8 พฤศจิกายน 2568 สำนักงานอุตุนิยมวิทยาของฟิลิปปินส์ออกคำเตือนคลื่นพายุซัดฝั่ง หรือ สตอร์มเซิร์จ (Storm Surge) สูงถึง 5 เมตร ที่เป็นอันตรายถึงชีวิตและลมที่รุนแรงระดับสร้างความเสียหายหนัก ขณะที่ไต้ฝุ่น "ฟงวอง" (Fung-wong) กำลังเคลื่อนตัวเข้าสู่ชายฝั่งตะวันออกของประเทศ โดยคาดการณ์ว่าจะทวีกำลังเป็นซูเปอร์ไต้ฝุ่น ก่อนขึ้นฝั่งในคืนวันอาทิตย์นี้

เจ้าหน้าที่พยากรณ์อากาศของของสำนักงานอุตุนิยมวิทยากล่าวว่า การหมุนเวียนขนาดใหญ่ของไต้ฝุ่น ซึ่งครอบคลุมระยะทางถึง 1,500 กิโลเมตร ได้เริ่มส่งผลกระทบบางส่วนของพื้นที่ตะวันออกของฟิลิปปินส์แล้วโดยทำให้เกิดฝนตกหนักและลมแรง และมีโอกาสที่จะทำให้เกิดฝนตกครอบคลุมเกือบทั้งประเทศได้

โดย ไต้ฝุ่นฟงวอง ซึ่งมีชื่อท้องถิ่นว่า "อูวัน" (Uwan) กำลังมีความเร็วลมสูงสุด 140 กม./ชม. และมีลมกระโชกแรงถึง 170 กม./ชม. และอาจทวีกำลังเป็น 185 กม./ชม. เมื่อเข้าใกล้แผ่นดิน ซึ่งรุนแรงพอที่จะทำลายบ้านเรือน ต้นไม้หักโค่น และโครงสร้างต่างๆ ได้รับความเสียหายได้

สำนักงานอุตุนิยมวิทยาคาดการณ์ว่าจะมีปริมาณน้ำฝนสูงถึง 200 มิลลิเมตร ในจังหวัดทางภาคตะวันออกของฟิลิปปินส์ โดยเฉพาะในภูมิภาคบิโคล (Bicol) และบางส่วนของซามาร์ ซึ่งเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดน้ำท่วมและดินถล่มในวงกว้าง ขณะที่ทางตอนเหนือและตอนกลางของลูซอนอาจมีปริมาณน้ำฝน 100-200 มิลลิเมตรระหว่างที่พายุพัดผ่าน

สำนักงานอุตุนิยมวิทยาขอให้ประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ต่ำและพื้นที่ชายฝั่ง อพยพไปยังที่สูง และหยุดกิจกรรมทางทะเลทั้งหมด พร้อมเตือนถึงคลื่นพายุซัดฝั่งที่สามารถท่วมชุมชนชายฝั่งและลมพัดที่รุนแรง

รัฐบาลท้องถิ่นหลายแห่งได้ประกาศ ระงับการเรียนการสอนในวันจันทร์ และสายการบินประจำชาติของฟิลิปปินส์ได้ยกเลิกเที่ยวบินบางส่วนล่วงหน้า ก่อนที่ไต้ฝุ่นฟงวองจะขึ้นฝั่งตามที่คาดการณ์ไว้

คำเตือนดังกล่าวเกิดขึ้นเพียงไม่กี่วันหลังจาก ไต้ฝุ่นคัลแมกี (Kalmaegi) ได้สร้างความเสียหายในภูมิภาค ทำให้มีผู้เสียชีวิต 204 รายในฟิลิปปินส์ และ 5 ราย ในเวียดนาม ทำให้ประชาชนหลายแสนคนต้องย้ายจากบ้านเรือนและไฟฟ้าดับเป็นบริเวณกว้าง

หน่วยงานจัดการภัยพิบัติของเวียดนามรายงานความเสียหายต่อบ้านเรือนเกือบ 2,800 หลัง และระบุว่ายังมีประชาชนประมาณ 500,000 คนที่ยังไม่มีไฟฟ้าใช้ ในขณะที่ฟิลิปปินส์ประสบปัญหาน้ำท่วมรุนแรงทำลายบ้านเรือนและกีดขวางถนนด้วยเศษซากปรักหักพัง