งานอนุรักษ์ภาพเขียนเก่าของอาจารย์เฟื้อ
ก่อนอื่นขอขอบคุณหอศิลปแห่งชาติ กรมศิลปากรที่นำผลงานของอาจารย์เฟื้อ หริพิทักษ์มาจัดแสดงให้ชมกัน ด้วยเหตุที่อาจารย์เฟื้อ หริพิทักษ์ได้รับการยกย่องเป็นครูใหญ่ในวงการศิลปะ และได้รับรางวัลแมกไซไซ สาขาบริการสาธารณะ เมื่อ พ.ศ.๒๕๒๖ นั้น อาทิตย์นี้จึงขอตามรอย ภูมิศิลปินอนุรักษ์ที่ภาพเขียนไทยที่มีผลงานอันเป็นคุณแก่ชาติ ด้วยอาจารย์เฟื้อ หริพิทักษ์ เกิดในเดือนนี้คือวันที่๒๒ เมษายน พ.ศ. ๒๔๕๓ ที่จังหวัดธนบุรี หลังจากได้เรียนชั้นประถมศึกษาที่วัดสุทัศน์ และชั้นมัธยมที่โรงเรียนวัดราชบพิธ และโรงเรียนวัดเบญจมบพิตรตามลำดับแล้ว จึงเข้าทำงานที่วิทยาลัยช่างศิลป์ กรมศิลปากร และพ.ศ. ๒๔๘๓ ได้เดินทางไปศึกษาที่มหาวิทยาลัยวิศวะ–ภารติ ประเทศอินเดีย กลับมาจึงเข้ารับราชการเป็นอาจารย์สอนศิลปะรุ่นแรกของมหาวิทยาลัยศิลปากร และได้รับทุนไปศึกษาต่อที่ประเทศอิตาลี เมื่อ พ.ศ. ๒๔๙๗ ตลอดเวลานั้นอาจารย์เฟื้อได้สร้างสรรค์ผลงานจิตรกรรมจนได้รับการยกย่องเป็นศิลปินชั้นเยี่ยมสาขาจิตรกรรม ด้วยความสนใจในศิลปะไทยของอาจารย์เฟื้อ นั้นเมื่อประมาณ พ.ศ. ๒๔๗๗ อาจารย์ได้เดินทางไปเขียนภาพที่ จังหวัดเชียงใหม่ และ ลำพูน นอกจากงานสร้างสรรค์ศิลปกรรมแล้ว ยังได้รับมอบหมายจาก ศาสตราจารย์ ศิลป พีระศรี ให้ทำการสเก็ตภาพศิลปวัตถุ เพื่อนำมาใช้สอนนักศึกษาด้วย กล่าวได้ว่าเป็นครั้งแรกที่อาจารย์ได้ทำการศึกษาศิลปะของไทยอย่างเป็นระบบ ต่อมาเมื่อได้ไปศึกษาต่อ ณ ประเทศอินเดีย ที่นั่น ได้มีการปฏิรูปศิลปะโดยที่โน้มน้าวจิตใจชาวอินเดีย มิให้ละทิ้งลักษณะประจำชาติ และใช้วิธีการส่งคนที่มีความรู้ความสามารถไปคัดลอกภาพเขียนที่มีคุณค่าตามแหล่งต่างๆ ของประเทศมาติดตั้งไว้ให้ศึกษากันอย่างใกล้ชิด ทำให้ท่านคิดได้ว่า นักศึกษาศิลปะของประเทศไทยศึกษาศิลปะของชาติต่างๆมากมาย แต่ไม่เคยรู้จักของดีในประเทศตนเลย ควรที่จะได้ทำการศึกษาค้นคว้าศิลปะไทยอย่างจริงจัง เพื่อที่จะหาแนวทางสำหรับสร้างสรรค์งานจิตรกรรมขึ้นมาใหม่
ภาพอนุรักษ์งานเขียนสมัยเก่า
ด้วยเหตุที่ อาจารย์เฟื้อ หริพิทักษ์ เป็นผู้สนใจศึกษาศิลปะอย่างมุ่งมั่นและลึกซึ้ง จึงได้ค้นหาแนวทางสร้างสรรค์การแสดงออกทางด้านจิตรกรรมให้มีลักษณะเฉพาะตน จนสามารถถ่ายทอดสภาพแวดล้อม บรรยากาศ แสงเงา ประกอบกับความคิดคำนึงเรื่องสีสัน ที่เป็นลักษณะตามสายสกุลศิลปะยุโรป (อิตาลี)โดยการใช้ฝีแปรงที่ฉับพลัน ดังผลงานจิตรกรรมเช่น จิตรกรรมทิวทัศน์เมืองเวนิชที่อิตาลี ทิวทัศน์เมืองเชียงใหม่ ภาพเหมือนคุณยายของฉัน และภาพศาสตราจารย์ศิลป์ พีระศรี เป็นต้น แม้ว่าอาจารย์เฟื้อ หริพิทักษ์ จะเสียชีวิตไปแล้วเมื่อ วันที่ ๑๙ ตุลาคม พ.ศ.๒๕๓๖ ทุกคนก็ยังระลึกถึงอาจารย์และผลงานอันวิเศษ นับถืออาจารย์ว่าเป็นศิลปินที่ประเสริฐสุดแห่งยุคนฤมิตรกรรมเรียกว่ามีความเป็นเลิศเทียบได้จิตรกรเอกในนานาชาติ แต่ด้วยเหตุอาจารย์ยอมสละเอตทัคคะนั้นหันมาทำงานอนุรักษ์จิตรกรรมไทยในอดีตโดยทุ่มเทชีวิตและจิตใจให้อย่างเต็มที่ ซึ่งเป็นการสืบสานกระแสธารทางวัฒนธรรมของสยามที่สำคัญยิ่ง ดังปรากฏจากงานอนุรักษ์ภาพเขียนในหอไตรวัดระฆังโฆษิตาราม ซึ่งเป็นนิเวศสถานเดิมของพระยาราชวรินทร์ บุคคลเจ้าของตำหนักนี้ต่อมาได้เป็นพระปฐมราชวงศ์จักรีคือ รัชกาลที่๑ นั่นเอง หากไม่มีเฟื้อ หริพิทักษ์แล้ว การอนุรักษ์อย่างสง่างามจะไม่ปรากฏได้เลยหอไตรแห่งนี้จึงเป็นจุดที่ทำให้ศิลปกรรมในที่อื่นๆได้รับการอนุรักษ์ไว้ไม่ถูกทอดทิ้งให้เสื่อมโทรมไปดังนั้นงานอนุรักษ์ภาพเขียนไทยให้สมสมัยสืบไปนั้นจึงเป็นเกียรติยศของบ้านเมือง ที่ยังมีความงาม ควบคู่ไปกับความดี และความจริง ของสังคม
ภาพอนุรักษ์ตำหนักพุทไธสวรรย์
ผลงานการอนุรักษ์ของอาจารย์เฟื้อ หริพิทักษ์ นั้นได้ทำการสำรวจโดยคัดลอกจิตรกรรมฝาผนังตามวัดสำคัญที่เป็นโบราณสถานเก็บไว้เป็นหลักฐานแห่งมรดกทางประวัติศาสตร์ศิลปะของชาติ ซึ่งมีผลงานซ่อมแซมภาพจิตรกรรมสำคัญในวัดทั่วประเทศไทยทั้งสิ้น ๒๓,๐๐๐ วัด ผลงานที่สำคัญก็คือการบูรณะปฏิสังขรณ์หอไตรปิฎก วัดระฆังโฆสิตาราม
ภาพอนุรักษ์-วัดใหญ่สุวรรณาราม เพชรบุรี
อาจารย์เฟื้อ หริพิทักษ์ ได้กล่าวอย่างจับใจว่า “ข้าพเจ้าทำศิลปะด้วยใจรัก เลื่อมใสและจริงใจ มิได้ทำไปเพราะอามิส ข้าพเจ้าทำศิลปะเพื่อศึกษาค้นคว้าหาความจริงในความงามอันเร้นลับอยู่ภายใต้สภาวะธรรมฯ ผลงานอันเกิดจากกำลังกาย กำลังความคิด และกำลังใจของข้าพเจ้า ขอน้อมอุทิศให้ท่านอาจารย์ทั้งหลายของข้าพเจ้า” วรรคทองของศิลปินผู้เป็นครูใหญ่ผู้นี้ เป็นลักษณะการของคนทำงานศิลปเพื่อแผ่นดินโดยแท้ สมกับการเป็นภูมิศิลปินของแผ่นดินศิลปินรางวัลแมกไซไซ สมดังที่ศจ.ศิลป์ พีระศรี ได้ชื่นชมศิษย์ผู้นี้และรับรองว่าเป็นศิลปินที่มีฝีมือชั้นเยี่ยมของประเทศ
อาจารย์เฟื้อ หริพิทักษ์
อาจารย์เฟื้อ หริพิทักษ์ ศิลปินรางวัลแมกไซไซ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี