สุสานจิ๋นซี
ในการเสวนาองค์ความรู้ไทย-จีนจากนิทรรศการพิเศษ เรื่อง จิ๋นซีฮ่องเต้ : จักรพรรดิองค์แรกของแผ่นดินจีนกับกองทัพทหารดินเผา เมื่อวันที่ ๒๗-๒๘ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๖๒ ที่ผ่านมานั้น นอกจากจะทำให้นักวิชาการไทย-จีนได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้กันโดยเฉพาะแล้ว ยังได้สร้างมิติใหม่ของการถอดบทเรียนให้เป็นองค์ความรู้อย่างเป็นรูปธรรม การเสวนาแบบนี้น่าจะเป็นตัวแบบให้เกิดขึ้นในสังคมไทยให้มากกว่ากิจกรรมปิดเปิด-ถ่ายภาพหมู่-เพราะเป็นแนวทางสืบสาน รักษา ต่อยอด ที่เกิดขึ้นจากหัวข้อที่น่าสนใจหลายเรื่องเช่น The discovery and protection of the Qin TerracottaWarriors and Figures,The conservation and restorationof the painted pottery figures unearthed from Changling Mausoleum of Western Han dynasty, การจัดการและการอนุรักษ์แหล่งโบราณคดีประเภทสุสานในประเทศไทย, การขุดค้นทางโบราณคดีประเภทสุสานในประเทศไทย, ความก้าวหน้าในการอนุรักษ์แหล่งโบราณคดีประเภทสุสาน, ความเชื่อเรื่องชีวิตหลังความตายและการแสวงหาชีวิตอมตะ, Simple explanation of the stone reliefs from the northern Shaanxi province, ภาพสะท้อนแนวคิดโลกหลังความตายผ่านการฝังสิ่งของในสุสาน และการอภิปรายแลกเปลี่ยนเรียนรู้ถึงแนวคิดและการพัฒนาในอนาคตร่วมกัน โดยบรรยายเป็นภาษาไทยและภาษาจีน ซึ่งมีล่ามแปลความให้เข้าถึงข้อมูลตลอด
หลุมศพหนองราชวัตร
จากพื้นที่อุทยานสุสานจักรพรรดิจิ๋นซี (ฉินสื่อ) ขนาด ๔๕.๖๙ ตารางกิโลเมตรนั้น พบว่ามีอาคารประกอบพิธีกรรม ๔ แห่ง หลุมฝังวัตถุบริวารมากกว่า ๓๐๐ หลุม
อยู่โดยรอบสุสานและพบหลุมฝังกองทัพทหารม้าดินเผาอย่างต่อเนื่องอีก ๓ หลุม และที่ยังไม่เปิดอีก ซึ่งต้องใช้เวลานานปีสำหรับการซ่อมแซมและบูรณะหุ่นทหารดินเผาที่พบ และหุ่นดินรูปวัว ม้า แกะ กับสัตว์ต่างๆ ทั้งของสุสานของจักรพรรดิจิ๋นซีและสุสานของจักรพรรดิฮั่นเกาจู่หลิวปัง เมืองเสียนหยางโดยเฉพาะการวิจัยภาพจากประติมากรรมศิลาหน้าสุสานสมัยราชวงศ์ฮั่นตะวันตกและฮั่นตะวันออกนั้น มีการพบอยู่ทั่วประเทศ สำหรับภาพหน้าสุสานที่เมืองอวี๋หลินนั้นมีการถอดความหมายพบว่าเป็นภาพที่สะท้อนสังคมเมื่อ ๑,๙๐๐ ปีมาแล้ว ซึ่งมีทั้งภาพในวิถีชีวิตจริงและภาพตามจินตนาการ ถือเป็นจดหมายเหตุทางสังคมมนุษย์ที่เกิดก่อนสังคมไทยแม้ว่าจะมีการขุดพบเรื่องราวของมนุษย์ร่วมสมัยในประเทศไทยก็พบว่าแหล่งโบราณคดีหนองราชวัตร ที่พบมากกว่า ๑๒๑ หลุมศพนั้น ได้มีการฝังศพด้วยการฝังและเป็นการฝังศพครั้งแรกที่นอนหงายเหยียดยาวพร้อมเครื่องภาชนะดินเผา ขวานหินกะเทาะ ขวานหินขัดเครื่องมือกระดูก และมีการสวมเครื่องประดับที่ทำจากหินและงาช้าง ซึ่งเป็นการฝังศพทั่วไปในสังคมมนุษย์ก่อนประวัติศาสตร์ในขณะที่จีนนั้นมีสุสานขนาดใหญ่กันแล้วซึ่งต่างมีความเชื่อหลังความตายเหมือนกันมาตั้งแต่ยุคหินว่า การตายเหมือนการนอนหลับ วิญญาณอาจกลับมาเข้าร่างได้อีก จึงนิยมเอาข้าวของเครื่องใช้ใส่เข้าไปในหลุมเพื่อให้คนตายที่ฟื้นได้มีของใช้ หรือแม้ของมีค่าต่างๆ ตามฐานะคนตาย ซึ่งพบว่าคนมีอำนาจนั้นมักแสวงหาความเป็นอมตะและเชื่อในการกลับมาเกิดดังปรากฏในการทำศพของชาวอียิปต์ ชาวอินคาที่ต้องฝังข้าทาสบริวารลงไปในหลุมด้วย เพราะพบว่ามีการตายผิดจากธรรมชาติ บางศพถูกตัดขาเพื่อกันหนี ต่อมาความเชื่อได้มีการปรับเปลี่ยนตามยุคสมัยจากประเพณีจีนเดิมที่มีการฆ่าคนฝังไปกับผู้ตายมาจนมีการปั้นหมิงซี่เป็นรูปจำลองเท่าตัวฝังไปกับศพแทน ต่อมาจึงมีการปั้นขนาดเล็กลงรวมทั้งมีการปั้นสิ่งของเครื่องใช้ขนาดเล็กมาฝังแทน อันเป็นที่มาของการใช้กระดาษสร้างรูปต่างๆ แทนคือสิ่งของสำหรับพิธีกงเต๊ก
ผู้สนใจร่วมงานองค์ความรู้
สำหรับหลุมศพของจักรพรรดิในระยะแรกจึงมีการสร้างทหารหุ่นขนาดเท่าคนจริงเป็นหมิงซี่ มีหน้าตาไม่เหมือนกันโดยมีการหล่อพิมพ์อยู่ ๘ แบบ แต่ช่างปั้นนั้นใส่รายละเอียดให้มีลักษณะพิเศษไม่เหมือนกัน องค์ความรู้จากงานนี้ต้องขอบคุณผู้เชี่ยวชาญเฉพาะเรื่องจากจีนคือ จ้าวคุณ,เก๋อหง, ซุยจื้อ, ซุนเหว่ยกัง และผู้เชี่ยวชาญเฉพาะเรื่องฝ่ายไทยคือ สมชาย ณ นครพนม, เสน่ห์ มหาผล, สุภมาศ ดวงสกุลและผศ.ดร.อชิรัชญ์ ไชยพจน์พานิช โดยเฉพาะ นายประทีปเพ็งตะโก อธิบดีกรมศิลปากร และนางสาวนิตยา กนกมงคล ผู้อำนวยการสำนักพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ที่มองเห็นงานวิชาการจากองค์ความรู้นั้นมีความสำคัญนัก
วิทยากรแลกเปลี่ยนความรู้
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี