธุรกิจข้ามชาติขนาดใหญ่ในกัมพูชา เขาถูกตั้งข้อหาเมื่อวันอังคารที่นครนิวยอร์กของสหรัฐ ฐานสมรู้ร่วมคิดในการฉ้อโกงทางออนไลน์และการฟอกเงิน


ธุรกิจของนายเฉินยังถูกคว่ำบาตรโดยสหรัฐฯ และสหราชอาณาจักร ในปฏิบัติการร่วมกันครั้งนี้ รัฐบาลสหราชอาณาจักรระบุว่าได้อายัดทรัพย์สินในเครือข่ายของเขา ซึ่งรวมถึง อสังหาริมทรัพย์ 19 แห่งในลอนดอน โดยมีหนึ่งแห่งมูลค่าเกือบ 100 ล้านปอนด์ (ประมาณ 4.5 พันล้านบาท)

อัยการสหรัฐฯ กล่าวว่ากรณีนี้เป็นการริบทรัพย์สินทางการเงินครั้งใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ และเป็นการริบบิตคอยน์ที่มากที่สุดเท่าที่เคยมีมา โดยรัฐบาลสหรัฐฯ ยึดบิตคอยน์ได้ประมาณ 127,271 บิตคอยน์

กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ หรือ ดีโอเจกล่าวหาว่า นายเฉิน ซึ่งยังคงหลบหนีอยู่ เป็นผู้บงการ "อาณาจักรฉ้อโกงทางออนไลน์ขนาดใหญ่" ภายใต้บริษัทข้ามชาติของเขาคือ "ปรินซ์ กรุ๊ป" (Prince Group)

เว็บไซต์ของกลุ่มบริษัทที่ตั้งอยู่ในกัมพูชาระบุว่าบริษัทดำเนินธุรกิจหลากหลาย รวมถึงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ บริการทางการเงิน และสินค้าอุปโภคบริโภค แต่ดีโอเจกล่าวหาว่า บริษัทนี้ดำเนินธุรกิตที่เป็นหนึ่งในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย

ดีโอเจ ระบุว่า เหยื่อที่ไม่รู้เรื่องราวถูกติดต่อทางออนไลน์และถูกชักชวนให้โอนคริปโตเคอร์เรนซี โดยอ้างคำมั่นสัญญาที่บิดเบือนว่าเงินทุนเหล่านั้นจะถูกนำไปลงทุนและสร้างผลกำไร

อัยการสหรัฐฯ กล่าวหาว่า บริษัทภายใต้การกำกับดูแลของนายเฉิน ได้สร้างและดำเนินการ ค่ายหลอกลวงอย่างน้อยสิบแห่งทั่วกัมพูชา นายเฉินถูกกล่าวหาว่าบริหารจัดการค่ายเหล่านี้ที่ออกแบบมาเป็นพิเศษเพื่อให้เข้าถึงเหยื่อให้ได้มากที่สุด ผู้สมรู้ร่วมคิดของเขารวบรวมเบอร์โทรศัพท์มือถือหลายล้านเบอร์ และจัดตั้ง "ฟาร์มโทรศัพท์" (phone farms) เพื่อดำเนินการหลอกลวงทางคอลเซ็นเตอร์ โดยเอกสารของศาลระบุว่าสิ่งอำนวยความสะดวกสองแห่งมีโทรศัพท์มือถือ 1,250 เครื่อง ที่ควบคุมบัญชีโซเชียลมีเดียประมาณ 76,000 บัญชีสำหรับใช้ในการหลอกลวง

อัยการกล่าวว่าเอกสารของ "ปรินซ์ กรุ๊ป" มีเคล็ดลับในการสร้างความสัมพันธ์กับเหยื่อ โดยแนะนำพนักงานว่าไม่ควรใช้รูปโปรไฟล์ของผู้หญิงที่ "สวยเกินไป" เพื่อให้บัญชีดูน่าเชื่อถือมากขึ้น

นายจอห์น เอ. ไอเซนเบิร์ก ผู้ช่วยอัยการสูงสุดด้านความมั่นคงแห่งชาติ บรรยายถึง "ปรินซ์ กรุ๊ป" ว่าเป็น "องค์กรอาชญากรรมที่สร้างขึ้นจากความทุกข์ทรมานของมนุษย์" เขากล่าวเพิ่มเติมว่า กลุ่มนี้ยัง ค้ามนุษย์ โดยกักขังแรงงานในค่ายที่เหมือนเรือนจำ และบังคับให้ดำเนินการหลอกลวงทางออนไลน์ โดยมุ่งเป้าไปที่เหยื่อหลายพันคนทั่วโลก

นายเฉินและผู้สมรู้ร่วมคิดถูกกล่าวหาว่าใช้รายได้จากอาชญากรรมไปกับการเดินทางและบันเทิงสุดหรู รวมถึงการซื้อของ "ฟุ่มเฟือย" เช่น นาฬิกา เครื่องบินเจ็ตส่วนตัว และงานศิลปะหายาก รวมถึงภาพวาดของปิกัสโซที่ซื้อจากสำนักประมูลในนครนิวยอร์ก ซึ่งหากถูกตัดสินว่ามีความผิด นายเฉินจะต้องถูกลงโทษจำคุกสูงสุด 40 ปี

ในสหราชอาณาจักร นายเฉินและผู้สมรู้ร่วมคิดถูกกล่าวหาว่าจัดตั้งบริษัทในหมู่เกาะบริติชเวอร์จิน และลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ของสหราชอาณาจักร กระทรวงการต่างประเทศสหราชอาณาจักรระบุเมื่อวันอังคารว่า ทรัพย์สินในเครือข่ายของเขารวมถึงอาคารสำนักงานใจกลางลอนดอนมูลค่า 100 ล้านปอนด์ (ประมาณ 4,362.4 ล้านบาท) คฤหาสน์ในนอร์ทลอนดอนมูลค่า 12 ล้านปอนด์ (ประมาณ 523.5 ล้านบาท) และอพาร์ตเมนต์อีกสิบเจ็ดแห่งในเมือง

การที่นายเฉินถูกคว่ำบาตรในปฏิบัติการร่วมกับทางการสหรัฐฯ หมายความว่าเขาถูกตัดขาดจากระบบการเงินของสหราชอาณาจักรแล้ว "ปรินซ์ กรุ๊ป" ก็ถูกคว่ำบาตรในสหรัฐฯ และถูกระบุว่าเป็นองค์กรอาชญากรรมด้วยเช่นกัน

นางอีเวตต์ คูเปอร์ (Yvette Cooper) รัฐมนตรีต่างประเทศของสหราชอาณาจักรกล่าวว่า บุคคลเหล่านี้กำลังทำลายชีวิตของผู้คนที่อ่อนแอ และกว้านซื้อบ้านในลอนดอนเพื่อเก็บเงินของพวกเขา คูเปอร์กล่าวว่า สหราชอาณาจักรร่วมมือกับพันธมิตรในสหรัฐฯ ดำเนินการอย่างเด็ดขาดเพื่อต่อสู้กับภัยคุกคามข้ามชาติที่เพิ่มขึ้นจากเครือข่ายนี้ โดยยึดมั่นในสิทธิมนุษยชน คุ้มครองพลเมืองอังกฤษ และป้องกันไม่ให้เงินสกปรกเข้ามาในพื้นที่ของสหราชอาณาจักร

กระทรวงต่างประเทศสหราชอาณาจักรระบุว่า นายเฉินและ "ปรินซ์ กรุ๊ป" สร้างบ่อนคาสิโนและค่ายกักกันที่ใช้เป็นศูนย์หลอกลวงและฟอกเงิน ธุรกิจสี่แห่งที่เชื่อมโยงกับการหลอกลวงที่ถูกกล่าวหา ได้แก่ "เดอะปรินซ์ กรุ๊ป" The Prince Group "จินเปย์กรุ๊ป" (Jin Bei Group) "โกลเดน ฟอร์จูน รีสอร์ต เวิลด์" (Golden Fortune Resorts World) และ บายเอ็กซ์ เอ็กซ์เชนจ์ (Byex Exchange) ก็ถูกคว่ำบาตรด้วย

องค์การนิรโทษกรรมสากล หรือ แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล (Amnesty International) เผยแพร่รายงานเมื่อต้นปีนี้ ระบุชื่อแหล่งหลอกลวงสองแห่งที่ถูกกล่าวหาว่าดำเนินการโดย "จินเปย์กรุ๊ป" และ "โกลเดน ฟอร์จูน รีสอร์ต เวิลด์" ว่ามีการบังคับใช้ แรงงานและการทรมานภายในศูนย์หลอกลวงออนไลน์ในกัมพูชา

กระทรวงต่างประเทศสหราชอาณาจักรระบุว่า ผู้ที่ทำงานในศูนย์หลอกลวงเหล่านี้มักเป็น ชาวต่างชาติ ที่ถูกล่อลวงด้วยคำสัญญาว่าจะได้งานที่ถูกกฎหมาย จากนั้นก็ถูก บังคับให้ดำเนินการหลอกลวงภายใต้การขู่ว่าจะทรมาน กลุ่มมิจฉาชีพเหล่านี้ดำเนินการใน ระดับอุตสาหกรรม รวมถึงในสหราชอาณาจักรด้วย โดยใช้กลโกงต่างๆ เช่น การสร้างความสัมพันธ์โรแมนติกปลอม (Romance Scams) เพื่อล่อลวงเหยื่อให้ตกเป็นผู้ถูกหลอกลวง

ลอร์ด แฮนสัน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่อต้านการฉ้อโกงกล่าวว่า พวกมิจฉาชีพจ้องที่จะปล้นเหยื่อที่อ่อนแอที่สุดด้วยการขโมยเงินเก็บทั้งชีวิต ทำลายความไว้ใจ และทำลายชีวิต ซึ่งรัฐบาลจะไม่ยอมให้มีการกระทำเช่นนี้

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top