ทั่วโลกกำลังก้าวสู่ “สังคมผู้สูงอายุ” ประเทศไทยก็เช่นกัน ในขณะที่ผู้สูงอายุเพิ่มจำนวนมากขึ้น จำนวนคนในวัยหนุ่ม-สาวก็ลดลง อีกทั้ง สภาพสังคมการอยู่อาศัยเปลี่ยนไปเป็น “ครอบครัวเดี่ยว” ทำให้ผู้สูงอายุจำนวนไม่น้อยขาดคนดูแล โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้สูงวัยที่มีสุขภาพร่างกายไม่แข็งแรง “เนอร์สซิ่งโฮม” หรือศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ จึงเป็นอีกธุรกิจหนึ่งที่กำลังเติบโตในประเทศไทย ทำให้ ศิรสิทธิ์ ตั้งจิตกมล ผู้บริหารหนุ่มวัย 28 ปี กระโดดมาจับธุรกิจนี้โดยนำประสบการณ์ที่ไม่น่าจดจำ มาเปิดให้บริการ “เพชรเกษมเนอร์สซิ่งโฮม” ภายใต้สโลแกน “เพราะความสุขของคุณ สำคัญกับเรา”
ศิรสิทธิ์ เล่าถึงแรงบันดาลใจในการทำธุรกิจเนอร์สซิ่งโฮมให้ฟังว่า ก่อนหน้านั้นไม่กี่ปี น้องสาวของคุณยายป่วยและจำเป็นต้องมีคนดูอย่างใกล้ชิด ในขณะที่ลูกหลานต้องทำงานนอกบ้าน ครอบครัวจึงตัดสินใจใช้บริการเนอร์สซิ่งโฮมแห่งหนึ่ง ด้วยชื่อเสียงและการเปิดให้บริการมานาน จึงคิดว่าเนอร์สซิ่งโฮมแห่งนั้นจะดูแลคุณยายของเขาได้เป็นอย่างดี แต่กลับไม่เป็นเช่นนั้น ขาดทั้งการบริการและการเอาใจใส่ต่อผู้สูงอายุอย่างที่ควรจะเป็น
“สิ่งที่ประสบมากับครอบครัวเราคือ บริการที่ไม่ใส่ใจ กิริยาวาจาไม่สุภาพเรียบร้อยของเจ้าหน้าที่ที่ดูแลผู้สูงอายุ แต่นั่นยังไม่เลวร้ายเท่ากับการไม่ดูแลเอาใจใส่ที่จริงใจ ผู้ใหญ่ในบ้านจึงตัดสินใจจ้างคนมาดูแลในลักษณะของโฮมแคร์ แรกๆ เขาก็ทำงานดี แต่ก็มาดีแตกภายหลัง จับผิดได้เพราะติดกล้องวงจรปิด มันเลยเป็นประสบการณ์ตรงที่แย่สำหรับผมและครอบครัว ช่วงที่คุณยายเสียชีวิต ผมเพิ่งจบปริญญาโทและทำงานอยู่ที่สหรัฐอเมริกา รวมๆ ประมาณ 3 ปี จึงมี Passion ว่า อยากจะทำธุรกิจเนอร์สซิ่งโฮม”
แม้คุณพ่อและคุณแม่จะเป็นแพทย์ทั้งคู่ และตัวเขาเองก็จบด้าน MBA มา แต่การทำธุรกิจเนอร์สซิ่งโฮมสำหรับ ศิรสิทธิ์ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย เขาใช้เวลาศึกษาธุรกิจในช่วงระหว่างที่ยังทำงานอยู่สหรัฐอเมริกาอยู่พักใหญ่ รวมทั้งตระเวนศึกษาดูงานหลายแห่งทั้งในและต่างประเทศ เมื่อมั่นใจแล้วจึงเปิดให้บริการ “เพชรเกษมเนอร์สซิ่งโฮม” เมื่อต้นปี 2561 ที่ผ่านมา
“ทั้งผม คุณพ่อ คุณแม่เอง เราช่วยกันตระเวนไปศึกษาดูงานเนอร์สซิ่งโฮมหลายแห่งทั้งในและต่างประเทศ อย่าง สหรัฐอเมริกา หรือญี่ปุ่น รูปแบบการให้บริการในหลายๆ ด้าน แตกต่างกันมาก เราก็นำข้อดีมาประยุกต์ให้เข้ากับวัฒนธรรมบ้านเรามากที่สุด ผมใส่ใจรายละเอียดทุกอย่างตั้งแต่เรื่องของอาคารสถานที่ ที่ออกแบบก่อสร้างมาเพื่อการพักอาศัยของ
ผู้สูงอายุ ซึ่งเน้นความปลอดภัยมากที่สุด เจ้าหน้าที่ในด้านการดูแลผู้สูงอายุระดับหัวหน้าของเพชรเกษมเนอร์สซิ่งโฮม เป็นพยาบาลวิชาชีพที่มีประสบการณ์อย่างน้อย 30 ปี เจ้าหน้าที่ระดับฅปฏิบัติการจบหลักสูตรผู้ช่วยพยาบาล มีการดูแลโภชนาการ การดูแลสุขภาพเบื้องต้น รวมไปถึงการส่งต่อเพื่อรับบริการทางการแพทย์อย่างเป็นระบบ”
การรับดูแลผู้สูงอายุของเพชรเกษมเนอร์สซิ่งโฮม แบ่งกลุ่มได้ 3 รูปแบบ คือ ติดสังคม ติดบ้าน และติดเตียง ศิรสิทธิ์
อธิบายว่า ติดสังคม คือกลุ่มผู้สูงอายุที่ยังช่วยเหลือดูแลตัวเองได้ตามปกติ แต่ต้องการมีเพื่อน มีผู้ดูแล ส่วนติดบ้าน คือผู้สูงอายุที่ต้องได้รับการช่วยเหลือในกิจวัตรประจำวันบางอย่าง หรือช่วยเหลือดูแลตัวเองได้เพียง 50% ผู้สูงอายุที่เป็นอัมพาตครึ่งซีกหรือเดินไม่สะดวก และติดเตียง คือผู้สูงอายุที่ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ ซึ่งผู้สูงอายุในกลุ่มนี้ต้องได้รับการดูแลเต็มรูปแบบ
ความกังวลของลูกหลานที่จะนำผู้สูงอายุไปฝากไว้กับเนอร์สซิ่งโฮมนั้นมีมากมาย ซึ่งจุดนี้ ศิรสิทธิ์ เข้าใจและรู้ซึ้งดีกว่าใคร
“จากประสบการณ์ที่ไม่ประทับใจเมื่อครั้งนำคุณยายไปฝากเนอร์สซิ่งโฮม เป็นแรงบันดาลใจสำคัญที่ทำให้ผมเปิดเพชรเกษมเนอร์สซิ่งโฮม ดังนั้น เมื่อผมมาทำธุรกิจนี้เอง แน่นอนว่าการบริการต้องมาเป็นอันดับหนึ่ง นอกจากเรามีเจ้าหน้าที่ที่เป็นมืออาชีพในการดูแลผู้สูงอายุแล้ว สิ่งสำคัญคือเจ้าหน้าที่ของเพชรเกษมเนอร์สซิ่งโฮม ต้องมีเซอร์วิสมายด์ มีทัศนคติที่ดีในการปฏิบัติงานดูแลผู้สูงอายุ ซึ่งตรงนี้มันอาจจะดูได้จากขั้นตอนการสัมภาษณ์งานเพียง 60% แต่อีก 40% คือการบริหารจัดการบุคลากรของเรา ที่ผมเองก็ต้องดูแลการทำงานของเจ้าหน้าที่อย่างใกล้ชิด เราต้องสร้างแอดติจูดที่ตรงกันในการให้บริการดูแลผู้สูงอายุเสมือนว่าท่านเป็นญาติผู้ใหญ่ของเราเอง มากกว่าเป็นลูกค้ามาใช้บริการ ให้ท่านรู้สึกว่าที่นี่เป็นบ้านหลังที่สอง เราไม่ได้ดูแลผู้สูงอายุแค่กายภาพภายนอก แต่เราต้องดูแลจิตใจเพื่อให้ท่านมีความสุขตลอดระยะเวลาที่อยู่เพชรเกษมเนอร์สซิ่งโฮมมากที่สุด ซึ่งส่งผลดีต่อลูกหลานของผู้สูงอายุที่มาใช้บริการของเราด้วย เขาจะได้มีกำลังใจที่ดีในการทำงานได้อย่างสบายใจ”
เพชรเกษมเนอร์สซิ่งโฮม เพิ่งเปิดให้บริการได้เพียง 10 เดือน ศิรสิทธิ์ บอกว่า ปัจจุบันมีผู้สูงอายุในความดูแลที่หลักสิบ ก็ถือว่าเป็นที่น่าพอใจ
“ถ้ามองในแง่ธุรกิจ ตัวเลขผู้ใช้บริการอาจยังไม่มากนัก แต่สำหรับผมเราคิดว่า เราทำธุรกิจแบบอยู่ได้ดีกว่า หรือแบบค่อยๆ เติบโต เพราะการอยู่ที่เนอร์สซิ่งโฮมจะสะดวกสบาย ถึงอย่างไรผู้สูงอายุก็คงอยากอยู่ใกล้ชิดลูกหลานมากกว่า หาก
จำเป็นจริงๆ เพชรเกษมเนอร์สซิ่งโฮมจึงขอเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการช่วยดูแลผู้สูงอายุ เป็นบ้านหลังที่สองที่ไว้วางใจได้ว่าเราจะทำหน้าที่แทนได้อย่างไม่บกพร่องครับ”
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี