ประธานาธิบดีแคเมอรูนวัย 92 ปี ชนะเลือกตั้งสมัยที่ 8 ต่อเนื่อง หลังครองอำนาจยาวนาน 43 ปี ท่ามกลางข้อกล่าวหาทุจริตและเหตุรุนแรงทั่วประเทศ

28 ตุลาคม 2568 สภารัฐธรรมนูญของประเทศแคเมอรูนประกาศรับรองผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีอย่างเป็นทางการ โดยระบุว่า นายปอล บิยา (Paul Biya) ผู้นำวัย 92 ปี ชนะการเลือกตั้งและจะดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีต่อไปเป็น สมัยที่ 8 ติดต่อกัน หลังอยู่ในอำนาจมาตั้งแต่ปี 2525 รวมระยะเวลาครองตำแหน่งกว่า 43 ปี ทำให้เขากลายเป็นหนึ่งในผู้นำที่อยู่ในอำนาจยาวนานที่สุดในโลก

ผลการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการระบุว่า นายบิยา ซึ่งสังกัดพรรคการเคลื่อนไหวประชาธิปไตยประชาชนแคเมอรูน (CPDM) ได้รับคะแนนเสียง 53.7% ขณะที่ นายอิสซา ชิโรมา บาการี (Issa Chiroma Bakary) ผู้นำฝ่ายค้านและอดีตพันธมิตรทางการเมืองของเขา ได้รับคะแนน 35.2% โดยผลคะแนนดังกล่าวถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางว่ามีการทุจริตและการควบคุมกระบวนการเลือกตั้งโดยรัฐบาล

ภายหลังประกาศผล นายบิยาได้กล่าวขอบคุณประชาชนที่มอบความไว้วางใจให้เขาอีกครั้ง พร้อมยืนยันว่าจะทำงานเพื่อสร้าง “แคเมอรูนที่สงบสุข เป็นหนึ่งเดียว และเจริญรุ่งเรือง” ขณะที่นายบาการีได้ปฏิเสธผลการเลือกตั้งทันที โดยประกาศว่าเขาเป็นผู้ชนะที่แท้จริง และกล่าวหาว่ารัฐบาลใช้กลไกรัฐและกองกำลังความมั่นคงในการข่มขู่และกีดกันผู้สนับสนุนฝ่ายค้าน

การเลือกตั้งเมื่อวันที่ 12 ตุลาคมที่ผ่านมาเกิดขึ้นท่ามกลางบรรยากาศแห่งความหวาดกลัวและความรุนแรง โดยมีรายงานว่ามีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจากการปะทะระหว่างผู้ประท้วงกับเจ้าหน้าที่ความมั่นคงหลายพื้นที่ โดยเฉพาะที่เมือง ดูอาลา ซึ่งเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจของประเทศ มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 4 รายเมื่อวันที่ 26 ตุลาคม หลังผู้ชุมนุมฝ่าฝืนคำสั่งห้ามประท้วงเพื่อต่อต้านผลการเลือกตั้ง

ขณะเดียวกัน ที่เมือง การัว ซึ่งเป็นฐานที่มั่นของฝ่ายค้าน ก็เกิดเหตุยิงกันบริเวณใกล้บ้านของนายบาการี โดยเขาโพสต์ข้อความบน Facebook กล่าวหาว่ามี “พลซุ่มยิง” ประจำอยู่ฝั่งตรงข้ามบ้านของตนและกำลังยิงใส่ผู้สนับสนุนที่มาชุมนุมให้กำลังใจ

สถานการณ์ในเมืองหลวง ยาอุนเด ยังคงตึงเครียด ร้านค้า โรงเรียน และสำนักงานราชการส่วนใหญ่ปิดทำการ ขณะที่ประชาชนจำนวนมากเลือกที่จะอยู่ในบ้านเพื่อความปลอดภัย ส่วนสภารัฐธรรมนูญได้ปฏิเสธคำร้องเรียนเกี่ยวกับการทุจริตการเลือกตั้งไปแล้วอย่างน้อย 10 ฉบับ โดยให้เหตุผลว่าไม่มีหลักฐานเพียงพอ

นักวิเคราะห์ระบุว่า ชัยชนะของนายบิยาครั้งนี้อาจยิ่งตอกย้ำการแบ่งแยกทางการเมืองในประเทศ และเพิ่มความไม่พอใจของประชาชนที่เรียกร้องการเปลี่ยนแปลง หลังจากแคเมอรูนต้องเผชิญกับปัญหาเศรษฐกิจถดถอย ความไม่สงบในพื้นที่ชายแดน รวมถึงการจำกัดเสรีภาพทางการเมืองและสื่อมวลชน

การเลือกตั้งครั้งนี้จึงสะท้อนถึงความท้าทายอย่างต่อเนื่องของแคเมอรูน ในการก้าวข้ามวิกฤตทางการเมืองที่ยืดเยื้อ และหาทางสร้างประชาธิปไตยที่โปร่งใสและเป็นธรรมให้เกิดขึ้นได้จริงภายใต้การนำของผู้นำสูงวัยที่อยู่ในอำนาจมานานเกือบครึ่งศตวรรษ