24 พฤศจิกายน 2568 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า นายกรัฐมนตรีซานาเอะ ทาคาอิจิของญี่ปุ่น เปิดเผยหลังจากเสร็จสิ้นการเข้าร่วมการประชุมสุดยอดกลุ่มประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่ หรือ G20 เป็นเวลา 2 วัน ที่นครโจฮันเนสเบิร์ก ของแอฟริกาใต้ ว่า เธอไม่ได้จัดการหารือกับนายกรัฐมนตรีจีนในระหว่างการประชุมนี้ และนับตั้งแต่ที่เธอดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เจตนารมณ์ของญี่ปุ่นที่จะสร้างความสัมพันธ์ที่เป็นประโยชน์ร่วมกัน สร้างสรรค์ และมีเสถียรภาพยังคงไม่เปลี่ยนแปลง

นายกรัฐมนตรีทาคาอิจิ กล่าวอีกว่า ญี่ปุ่นเปิดกว้างต่อการเจรจาในหลากหลายระดับ ขณะนี้มีความกังวลและประเด็นระหว่างญี่ปุ่นกับจีน จึงควรหาทางลดสิ่งเหล่านี้ สร้างความเข้าใจซึ่งกันและกัน และเพิ่มความร่วมมือกัน

ทางด้านกระทรวงต่างประเทศจีนได้ออกแถลงการณ์เมื่อวันอาทิตย์อ้างคำกล่าวของนายหวัง อี้ รัฐมนตรีต่างประเทศจีนว่า ผู้นำคนปัจจุบันของญี่ปุ่นได้ส่งสัญญาณที่ผิดพลาดอย่างเปิดเผย จากการที่พยายามแทรกแซงทางการทหารในประเด็นไต้หวัน ถือเป็นการล้ำเส้นที่ไม่ควรแตะต้อง

จีนได้ออกมาตรการชุดใหญ่ มีตั้งแต่การออกคำเตือนให้หลีกเลี่ยงการเดินทางไปญี่ปุ่น ไปจนถึงการฟื้นมาตรการห้ามการนำเข้าอาหารทะเลจากญี่ปุ่น หลังจากนางทาคาอิจิแถลงต่อรัฐสภาญี่ปุ่นเมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน 2568 ว่า หากจีนโจมตีไต้หวันอาจทำให้ญี่ปุ่นใช้การตอบโต้ทางทหาร ทำให้ถูกตีความว่า กองกำลังป้องกันตนเองของญี่ปุ่นจะสนับสนุนสหรัฐฯ ที่เป็นพันธมิตรด้านความมั่นคง หากจีนเตรียมใช้การปิดล้อมทางทะเลกับไต้หวันหรือใช้การคุกคามในรูปแบบอื่นๆ ทั้งนี้ผู้นำญี่ปุ่นที่ผ่านมาเคยแสดงความกังวลเรื่องจีนคุกคามไต้หวัน แต่ไม่เคยพูดในที่สาธารณะว่าญี่ปุ่นจะตอบโต้อย่างไร