พระเจ้ากรุงธนบุรี - พระบรมรูปสมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี
วันที่ ๖ พฤศจิกายน ที่จะถึงนี้ เป็นวันที่พระยาตาก (สิน) ได้ตีค่ายโพธิ์สามต้นและมีชัยชนะเมื่อ พ.ศ.๒๓๑๐ ซึ่งเป็นเหตุการณ์พระยาตาก (สิน) กู้ชาติ หลังจากที่พระยาตาก (สิน) เข้าเมืองจันทบุรีได้เมื่อเดือน ๗ ปีกุนพ.ศ. ๒๓๑๐ แล้วนั้น พระยาตากได้เร่งระดมการต่อเรือรบ และรวบรวมอาวุธยุทโธปกรณ์ตรียมกำลังไว้โดยหมายจะยกเข้ามาตีคืนกรุงศรีอยุธยาจากพม่าในฤดูแล้ง ครั้งนั้นพระยาตากคิดเห็นการศึกกู้ชาติไว้อย่างรอบคอบ เห็นว่าเวลานั้นมีผู้ตั้งตัวเป็นใหญ่หลายชุมนุมหรือหลายก๊กอยู่ ถ้าใครจะเป็นใหญ่ให้ได้ทั่วทั้งแผ่นดินแล้ว จะต้องทำลายอำนาจข้าศึกที่มีอยู่ในกรุงศรีอยุธยาเสียก่อนและจะต้องให้ก๊กอื่นๆ ยอมอยู่ในอำนาจด้วยจึงจะได้อำนาจเป็นใหญ่ได้ซึ่งทุกก๊กนั้นคงคิดอ่านเช่นเดียวกัน แต่ความคิดที่จะทำการสู้รบนั้น ก๊กอื่นยังขัดข้องที่จะต้องหาโอกาสและอุบายสู้รบจึงรั้งรออยู่ ในเวลานั้นมีแต่พระยาตากผู้เดียวที่เห็นว่าต้องรีบทำการก่อนก๊กอื่นๆ หากรั้งรอไปจนก๊กอื่นทำได้ก่อนก็จะต้องไปขึ้นกับเขา พระยาตากจึงมุ่งที่จะยกทัพมารบกับข้าศึกชิงเอากรุงศรีอยุธยาให้ได้ก่อนก๊กอื่น
พระยาตากนำทัพออกจากพระนคร
ในการที่ตั้งตัวเป็นใหญ่ เจ้าตากเสียเปรียบก๊กอื่นอย่างไรได้กล่าวมาแล้ว ความได้เปรียบของพระยาตากนั้นเหตุที่พระยาตากเป็นชาวอยุธยาอายุหนุ่มกว่าหัวหน้าก๊กอื่นทั้งหมด คืออายุย่างเข้า ๓๔ ปี (เกิดพ.ศ.๒๒๗๗)จึงมีกำลังกายและสติปัญญาคิดอ่าน ด้วยเจริญวัยอยู่ในกรุงศรีอยุธยา ซึ่งได้คุ้นเคยคบหาเป็นมิตรสหายกับขุนนางรุ่นเดียวกัน จึงทำให้มีขุนนางหนุ่มเข้ามาช่วยเป็นกำลังอยู่มาก ในช่วงเวลาสู้รบรักษากรุงนั้นชื่อเสียงพระยาตากได้ปรากฏว่ามีฝีมือรบพุ่งเข้มแข็ง จนข้าศึกยกย่องว่าเป็นทหารสำคัญคนหนึ่งของกรุงศรีอยุธยา โดยพระยาตากนั้นได้ตั้งตัวเข้ารบพุ่งอยู่หลายครั้ง อีกทั้งยังหมั่นฝึกซ้อมทหารในกองทัพอยู่เสมอจนเป็นที่รู้กันว่า พระยาตากนั้นมีความกล้าหาญ มีวินัยและชำนาญการยุทธมากกว่าคนอื่น จนรู้กันว่าพระยาตากนั้นเป็นนักรบโดยอุปนิสัย เอาตัวออกนำหน้าฝ่าฝืนภยันตรายทั้งปวง ทำให้ไพร่พลพากันจงรักภักดี เชื่อฟัง ทำให้กำลังส่วนน้อยสามารถสู้รบมีชัยชนะได้ในเดือน ๑๑ ปีกุน พ.ศ.๒๓๑๐ สิ้นมรสุมนั้นพระยาตากต่อเรือรบได้ ๑๐๐ ลำ รวบรวมไพร่พลทั้งไทยจีนได้ประมาณ ๕,๐๐๐ คน ยกกองเรือออกจากเมืองจันทบุรีตามปากอ่าวไทยจนเข้าตีเมืองธนบุรีฆ่านายทองอินซึ่งข้าศึกตั้งรักษาเมืองธนบุรีได้แล้วพระยาตากได้เร่งกองเรือยกเข้าตีค่ายโพธิ์สามต้นสุกี้ผู้รักษาค่ายของข้าศึกๆ ได้รู้ใบบอกก็ตกใจ จึงเข้าเตรียมรักษาค่ายโพธิ์สามต้น ด้วยเวลานั้นเป็นเวลาฤดูน้ำจึงเกรงว่ากองทัพของพระยาตากจะขึ้นไปถึงเสียก่อนจึงให้เตรียมต่อสู้ไว้โดยให้มองย่านายทัพรองคุมพลพวกมอญและไทยที่ยอมมาอยู่ด้วยนั้นยกกองเรือลงมาตั้งสกัดคอยต่อสู้อยู่ที่เพนียด
พระยาตาก(สิน)กู้ชาติ
เมื่อพระยาตากขึ้นไปถึงกรุงศรีอยุธยาแล้วค่ำวันนั้นจึงรู้ว่ามีทัพข้าศึกลงมาตั้งอยู่ที่เพนียด โดยยังไม่รู้ว่ากำลังข้าศึกจะมามากน้อยเท่าใด พระยาตากจึงยั้งอยู่ฝ่ายพวกไทยที่มาในกองทัพของมองย่าพอรู้ว่าเป็นทัพไทยด้วยกัน จึงรวนเรพากันหลบหนีไปก็มีและเข้ามาช่วยพระยาตากก็มี มองย่าได้หนีเอาตัวรอดกลับไปค่ายโพธิ์สามต้นในค่ำวันนั้น พอรุ่งเช้าพระยาตากรู้จากพวกไทยที่หนีพม่ามาเข้าด้วยว่าข้าศึกถอยหนีจากเพนียดหมดแล้วจึงเร่งยกทัพตามขึ้นไป ค่ายข้าศึกที่โพธิ์สามต้นนั้นตั้งอยู่ด้านตะวันออกค่ายหนึ่ง ตั้งด้านตะวันตกค่ายหนึ่ง สุกี้แม่ทัพนั้นอยู่ค่ายด้านตะวันตก ซึ่งค่ายนี้ข้าศึกรื้อเอาอิฐตามวัดมาก่อกำแพงทำเชิงเทินมั่นคงมาแต่ครั้งเนเมียวสีหบดีแม่ทัพใหญ่มาตั้งค่ายล้อมพระนครจึงเป็นที่มั่นของสุกี้
พระยาตากนำทัพตีค่ายโพธิ์สามต้น ๖ พฤศจิกายน ๒๓๑๐
พระยาตากเมื่อยกทัพตามมองย่าขึ้นไปถึงค่ายโพธิ์สามต้นเวลาเช้าวันที่ ๕ พฤศจิกายน จึงเร่งให้ไพร่พลระดมตีค่ายพม่าข้างฟากตะวันออกพอเวลา ๙ นาฬิกา ก็ได้ค่ายนั้น พระยาตากจึงเข้าตั้งรักษาค่าย แล้วให้ทำบันไดสำหรับใช้พาดปีนค่ายพม่าข้างฟากตะวันตกแต่เวลาเช้านั้น ครั้นพร้อมเสร็จแล้ว เวลาค่ำจึงให้พระยาพิพิธ พระยาพิชัยนายทหารจีน คุมกองทหารจีนไปตั้งประชิดค่ายสุกี้ ทางด้านวัดกลาง พอรุ่งเช้าวันที่ ๖ พฤศจิกายน จึงให้กองทหารไทยจีนเข้าระดมตีค่ายสุกี้พร้อมกัน รบกันแต่เช้าจนเที่ยง กองทัพพระยาตากก็เข้าค่ายโพธิ์สามต้นได้และได้ฆ่าสุกี้แม่ทัพข้าศึกตายในที่รบ พวกข้าศึกต่างพากันหนีไปสิ้น การตีค่ายโพธิ์สามต้นครั้งนี้เป็นชัยชนะของการกู้ชาติของพระยาตาก (สิน) ที่ต่อมานั้นคือ สมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี ผู้สถาปนากรุงธนบุรีเป็นราชธานีแทนกรุงศรีอยุธยา เมื่อ ๒๕๐ ปีมาแล้ว
กรุงศรีอยุธยาแตก ๗ เมษายน ๒๓๑๐
ค่ายโพธิ์สามต้นปัจจุบัน
สมรภูมิรบในค่ายโพธิ์สามต้น
วัดหงส์ ค่ายสุกี้พระนายกอง
พิธีบวงสรวงค่ายโพธิ์สามต้น
จำลองเหตุการณ์กองเรือพระยาตาก
จำลองกองเรือเดินทัพเข้ากู้ชาติ
พระบรมรูปพระเจ้ากรุงธนบุรี
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี