ปราสาทแห่งพิธีศักดิ์สิทธิ์
แม้ปราสาทสด๊กก๊อกธมจะอยู่ชายแดนแถบตาพระยา จังหวัดสระแก้ว แต่ด้วยเป็นปราสาทที่พบจารึก ๒ หลัก ซึ่งกล่าวถึงสถานที่และตระกูลของพราหมณ์ผู้ประกอบพิธีอันศักดิ์สิทธิ์ อันเป็นหลักฐานสำคัญของประวัติศาสตร์ขอมโบราณ ได้ทำให้กรมศิลปากรทำการบูรณะฟื้นฟูจากกองหินจำนวนมากที่ถูกทำลายจากการสู้รบตามชายแดนโดยวิธีการประกอบคืนสภาพที่เรียกว่า อนัสติโลซิส(Anastylosis) ซึ่งมีการนำมาใช้ครั้งแรกเพื่ออนุรักษ์กลุ่มโบราณสถานอะโครโปลิสแห่งเมืองเอเธนส์ เมื่อปี พ.ศ.๒๔๕๖ นั้น มาประกอบขึ้นเป็นปราสาทโดยใช้เวลานานปี
สำหรับความในจารึกหลักที่ ๑ ซึ่งเชื่อว่ากษัตริย์ขอมน่าจะเป็นพระเจ้าชัยวรมันที่ ๔ นั้นได้ทรงมีพระบรมราชโองการให้วีเรนทรวรมัน เป็นผู้สั่งให้เจ้าหน้าที่นำศิลาจารึกหลักนี้มาประดิษฐานไว้ที่แห่งนี้ปรากฏมหาศักราช ๘๕๙ ตรงกับพ.ศ.๑๔๘๐ มีความบอกไว้ว่า “เสตญอาจารย์โขลญสันดับ และเสตญอาจารย์โขลญพนม” ผู้ดูแลพระเทวรูปได้แจ้งให้ พระบุณย์มรเตญมัทยมศิวะ วาบบรม พรหม และแม่บส ให้ร่วมกันดูแลพระเทวรูป โดยการถวายข้าวสารและน้ำมัน ตลอดหนึ่งปี และแจ้งพระบรมราชโองการถึง กำเสตญอัญศรีวีเรนทรวรมัน ให้เจ้าหน้าที่มาตั้งหลักศิลาจารึกไว้ในเมืองนี้ โดยห้ามไม่ให้เจ้าหน้าที่ที่ดูแลน้ำมัน ริบเอาน้ำมันเป็นของตนเอง ห้ามไม่ให้เจ้าหน้าที่ที่ดูแลเรื่องข้าวริบเอาข้าวเป็นของตนเอง และห้ามไม่ให้เจ้าหน้าที่ที่ดูแลเทวสถานเรียกใช้ทาสพระให้ไปทำงานอื่น ให้ใช้ทาสพระเหล่านั้นในการดูแลพระเทวรูปและพระศิวลึงค์เท่านั้น ส่วนข้อความความต่อไปนั้นเป็นรายชื่อของทาสและพระ
สำหรับจารึกหลักที่ ๒ นั้น มีข้อความอยู่ ๔ ด้านระบุมหาศักราช ๙๗๑ ซึ่งตรงกับพ.ศ.๑๕๙๕ ไว้โดยมีความโดยสังเขปแต่ละด้านดังนี้ ด้านที่ ๑ เป็นคำกล่าวนมัสการพระศิวะ พระพรหม พระนารายณ์ ตามด้วยการกล่าวสรรเสริญ พระเจ้าอุทัยทิตยวรมันที่ ๒ ว่ารูปงามเหมือนกามเทพ มีปัญญาดุจพระพรหม และทรงปกครองแผ่นดินด้วยความยุติธรรม จากนั้นก็กล่าวถึงพราหมณ์ศิวไกวัลย์ ว่าเป็นผู้ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นมุนี ผู้ประกอบพิธีกรรมตามประเพณี หลังจากที่ได้เรียนรู้เรื่องเวทมนตร์จากพราหมณ์หิรัณยทามะแล้ว ตอนท้ายกล่าวสรรเสริญ ชเยนทรวรมันผู้เป็นพระอาจารย์ของพระเจ้าอุทัยทิตยวรมันที่ ๒ ผู้มีบรรพบุรุษต้นตระกูลคือ “พราหมณ์ศิวไกวัลย์” ที่ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้ประกอบพิธีกรรมตามประเพณีด้านที่ ๒ นั้น เป็นการลำดับความสัมพันธ์ และผลงานของผู้ที่อยู่ในสายตระกูล ที่มีหน้าที่ประกอบพิธีกรรมในราชสำนักกัมพูชา เริ่มตั้งแต่ พราหมณ์ศิวไกวัลย์เรื่อยมาจนถึง ชเยนทรวรมัน หรือ สทาศิวะ ด้านที่ ๓เป็นข้อความกล่าวสรรเสริญ พระเจ้าอุทัยทิตยวรมันที่ ๒แจงรายการสิ่งของ ที่พระองค์ถวายแด่เทวสถานณ เมืองภัทรนิเกตนะ ไว้เป็นจำนวนมาก
จากนั้นก็กล่าวถึงการบริจาคที่ดินของ พระราชครูชเยนทรวรมัน ตามด้วยการลำดับสายสกุล และผลงานของพราหมณ์ผู้ประกอบพิธีกรรมในราชสำนัก ของแต่ละรัชกาล และความ ด้านที่ ๔นั้นเป็นข้อความการลำดับสายสกุลและผลงานของพราหมณ์ผู้ประกอบพิธีกรรมในราชสำนัก ของแต่ละรัชกาลต่อมาจากจารึกด้านที่ ๓ ส่วนชื่อของปราสาทสด๊กก๊อกธมที่ถูกเรียกจากสภาพพื้นที่มีต้นกกจำนวนมากนั้นจะมีชื่อแท้จริงว่าอะไรไม่ปรากฏชื่อ แต่ด้วยเหตุที่เป็นเทวสถานสำคัญของเมืองภัทรนิเกตนะ และเป็นเทวสถานของพราหมณ์ผู้สืบเชื้อสายมาจาก พราหมณ์ศิวไกวัลย์ ผู้ประกอบพิธีกรรมสำหรับกษัตริย์ขอมโบราณจนถึง ชเยนทรวรมัน หรือสทาศิวะนั้น ทำให้ปราสาทสด๊กก๊อกธมแห่งนี้เป็นเทวสถานหนึ่งเดียวแห่งพิธีศักดิ์สิทธิ์ของพราหมณ์โบราณ ที่กรมศิลปากรได้พัฒนาเป็นอุทยานประวัติศาสตร์ขึ้นอีกแห่งหนึ่ง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี