29 ธันวาคม 2568 เฟซบุ๊กเพจ Chinese Embassy Bangkok สถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย  ได้ออกมาโพสต์ข้อความ แถลงการณ์ผลการประชุมไตรภาคีระหว่างจีน ไทยและกัมพูชา ณ ฝู่เซียน ระหว่างวันที่ 28-29 ธันวาคม 2568 

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของจีน ไทยและกัมพูชา พร้อมด้วยหัวหน้าหน่วยงานทางทหารของทั้งสามประเทศ ได้พบปะกันที่ริมทะเลสาบฝู่เซียน ในเมืองยู่ซี มณฑลยูนนาน ประเทศจีน จีนยินดีกับการลงนามในแถลงการณ์ร่วมหยุดยิงระหว่างไทยและกัมพูชาในการประชุมพิเศษครั้งที่ 3 ของคณะกรรมการทั่วไปว่าด้วยกิจการชายแดน เมื่อวันที่ 27 ธันวาคม 

ทั้งสามฝ่ายเน้นย้ำว่า การลงนามครั้งนี้สอดคล้องกับผลประโยชน์พื้นฐานและผลประโยชน์ระยะยาวของประชาชนไทยและกัมพูชา ส่งสัญญาณเชิงบวกซึ่งเป็นประโยชน์ต่อสันติภาพและความมั่นคงในภูมิภาค และแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าการเจรจาและการปรึกหารือเป็นแนวทางที่ปฏิบัติได้จริงและมีประสิทธิภาพในการแก้ไขข้อพิพาทที่ซับซ้อน ทั้งสามฝ่ายได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นอย่างลึกซึ้งเกี่ยวกับการเสริมสร้างและคงไว้ซึ่งสถานการณ์หยุดยิง ฟื้นฟูการไปมาหาสู่กันตามปกติอย่างค่อยเป็นค่อยไป การสร้างความไว้วางใจทางการเมืองซึ่งกันและกันขึ้นใหม่ การปรับปรุงความสัมพันธ์ทวิภาคี และการรักษาสันติภาพและความมั่นคงในภูมิภาค ผลลัพธ์สำคัญมีดังนี้ 

1. ภารกิจเร่งด่วนที่สุดคือการเสริมสร้างความมั่นคงของการหยุดยิง จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องทำให้มั่นใจว่ามีการปฏิบัติตามแถลงการณ์ร่วมว่าด้วยการหยุดยิงระหว่างไทยและกัมพูชาอย่างครอบคลุมและมีประสิทธิภาพ จีนสนับสนุนความพยายามร่วมกันของไทยและกัมพูชาในการหยุดยิงที่ครอบคลุมและยั่งยืน ซึ่งเป็นการวางรากฐานสำหรับการฟื้นฟูสันติภาพ เพื่อจุดประสงค์ดังกล่าว ทั้งสามฝ่ายสนับสนุนคณะกรรมการชายแดนร่วมไทย-กัมพูชาในการดำเนินงานตามแถลงการณ์ร่วมของการประชุมพิเศษครั้งที่ 3 ของคณะกรรมการชายแดนทั่วไปของทั้งสองประเทศเมื่อวันที่ 27 ธันวาคม 2568 จีนยินดีที่จะให้การสนับสนุนที่จำเป็นทุกประการ เพื่อช่วยไทยและกัมพูชาในการดำเนินการเก็บกู้ทุ่นระเบิดเพื่อมนุษยธรรมผ่านทางคณะทำงานประสานงานร่วมและข้อตกลงทวิภาคีอื่นๆ และยินดีที่จะให้ความช่วยเหลืออย่างเป็นรูปธรรมเพื่อให้มั่นใจว่าคณะผู้สังเกตการณ์อาเซียนปฏิบัติภารกิจอย่างมีประสิทธิภาพ กองทัพจีนจะรักษาการติดต่อประสานงานกับกองทัพไทยและกัมพูชา และให้การสนับสนุนทั้งสองฝ่ายในการเสริมสร้างความมั่นคงของการหยุดยิงตามความจำเป็น

2.ขั้นตอนสำคัญต่อไปคือการฟื้นฟูการไปมาหาสู่กันตามปกติ จีนยินดีที่ไทยและกัมพูชามุ่งมั่นที่จะฟื้นฟูการสื่อสารและการแลกเปลี่ยนในหลายระดับและในหลากหลายมิติและสอดคล้องกับแถลงการณ์ร่วมของการประชุมพิเศษครั้งที่ 3 ของคณะกรรมการทั่วไปว่าด้วยกิจการชายแดนของทั้งสองประเทศเมื่อวันที่ 27 ธันวาคม 2568 ในการฟื้นฟูการแลกเปลี่ยนและความร่วมมือในพื้นที่ชายแดนและความเป็นอยู่ประจำวันของผู้พลัดถิ่น จีนยินดีที่จะให้การสนับสนุนด้านมนุษยธรรม เช่น การตั้งถิ่นฐานใหม่ของผู้พลัดถิ่นในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชาโดยทันที

3.ไทยและกัมพูชาจะมุ่งมั่นที่จะฟื้นฟูความไว้วางใจทางการเมืองซึ่งกันและกัน จีนยินดีกับความพยายามของไทยและกัมพูชาในการฟื้นฟูช่องทางการสื่อสารทางการทูตและส่งเสริมความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นระหว่างรัฐมนตรีต่างประเทศของทั้งสองประเทศ ไทยและกัมพูชาเห็นพ้องที่จะร่วมกันสร้างบรรยากาศที่เอื้ออำนวยต่อการประชุมผู้นำความร่วมมือแม่น้ำล้านช้าง-แม่โขงครั้งที่ 5 ที่เสนอให้จัดขึ้นในประเทศไทย ส่งเสริมการจัดประชุมให้เป็นไปตามกำหนดเวลา และรับประกันความสำเร็จของการประชุมดังกล่าว

4. เป้าหมายระยะยาวคือการส่งเสริมการปรับปรุงความสัมพันธ์ทวิภาคี จีนสนับสนุนให้ไทยและกัมพูชาสร้างปัจจัยที่ดีเพื่อฟื้นฟูความสัมพันธ์ทางการทูตตามปกติระหว่างสองประเทศอย่างค่อยเป็นค่อยไป จีนยินดีที่จะจัดหาเวทีสำหรับการสื่อสารที่ครอบคลุมและมีประสิทธิภาพมากขึ้นระหว่างไทยและกัมพูชาเมื่อจำเป็น

5.ความรับผิดชอบร่วมกันคือการรักษาสันติภาพและความมั่นคงในภูมิภาค ไทยและกัมพูชามุ่งมั่นที่จะแก้ไขความขัดแย้งอย่างสันติ และยินดีที่จะทำงานร่วมกับประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคเพื่อรับมือกับความเสี่ยงและความท้าทาย โดยยึดหลักกฎบัตรสหประชาชาติ กฎบัตรอาเซียน และสนธิสัญญาไมตรีและความร่วมมือในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทั้งสามฝ่ายเห็นพ้องที่จะใช้มาตรการที่เข้มแข็งขึ้นในการต่อต้านอาชญากรรมข้ามชาติ เช่น การฉ้อโกงทางโทรคมนาคมและการฉ้อโกงทางออนไลน์ และเพื่อปกป้องชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนในภูมิภาค

ไทยและกัมพูชาแสดงความขอบคุณต่อจีนสำหรับการสนับสนุนอย่างแข็งขันในการส่งเสริมการเจรจาระหว่างสองประเทศ โดยคำนึงถึงความสบายใจของทั้งสองฝ่ายอย่างเต็มที่ ตามเจตนารมณ์ของฉันทามติไตรภาคีว่าด้วยการปรองดองอย่างสันติ จีนจะยังคงมีบทบาทที่สร้างสรรค์ในการฟื้นฟูความไว้วางใจซึ่งกันและกันและบรรลุสันติภาพที่ยั่งยืนระหว่างไทยและกัมพูชาผ่านแนวทางแบบเอเชีย เพื่อร่วมกันสร้างประชาคมที่มีอนาคตร่วมกันในภูมิภาค