22 ตุลาคม 2568 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่าจากเหตุการณ์ปล้นสะท้านโลก 4 คนร้าย บุกพิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ (louvre museum) ในกรุงปารีส ฝรั่งเศส เข้าไปในห้องจัดแสดง Galerie d’Apollon (Apollo’s Gallery) ผ่านทางหน้าต่างชั้น 2 กวาดเครื่องประดับล้ำค่าอัญมณียุคนโปเลียน 8 ชิ้น ส่วนทำชิ้นที่ 9 ทำตกเอาไว้ โดยใช้เวลาโจรกรรมไม่ถึง 7 นาที

ความคืบหน้าล่าสุด ตำรวจ และผู้เชี่ยวชาญด้านศิลปะ กล่าวว่า แก๊งอาชญากรรมทั่วยุโรปหันมาปล้นเครื่องเพชรและทองคำล้ำค่าจากพิพิธภัณฑ์ที่ขาดแคลนเงินทุนอย่าง พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ มากขึ้นเรื่อยๆ แต่ถึงแม้เจ้าหน้าที่จะจับกุมโจรได้ แต่ก็ประสบปัญหาในการค้นหาทรัพย์สินล้ำค่าเหล่านั้นกลับคืนมา

ผู้เชี่ยวชาญด้านศิลปะ ระบุว่า มีอาชญากรเพียงไม่กี่กลุ่มเท่านั้นที่มีความสามารถในการก่อเหตุอุกอาจอย่างการปล้นในกรุงปารีสและอาจเป็นที่รู้จักของตำรวจอยู่แล้ว แต่ทรัพย์สินที่ถูกขโมยไปนั้นอาจถูก แยกชิ้นส่วน และนำไปขายต่อได้อย่างรวดเร็ว

มาร์ก บัลเซลล์ส ผู้เชี่ยวชาญด้านอาชญากรรมต่อมรดกทางวัฒนธรรมจากเมืองบาร์เซโลนาของสเปนกล่าวเปรียบเทียบให้ฟังว่า หากตัวเขาโจรกรรมภาพเขียนผลงานของแวนโก๊ะห์ มันก็คือภาพแวนโก๊ะห์ ซึ่งเขาไม่สามารถจำหน่ายมันผ่านช่องทางอื่นใดนอกเหนือจากตลาดศิลปะที่ผิดกฎหมาย แต่หากขโมยเครื่องประดับ เขาสามารถยักย้ายผ่านตลาดผิดกฎหมายในรูปของอัญมณีล้ำค่าได้

ด้านอาร์เธอร์ แบรนด์ นักสืบสวนคดีศิลปะ กล่าวว่า หากเลือกเป้าหมายเป็นลูฟวร์ ซึ่งเป็นพิพิธภัณฑ์ที่สำคัญที่สุดในโลก แล้วขโมยเครื่องประดับหนีไปได้ แสดงว่ามีบางอย่างผิดพลาดกับการรักษาความปลอดภัย และครั้งนี้ถือว่าเป็นหนึ่งในการไล่ล่าโจรครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ฝรั่งเศส

คริสโตเฟอร์ มาริเนลโล ผู้ก่อตั้ง 'อาร์ต รีคัฟเวอรี อินเตอร์เนชันแนล'  ซึ่งเป็นองค์กรติดตามงานศิลปะที่ถูกโจรกรรม กล่าวว่าการปล้นพิพิธภัณฑ์เช่นนี้กำลังเพิ่มขึ้นทั่วยุโรปและที่อื่นๆ เขายกตัวอย่างคดีในเนเธอร์แลนด์ ฝรั่งเศส และอียิปต์ โดยกล่าวว่า ถ้าหากมีเครื่องเพชรหรือทองคำอยู่ในคอลเลกชันของพิพิธภัณฑ์แล้ว คงจะต้องมีความกังวลแล้ว

โดยอัยการปารีสมอบหมายการสอบสวนให้กับหน่วยงานตำรวจเฉพาะทางของปารีสที่รู้จักกันในชื่อ 'บีอาร์บี' ซึ่งคุ้นเคยกับการจัดการคดีปล้นทรัพย์ที่มีชื่อเสียง 'ปาสกาล สกูดลารา' อดีตเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งเคยประจำการในหน่วยงานนี้ กล่าวว่า บีอาร์บี จัดการกับการสอบสวนคดี คิม คาร์เดเชียน ผู้มีชื่อเสียงในวงการสื่ออเมริกัน ในปี 2016 ซึ่งโจรในกรุงปารีสขโมยแหวนหมั้นมูลค่า 4 ล้านดอลลาร์ของเธอ รวมถึงคดีลักพาตัวผู้บริหารคริปโตที่ร่ำรวยเมื่อไม่นานมานี้ด้วย

'บีอาร์บี' มีเจ้าหน้าที่ประมาณ 100 คน โดยมีผู้เชี่ยวชาญด้านการโจรกรรมพิพิธภัณฑ์มากกว่าสิบคน นักสืบจะตรวจสอบวิดีโอฟุตเทจ บันทึกโทรศัพท์ และหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ ขณะเดียวกันก็จะมีการใช้งานสายสืบด้วย โดยเขาแสดงความมั่นใจ "100%" ว่าจะจับกุมโจรได้

ตำรวจที่เคยทำงานที่สำนักงานกลางของตำรวจฝรั่งเศสเพื่อต่อต้านการค้าทรัพย์สินทางวัฒนธรรม กล่าวว่า เครื่องเพชรอาจไปจบลงที่ศูนย์กลางเพชรระดับโลกอย่าง เมืองแอนต์เวิร์ป ของเบลเยียม ซึ่งน่าจะมีผู้ที่ไม่กังวลเกี่ยวกับที่มาของสิ่งของเหล่านี้มากนัก เพชรสามารถถูกเจียระไนให้เป็นก้อนเล็กลง และทองคำก็ถูกหลอมละลาย ทำให้ผู้ซื้อไม่ทราบถึงแหล่งที่มาของมัน หากโจรรู้สึกว่าถูกไล่ต้อนใกล้จนมุ่ม พวกเขาก็อาจจะทิ้งหรือทำลายของที่ปล้นมาทั้งหมดก็ได้

นักสืบสวนคดีศิลปะ ระบุต่ออีกว่า หากอัญมณีที่ถูกโจรกรรมไปถูกตัดเป็นชิ้นเล็กๆ แล้ว ทุกอย่างก็จบ ไม่มีวันเห็นชิ้นส่วนเหล่านี้ในสภาพสมบูรณ์อีกเลย การกู้คืนงานศิลปะที่ถูกขโมยมีเปอร์เซ็นต์ที่น้อยมาก และเมื่อเป็นเครื่องประดับ เปอร์เซ็นต์นั้นยิ่งน้อยลงไปอีก หน่วยงานด้านวัฒนธรรมทั่วยุโรปจะพิจารณาถึงวิธีการปรับปรุงรักษาความปลอดภัยพิพิธภัณฑ์ให้ดีขึ้น ในช่วงเวลาที่การเงินตึงตัวเช่นนี้ 

เป็นไปไม่ได้ที่จะปกป้องพิพิธภัณฑ์ได้อย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาด ดังนั้นสิ่งที่ดีที่สุดคือการชะลอเวลาที่ต้องใช้ในการขโมยสิ่งของและหลบหนี เพื่อให้ตำรวจมีเวลารับมือนานขึ้น โดยการทำให้หน้าต่างหนาขึ้นหรือเพิ่มประตู เขากล่าวว่า คนร้ายรู้ว่าพวกเขามีเวลาเพียงห้า หกนาทีที่จะหนีไปได้ เพราะหลังจากหกนาที ตำรวจก็จะมาถึง ดังนั้นหากพวกเขาเข้าไปในพิพิธภัณฑ์ และพบว่าต้องใช้เวลานานกว่าหก เจ็ด หรือแปดนาที พวกเขาก็อาจจะเปลี่ยนใจไม่ลงมือก่อเหตุก็ได้