ลำพูนหรือนครหริภุญไชยถูกจารึกในตำนานจามเทวีวงศ์จากพงศาวดารหริภุญชัยว่า มีปฐมกษัตริยาคือพระนางจามเทวี หรือพระนางจ๋ามะเตวี ซึ่งเป็นพระราชธิดาของพญาจักกวัติ กษัตริย์ละโว้
หลังจากวาสุเทพฤาษี และสุกกทันตฤาษี ได้สร้างเมืองหริภุญไชยขึ้นมาแล้ว จึงได้อัญเชิญพระนางจามเทวี ซึ่งเป็นผู้ดำรงตนอยู่ในศีลในธรรมโดยเคร่งครัดมาปกครองเมือง ในตำนานระบุว่า เมื่อ พ.ศ. 1310 ขบวนเรือเสด็จของพระนางจามเทวีล่องมาทางลำน้ำปิง โดยมีพระสงฆ์ 500 รูป พร้อมด้วยช่างฝีมือชั้นครูในแขนงต่างๆ อีก 14 แขนงแขนงละ 500 คน
พระนางทรงปกครองนครหริภุญไชยให้มีความสุขสงบและรุ่งเรือง โดยใช้หลักธรรมะเป็นแนวการปกครอง และทรงทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาเป็นอย่างดี ทรงให้สร้างวัดวาอาราม และพระพุทธรูปมากมาย วัดสำคัญแห่งหนึ่งที่ทรงให้สร้างคืวัดพระธาตุหริภุญไชย (หริภุญชัย) และทรงให้สร้างพระมหาธาตุเพื่อประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า (โปรดดูภาพพระมหาธาตุคือเจดีย์ทรงล้านนา หุ้มทองจังโกทั้งองค์สูง 92 ศอก รอบองค์พระมหาธาตุมีระเบียงหอก (สัตถบัญชร) ล้อมไว้ มีซุ้มกุมภัณฑ์ และฉัตรประจำที่มุมทั้งสี่ขององค์พระมหาธาตุ) พระมหาธาตุองค์นี้เป็นพระธาตุประจำปีระกา แต่บางตำนานระบุว่าพระมหาธาตุองค์นี้สร้างในรัชกาลพระเจ้าอาทิตยราชพ.ศ. 1651
ตามตำนานระบุด้วยว่าเมื่อพระนางจามเทวีสวรรคต พระราชโอรสคือเจ้ามหันตยศ และเจ้าอนันตยศ ทรงสร้างสุวรรณจังโกฏิเจดีย์ถวายเพื่อประดิษฐานพระอัฐิ ซึ่งปัจจุบันชาวบ้านเรียกพระเจดีย์นี้ว่ากู่กุด และเจดีย์นี้ตั้งอยู่ในเขตวัดพระธาตุหริภุญชัย (โปรดดูภาพ กู่กุดคือเจดีย์ทรงสี่เหลี่ยมสูงสอบขึ้นไป ปลายยอดแหลมสีทอง)
วัดพระธาตุหริภุญไชย ลำพูน
นครหริภุญไชยปกครองตนเองสืบต่อมายาวนานถึง 600 ปี จากนั้นจึงตกเป็นเมืองขึ้นของอาณาจักรล้านนา และของพม่า จนมาถึงสมัยกรุงธนบุรี พญากาวิละแห่งล้านนาได้รับการสนับสนุนจากกรุงธนบุรีให้ขับไล่พม่าออกจากล้านนาได้สำเร็จ จากนั้นพญาคำฟั่น (น้องชายของพญากาวิละ) ได้ไปปกครองเมืองหริภุญไชย จนถึงยุคกรุงรัตนโกสินทร์ เมืองหริภุญไชยมีฐานะเป็นเมืองประเทศราชของกรุงเทพ แต่กรุงเทพอนุญาตให้มีเจ้าครองนครปกครองกันเอง จนในที่สุดปัจจุบัน เมืองลำพูนก็คือจังหวัดหนึ่งของประเทศไทย
ภายในวัดพระธาตุหริภุญไชยมีโบราณสถานที่ควรไปกราบสักการะอีกมากมาย อาทิ วิหารหลวง (ตั้งอยู่หน้าองค์พระมหาธาตุ) หอไตร หอระฆัง สิงห์คู่ขนาดใหญ่หน้าซุ่มประตูโขง และซุ่มประตูโขง และเมื่อไปถึงวัดแห่งนี้แล้วก็ไม่ควรพลาดการชมพิพิธภัณฑสถานหริภุญชัย ซึ่งอยู่ด้านหลังของพระมหาธาตุ
ยังมีความงดงามอีกประการหนึ่งของเมืองลำพูน ซึ่งเป็นเครื่องช่วยสร้างสีสันและเพิ่มมนต์เสน่ห์ตราตรึงใจให้กับผู้ไปเยือนคือ การแต่งกายของชนกลุ่มต่าง ๆ ที่อาศัยอยู่ในเขตจังหวัดลำพูน
เช่น ปกาเกอะญอ หรือบางคนเรียกว่ากะเหรี่ยง ยอง(ไทยยอง) มอญ ลื้อ (ไทยลื้อ)
ภาพการแต่งกายของชนกลุ่มต่างๆ ในเขตเมืองลำพูนที่นำมาฝากคุณผู้อ่านในวันนี้ คงช่วยยืนยันได้เป็นอย่างดีว่าช่างมีสีสัน มีเสน่ห์ และมีมนต์ขลัง ที่เชิญชวนให้คุณๆ ไปสัมผัสความน่ารักน่าหลงใหลของลำพูน
สำหรับคุณๆ ที่ต้องการเที่ยวเมืองลำพูนแบบละมุนละไม ได้สัมผัสความเป็นลำพูนพร้อมกับศึกษาเรื่องราวของชุมชนชาวลำพูนอย่างลึกซึ้ง ขอเชิญไปเที่ยวกับ Mr. Flower สนใจร่วมทริปลำพูนสุดวิเศษ โปรดติดต่อสอบถาม 091-7233615
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี