โรคเบาหวาน ใครได้เป็นแล้วหรือมีคนใกล้ตัวเป็น จะทราบดีถึงความสำคัญในการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้เหมาะสมได้ เพราะเป็นงานที่ต้องทำตลอด 24 ชั่วโมง 365 วันเลยทีเดียว แต่ใช่ว่าเป็นโรคเบาหวานแล้ว จะต้องคุมอาหารทุกอย่าง จนอดกินอาหารทุกเมนูอร่อยจนหมดความสุขในชีวิตไปเลย
การกินอาหารนอกบ้านเป็นส่วนหนึ่งของวิถีชีวิต ปัจจุบันการกินข้าวนอกบ้านไม่ใช่สิ่งต้องห้ามอีกแล้ว สำหรับผู้เป็นเบาหวาน อย่าเครียดจนไม่กล้าออกจากบ้าน เพราะปัจจุบันมีร้านอาหารสุขภาพมากมายให้เราเลือกใช้บริการ นอกจากรสชาติถูกปากแล้ว ยังจัดร้านให้มีบรรยากาศที่ดี บ้างอยู่ริมน้ำ วิวป่าเขา และทุ่งนาต่างๆ ให้เลือกมากมาย ถ้าจะไปกินข้าวนอกบ้านอย่างไรให้เป็นสุข ข้อมูลจาก อ.ศัลยา คงสมบูรณ์เวช นักกำหนดอาหารขึ้นทะเบียนวิชาชีพ (สหรัฐอเมริกา) กรรมการบริหาร มูลนิธิคุณแม่คุณภาพ ให้คำแนะนำว่า ผู้เป็นเบาหวานสามารถวางแผนการกินได้เหมือนวางแผนชีวิตหรือวางแผนการทำงาน การกินอาหารนอกบ้านก็ดีต่อสุขภาพได้ ถ้ารู้จักเลือกกินและควบคุมปริมาณ เริ่มต้นจากการเรียนรู้วิธีเลือกอาหารและร้านอาหารที่ดี เพราะปัจจุบันมีร้านอาหารจำนวนมาก ที่ทำอาหารอร่อยและคำนึงถึงประโยชน์ต่อสุขภาพด้วย และหากเป็นคนที่ต้องกินอาหารนอกบ้านบ่อยๆ ต้องพยายามคุมปริมาณการกินและเมนูอาหารให้มากที่สุด และเลือกร้านที่มีเมนูหลากหลาย
ผู้เป็นเบาหวานสามารถกินอาหารได้ทุกอย่าง แต่จะต้องอยู่ในปริมาณที่เหมาะสม โดยมีทั้งคาร์โบไฮเดรต โปรตีน ไขมัน และผักครบถ้วนในสัดส่วนที่เหมาะสมในมื้อที่จะกิน เน้นการลด หวาน มัน เค็ม ซึ่งปฏิบัติได้ไม่ยาก คนเป็นเบาหวานควรสั่งเมนูดังนี้
l เน้นอาหารประเภทอบ ต้ม ตุ๋น นึ่ง ย่าง หรือยำ
l ลดอาหารประเภททอดน้ำมันท่วม หรืออาหารไขมันสูง อย่างแกงกะทิ แต่ถ้าอยากกินก็สามารถกินได้ ในปริมาณน้อยๆ
l หากสั่งสลัดให้แยกน้ำสลัดแล้วใช้ส้อมจิ้มน้ำสลัด ก่อนที่จะจิ้มสลัดจะเป็นการควบคุมน้ำสลัดไม่ให้มากเกินไป
l เลือกสั่งผลไม้ แทนขนมหวาน
l หากคิดจะสั่งขนมหวาน ต้องกินข้าวมื้อนั้นให้น้อยลง เป็นการแลกเปลี่ยน เพราะในขนมมีทั้งแป้งและน้ำตาลอยู่แล้ว ใช้ความรู้ในการนับคาร์โบไฮเดรตแลกเปลี่ยนขนมหวานกับข้าวแป้งก็จะสามารถกินขนมหวานได้ แต่ในปริมาณเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
l สั่งน้ำเปล่า น้ำชา น้ำสมุนไพร หรือเครื่องดื่มที่ไม่มีน้ำตาล เพื่อประหยัดแคลอรีไว้กินอย่างอื่น
l ลดการกินเค็ม หรือลดปริมาณโซเดียมในอาหาร เรียนรู้การอ่านข้อมูลโภชนาการของอาหารสำเร็จรูป หรืออาหารพร้อมปรุง
l จำกัดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพราะแอลกอฮอล์จะเพิ่มแคลอรีโดยใช่เหตุ และยับยั้งการดูดซึมวิตามินและเกลือแร่ในอาหาร
มักมีคำถามว่า ผู้เป็นเบาหวานกินอาหาร ฟาสต์ฟู้ด จังค์ฟู้ดได้หรือไม่ ต้องบอกว่าผู้เป็นเบาหวานกินง่ายอยู่ง่าย สามารถกินได้ทั้งบุฟเฟ่ต์ และฟาสต์ฟู้ด แต่ไม่ควรกินบ่อย ต้องมีสติในการกิน เพราะต้องเข้าใจว่าอาหารฟาสต์ฟู้ดจะมันจัดและเค็มจัด จะต้องเลือกกินให้ดีโดยยึดหลักโภชนาการที่ดีในปริมาณน้อย เพราะฟาสต์ฟู้ด 1 มื้อ อาจให้พลังงานสูงกว่า 1,000 แคลอรีขึ้นไป ทำให้ระดับน้ำตาลสูงขึ้นอย่างน่าตกใจ ส่วนการกินบุฟเฟ่ต์ มีข้อดีคือ มีอาหารให้เลือกหลากหลายและแปลกใหม่ แต่ต้องจำกัดปริมาณ โดยควรเลือกกินผักสลัดต่างๆให้มากขึ้น และเลือกน้ำสลัดที่ทำจากไขมันดี เช่น น้ำมันมะกอก เพราะการกินสลัดจะลดการกินเกินขนาดได้ดี ส่วนเมนูหลักควรเลือกเป็นอาหารทะเล เช่น เนื้อกุ้ง ปู ปลาแซลมอน หรือปลาชนิดอื่น และเนื้อสัตว์ไม่ติดมัน หากอยากกินขนมหวาน หรือไอศกรีมรสชาติแปลกใหม่ ควรลองกินดูสัก 2-3 คำ แค่พอหายอยาก
นอกจากนี้ การเรียนรู้การตรวจระดับน้ำตาลในเลือดด้วยตนเอง (Self-monitoring of blood glucose, SMBG) ก็เป็นส่วนสำคัญในการช่วยเลือกชนิดและปริมาณคาร์บ (หรือคาร์โบไฮเดรต ซึ่งประกอบไปด้วยหมวดข้าว แป้ง ธัญพืช หมวดผลไม้ ผักที่มีแป้งมาก และหมวดนม) ที่เหมาะสมในมื้ออาหารได้ การตรวจน้ำตาลในเลือดด้วยตนเองเป็นประจำทุกวันในระยะแรกจะช่วยให้เกิดการเรียนรู้การดูแลตัวเองในหลายเรื่อง สำหรับเรื่องอาหาร ควรตรวจหลังรับประทานอาหาร 2 ชั่วโมงนับจากตอนเริ่มกิน จะบอกให้รู้ว่าเรากินคาร์บมากไปหรือน้อยไป สิ่งที่ผู้เป็นเบาหวานจะได้เรียนรู้คือ อาหารอะไรที่กินแล้วน้ำตาลจะขึ้นหรือขึ้นไม่สูงมาก หลักคือถ้าน้ำตาลหลังอาหารไม่เกิน 180 มก./ดล. แสดงว่าอาหารที่กินมื้อนั้นคาร์บไม่มากเกินไปสามารถกินได้ แต่ถ้าน้ำตาลสูงเกิน 180 มก./ดล. ก็ต้องพิจารณาลดคาร์บที่มีแต่แป้ง น้ำตาล เราอาจใช้วิธีนี้ทดสอบดูว่าอาหารคาร์บชนิดใด ที่ทำให้น้ำตาลขึ้นสูง และขึ้นเร็ว ส่วนอาหารอะไรที่กินแล้วค่าน้ำตาลสูงก็ควรหลีกเลี่ยง เพื่อปรับพฤติกรรมการกินอาหาร จะช่วยให้ควบคุมน้ำตาลได้ดีขึ้น และลดโรคแทรกซ้อนจากเบาหวาน เช่น ความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ ไตเสื่อมรวมทั้งมะเร็งด้วย
ผู้เป็นเบาหวานจะกินข้าวนอกบ้านตอนไหนควรวางแผนเรื่องเวลาไปร้านอาหารให้ใกล้เคียงกับเวลาอาหารปกติ เนื่องจากผู้เป็นเบาหวานจะต้องกินยาหรือฉีดอินซูลินตรงเวลา อย่านัดช่วงที่ร้านคนมาก หากจะต้องกินอาหารล่าช้าแนะนำให้กินผลไม้ หรือถั่วหรือนมรองท้องไปก่อนประมาณ 1 คาร์บ เมื่อได้อาหารมาแล้วควรกินอย่างมีสติ กินช้าๆ ไม่ต้องรีบร้อน และเคี้ยวอาหารให้ละเอียด การเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ในปริมาณที่เหมาะสมจะช่วยให้เราควบคุมเบาหวาน ป้องกันโรคแทรกซ้อน มีคุณภาพชีวิตที่ดีและยืนยาวได้ ข้อแนะนำสำหรับอาหารเบาหวานในปัจจุบันก็คืออาหารสุขภาพ ผู้ที่เป็นเบาหวานกินเพื่อที่จะช่วยควบคุมระดับน้ำตาล และป้องกันโรคแทรกซ้อนต่างๆ
จะเห็นว่าผู้เป็นเบาหวานถ้าเลือกกินอาหารให้เป็นและสามารถปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตให้ได้ ก็จะไปกินอาหารนอกบ้านได้อย่างมีความสุขเหมือนคนทั่วไป แล้วยังควบคุมระดับน้ำตาลได้ดีช่วยป้องกันโรคแทรกซ้อน ทำให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีและยืนยาวได้
ผศ.(พิเศษ)ดร.อภิสิทธิ์ ฉัตรทนานนท์
ประธานกรรมการ มูลนิธิคุณแม่คุณภาพ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี