วันอาทิตย์ ที่ 3 สิงหาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / ผู้หญิง
ไม่ใช่แค่ขนมเปี๊ยะ แต่คือความภาคภูมิใจของตระกูล

ไม่ใช่แค่ขนมเปี๊ยะ แต่คือความภาคภูมิใจของตระกูล

วันเสาร์ ที่ 29 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563, 06.00 น.
Tag :
  •  

ครอบครัวของผมทำขนมเปี๊ยะด้วยความภูมิใจในรากเหง้าของบรรพบุรุษ และตั้งใจทำให้ดีที่สุด เพราะนี่คือการทำให้บรรพบุรุษภาคภูมิใจ

แนวหน้าวาไรตี้สัปดาห์นี้ ดร.เฉลิมชัย ยอดมาลัย พาคุณไปสนทนากับ คุณชวลิต ตันคงคารัตน์ และ คุณปิยะพร ตันคงคารัตน์พ่อลูกผู้สืบสานการทำขนมเปี๊ยะ “ตั้งเซ่งจั้ว” ของดีแสนอร่อยแห่งเมืองบางคล้า จังหวัดฉะเชิงเทรา สาระสำคัญอย่างหนึ่งที่พ่อลูกคู่นี้ย้ำเสมอคือ อาชีพทำขนมเปี๊ยะเป็นอาชีพที่ถูกดูแคลนว่าต่ำต้อย แต่คนในตระกูลตันคงคารัตน์ก็ภาคภูมิใจ และตั้งใจทำให้อาชีพของบรรพบุรุษเจริญก้าวหน้าต่อไป


l จนถึงวันนี้ ขนมเปี๊ยะ ตั้งเซ่งจั้ว มีอายุกี่ปีแล้วครับ

ปิยะพร: อากงของผมเข้ามาเมืองไทย มาอยู่ที่แปดริ้ว โดยไปตั้งรกรากที่บางคล้าตั้งแต่ปี 2475 แล้วก็ทำอาชีพผลิตขนมเปี๊ยะมาตั้งแต่นั้น นับอายุของการทำขนมเปี๊ยะในครอบครัวผมก็ 80 กว่าปีแล้วครับ

ชวลิต: เตี่ยของผมมาจากเมืองจีน มาแบบเสื่อผืนหมอนใบ แล้วก็ไปตั้งรกรากอยู่ที่บางคล้า เพราะเตี่ยเห็นว่า หากตั้งรกรากทำมาหากินในเขตตัวเมืองแปดริ้วในยุคนั้นอาจจะทำมาหากินได้ยาก เนื่องจากมีคนจีนอยู่ในตัวเมืองแปดริ้วมากแล้ว เตี่ยเลยตัดสินใจไปอยู่บางคล้า ซึ่งเป็นเขตที่อยู่นอกตัวเมืองแปดริ้ว แต่บางคล้าก็เป็นชุมชนใหญ่ ที่สามารถทำมาหากินได้ง่าย

l แสดงว่าครอบครัวตันคงคารัตน์ทำขนมเปี๊ยะมาตั้งแต่เมื่อย้ายมาอยู่เมืองไทย นั่นก็แสดงว่าทำอาชีพนี้มาอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน

ปิยะพร: ใช่ครับ ครอบครัวเราทำขนมเปี๊ยะมาตลอด พ่อของผมเล่าให้ฟังว่าอากงเคยเป็นลูกจ้างในร้านทำขนมเปี๊ยะที่เมืองจีนมาก่อน ดังนั้นเมื่อมาเมืองไทยก็ยังใช้ความรู้เดิมมาทำอาชีพต่อ เพราะเป็นงานเดียวที่อากงทำได้ดีที่สุด อาจจะเรียกได้ว่าอากงของผมทำขนมเปี๊ยะเป็นเจ้าแรกในบางคล้าก็ได้นะครับ เพราะคนรุ่นเก่าๆ รู้จักร้านขนมเปี๊ยะของอากงที่บางคล้ากันเป็นอย่างดี

ชวลิต: ในสมัยก่อนคนจีนมาอยู่ที่แปดริ้วเยอะมาก ส่วนใหญ่คนจีนที่มาอยู่แปดริ้วเป็นคนฮกเกี้ยน เตี่ยผมทำขนมเปี๊ยะมาโดยตลอด เพราะเป็นงานที่เตี่ยถนัดที่สุด โดยบ้านเดิมอยู่ที่บางคล้า

l ปัจจุบันบ้านหลังเดิมที่บางคล้ายังอยู่ไหมครับ

ปิยะพร: บ้านเก่าถูกไฟไหม้ไปกว่า 30 ปีแล้วครับ บ้านเก่าของครอบครัวผมอยู่ในตลาดบางคล้า เราเช่าที่ดินของเขาปลูกบ้านโดยเป็นบ้านแบบเรือนแถว ลักษณะคล้ายๆ กับตลาดเก่าในย่านคลองสวน ที่แปดริ้ว หรือสามชุก สุพรรณบุรีครับ เมื่อเกิดไฟไหม้ขึ้นมาบ้านเรือนทั้งหมดในตลาดก็ถูกไฟเผาจนหมดสิ้น เพราะเกือบทุกหลังเป็นบ้านไม้ หลังจากไฟไหม้แล้วเราก็ย้ายบ้านจากที่เดิม โดยไปอยู่ในที่ที่เราซื้อที่ดินไว้เอง ครอบครัวผมจึงย้ายจากตลาดเก่า แต่ยังอยู่ในเขตตลาดบางคล้าเหมือนเดิมครับ แล้วเมื่อสักประมาณ 10 ปีที่ผ่านมา เราจึงมาเปิดร้านขนมเปี๊ยะตรงนี้ ซึ่งเรียกว่าริมถนนสาย 304 เส้นทางระหว่างตัวเมืองแปดริ้วไปกบินทร์บุรี ผมขอกลับไปพูดถึงบ้านเก่าที่บางคล้านะครับ อากงตัดสินใจไปอยู่บางคล้าเพราะเป็นเมืองหลักเมืองหนึ่งของแปดริ้ว แล้วสมัยก่อนชุมชนบางคล้าใช้เส้นทางคมนาคมทางน้ำเป็นหลัก เมื่ออากงมาจากเมืองจีนแบบคนมือเปล่า ก็ต้องหาแหล่งทำมาหากินที่เหมาะสมกับตัวเองที่สุด ในที่สุดอากงก็เลือกบางคล้า เพราะยังมีโอกาสทำมาหากินได้ดีที่สุด

l ขนมเปี้ยะยุคอากงกับยุคนี้ มีอะไรเหมือนหรือต่างกันบ้างครับ มีอะไรที่ยังคงเอกลักษณ์ดั้งเดิมไว้บ้างครับ

ชวลิต: ในสมัยก่อนบ้านเราขนมเปี๊ยะไม่กี่แบบ คือแบบแผ่นเล็กกับแผ่นใหญ่เท่านั้น แต่เดี๋ยวนี้มีหลายแบบมาก มีไส้หลายชนิดด้วย โดยปรับให้เข้ากับยุคสมัย และความต้องการของลูกค้าทั้งลูกค้าไทยและต่างประเทศ แต่เราก็ยังคงเอกลักษณ์ของเราไว้เหมือนเดิม โดยเฉพาะเรื่องคุณภาพของขนม เรื่องแป้ง และไส้ขนมเปี๊ยะเป็นสิ่งที่เราต้องรักษาเอกลักษณ์ไว้

ปิยะพร: ใช่ครับ บ้านเรายังรักษาเอกลักษณ์ขนมเปี๊ยะของอากงไว้เพราะมันคือสิ่งที่คนส่วนมากรู้จักเรา เขารู้จักเราที่คุณภาพของขนมเปี๊ยะ ทุกวันนี้เราก็ยังรักษาสูตรขนมเปี๊ยะที่อากงได้ทำตั้งแต่วันแรกไว้ และยังคงเอกลักษณ์ไว้ให้มากที่สุด โดยเฉพาะขนมเปี๊ยะที่ใช้สำหรับในงานพิธีสำคัญ เช่น งานแต่งงาน แต่ขณะเดียวกันเราก็พัฒนารูปแบบอื่นๆ ควบคู่ไปด้วย แต่ก็ต้องย้ำว่าขนมเปี๊ยะลูกโตๆ สูตรจากประเทศจีนที่อากงเคยทำไว้ยังเป็นสินค้าขายดีที่สุดของบ้านเรา สูตรของอากงคือขนมเปี๊ยะที่เราเรียกว่าตั่วเปี้ย คือขนมเปี๊ยะแผ่นใหญ่ เหตุผลหนึ่งที่คนจีนชอบให้ขนมเปี๊ยะแผ่นใหญ่ก็เพราะว่า เวลาเรากินขนมเปี๊ยะแผ่นใหญ่เราต้องล้อมวงแล้วกินด้วยกันดังนั้นเวลาที่ลูกค้าซื้อขนมเปี๊ยะแผ่นใหญ่ไปฝาก ก็หมายความว่า เขาต้องการสร้างความอบอุ่นภายในครอบครัว ดังนั้นขนมเปี๊ยะแผ่นใหญ่นั้น นอกจากมีรสชาติอร่อย และขายดีแล้ว ยังมีความหมายพิเศษถึงความอบอุ่นในครอบครัวแฝงไว้ด้วย

l ขนมเปี๊ยะแผ่นใหญ่มีไส้แบบไหนครับ

ปิยะพร: ไส้ดั้งเดิมคือไส้ที่เราเรียกว่าไส้ซังเท็ง คือไส้ที่ทำจากถั่วผสมกับฟักเชื่อมครับ

l นอกจากขนมเปี๊ยะแผ่นใหญ่ที่เป็นต้นตำรับของที่นี่แล้ว ยังมีผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่แตกต่างไปจากเดิมอีกหลายชนิดไหมครับ

ปิยะพร: เรามีขนมเปี๊ยะขนาดต่างๆ  ไส้ชนิดต่างๆ และยังมีขนมอื่นๆ เพิ่มเติมด้วยครับ ช่วงหลังๆ ตลาดผู้บริโภคต้องการขนมเปี๊ยะขนาดเล็กที่รับประทานได้สะดวก แบบชนิดลูกละคำ สามารถรับประทานได้ในระหว่างเดินทาง เช่น ขับรถยนต์ หรือใช้ในการประชุมสัมมนา แต่สำหรับผมแล้วผมคิดว่าการรับประทานขนมเปี๊ยะที่คลาสสิกที่สุดคือต้องรับประทานขนมเปี๊ยะแผ่นใหญ่ แบบดั้งเดิม โดยต้องกินกันหลายๆ คน เพราะเป็นภาพที่น่ารักมาก

l คุณชวลิตครับ สมัยแรกเริ่มที่คุณชวลิตทำขนมเปี๊ยะเมื่อเทียบกับยุคของลูกๆ  มีอะไรแตกต่างกันบ้างครับ

ชวลิต: แตกต่างกันเยอะมาก ในสมัยก่อนนั้นไม่มีน้ำประปาเวลาเราจะทำไส้ขนมเปี๊ยะ เราต้องนำถั่วเขียวไปล้างทำความสะอาดในแม่น้ำ ต้องเอาฟักใส่เข่งแล้วเอาไปแช่ในน้ำ ต้องใช้แรงงานคนในทุกขั้นตอน แต่ยุคหลังๆ นี้ใช้เครื่องจักรเข้ามาช่วยทำมากกว่าเดิม แต่บางขั้นตอนก็ยังต้องใช้แรงงานคน เพราะเครื่องจักรทำแทนคนไม่ได้

ปิยะพร: ในสมัยก่อน พ่อผมเล่าให้ฟังว่า มีเรื่องสนุกๆ มากมายเช่น เวลานำฟักไปแช่น้ำในแม่น้ำ แต่ถ้าหากวันไหนกระแสน้ำแรงมากๆน้ำจะพัดเอาเข่งที่เราใส่ฟักไว้ลอยไปกับน้ำทั้งเข่ง โดยการแช่ฟักในน้ำนั้น เราต้องแช่น้ำค้างคืนไว้ โดยผูกเชือกล่ามเข่งไว้ แต่ในตอนเช้าเมื่อไปดูฟักของเรา กลับพบว่ามันหายไปทั้งเข่ง เพราะกระแสนำพัดแรงจนเชือกที่ผูกเข่งไว้ขาด ทำให้ต้องนั่งเรือออกตามหาเข่งบรรจุฟักในแม่น้ำ บางทีก็หาเจอบางทีก็หาไม่เจอ

ชวลิต: ฟักคือวัตถุดิบสำคัญที่ใช้ทำไส้ขนมเปี๊ยะ ตั้งใช้ฟักดีๆ ต้องล้างให้สะอาด แล้วก็ต้องนำไปแช่น้ำปูนใส แล้วก็ต้องล้างน้ำปูนใสออกด้วย มีขั้นตอนการทำไส้ขนมเปี๊ยะมากมายเลย ต้องพิถีพิถันมาก

ปิยะพร: การทำขนมเปี๊ยะสมัยพ่อผมนั้น เรียกได้ว่าค่อนข้างโหดมาก เช่น ถั่วที่เราใช้ทำไส้ขนมนั้น เช่น ไส้ถั่วเต่าซา ต้องใช้ถั่วเขียวอย่างดีถั่วเขียวมีเปลือกใช่ไหมครับ เราต้องเอาไปเข้าเครื่องโม่ เพื่อให้เปลือกถั่วหลุดออกก่อน เมื่อเปลือกหลุดแล้ว ก็เอาเม็ดถั่วสีเหลืองไปแช่น้ำไว้นานครึ่งวัน พอแช่น้ำเสร็จก็เอาไปนึ่ง นึ่งเสร็จก็นำไปบด สมัยก่อนต้องบดด้วยแรงคนเท่านั้น พอบดเสร็จก็นำไปผัด ผัดเสร็จต้องเอาไปกวน พ่อผมบอกว่ากว่าจะทำเสร็จก็หมดแรง สลบเลย ในสมัยก่อนถือเป็นอาชีพหนึ่งที่ใช้แรงงานคนทุกขั้นตอน แต่ผมก็ยังเห็นว่าการทำขนมเปี๊ยะในสมัยอากงกับสมัยพ่อผมแม้จะต้องใช้แรงงานมากๆ ผมเรียกว่าขนมเปี๊ยะฝีมือคนร้อยเปอร์เซ็นต์ดูแล้วคลาสสิกดีครับ และมีอีกอย่างหนึ่งที่ผมจำได้ดีคือ อากงกับพ่อของผมจะบ่นให้ฟังเสมอๆ คือ อาชีพทำขนมเปี๊ยะมันเหนื่อยมาก แต่มันก็ทำให้เรามีที่ยืนในสังคมได้ ซึ่งผมเห็นว่ารูปแบบการทำงานของอากง กับพ่อของผมมันมีขั้นตอน และแต่ละขั้นตอนมันมีความใส่ใจในงานที่ทำ พ่อของผมบอกว่ามีขนมชนิดหนึ่งเรียกว่าขนมเหม่งทึ่ง ขนมชนิดนี้บางคนเรียกว่าขนมคอเป็ด หรือขนมงาอ่อน ซึ่งวิธีการทำค่อยข้างยากและนานมาก คือต้องเอาแป้งที่เหลวเป็นน้ำมากวนด้วยไฟอ่อนๆ กวนจากน้ำแป้งเหลวๆ กวนไปเรื่อยๆ ช้าๆ จนกว่าแป้งจะเกาะกันเป็นตัว แต่ทีเด็ดของมันคือต้องกวนช้าๆ และต้องให้ไฟพอดี ต้องออกแรงให้พอดีด้วย ไม่อย่างนั้นมันจะยุ่ย แล้วไม่อร่อย พ่อของผมผลัดกันกวนกับอากง ในสมัยที่พ่อยังเป็นคนหนุ่มวัยรุ่นก็จะใจร้อน เวลาเหนื่อยมากๆ เพราะกวนแป้งมายาวนานกว่า 2 ชั่วโมง ยิ่งเมื่อแป้งมันเริ่มเกาะตัว มันจะมีความหนืด แล้วจะยิ่งกวนยากต้องใช้แรงมากขึ้น พ่อบอกว่ากวนมาตั้งนานแล้ว เมื่อไรจะหยุดเสียที อากงบอกว่ายังหยุดไม่ได้ เพราะแป้งยังไม่เข้าที่ต้องกวนต่อไป พอกวนต่อไปอีกสักพัก พ่อผมก็เหนื่อยมากจนบอกว่าไม่ทำต่อแล้ว พ่อโยนไม้พายกวนขนมทิ้ง แล้วถามอากงว่าลื้อจะทำให้ฮ่องเต้เสวยหรืออย่างไร ทำไมต้องมีพิธีมากขนาดนี้ อั๊วกวนไม่ไหวแล้วอั๊วเหนื่อย แต่แล้ววันหนึ่งในสมัยที่ผมเติบโตขึ้น ผมได้เฝ้าฯ รับเสด็จ สมเด็จพระเทพรัตนฯ (สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี) พระองค์เสด็จไปที่ร้านของบ้านผม วันนั้นแหละทำให้ผมประจักษ์ชัดว่า ที่อากงสอนพ่อของผมให้ทำขนมให้ดี ให้อร่อย เพื่ออะไร ทุกคนในบ้านผมรู้คำตอบชัดเจน แล้วทุกคนก็นึกขอบคุณอากง แล้วทำให้เราทุกคนยึดถือว่าการทำงานอะไรก็ตาม เราต้องทำบนพื้นฐานของความตั้งใจจริง ทำให้ดีที่สุด ไม่ว่าจะทำอาชีพอะไรก็ตาม ต้องตั้งใจทำ อย่างอาชีพทำขนมเปี๊ยะนี้คนจีนถือว่าเป็นอาชีพต่ำของสังคมในยุคโบราณ แต่ถึงมันจะเป็นอาชีพที่ต่ำ แต่บ้านของผมก็ตั้งใจทำให้มันออกมาดีที่สุด เพราะมันคืออาชีพของเรา เราภูมิใจกับมันมาก คนจีนเขาแบ่งอาชีพสูงต่ำดังนี้ อาชีพค้าขายที่จัดว่าอยู่ในระดับสูงคือ ขายทอง ขายเครื่องไฟฟ้า ขายของโชห่วยแล้วก็ทำขนมเปี๊ยะ และทำโรงก๋วยเตี๋ยว โรงเต้าหู้ เพราะเป็นงานจุกจิก งานหนักใช้แรงงานมาก คนจีนสมัยก่อนนะเวลาจะไปสู่ขอลูกสาวใคร ฝ่ายหญิงจะถามว่า ลื้อทำอาชีพอะไร หากตอบว่าทำขนมเปี๊ยะแล้วละก็ เขามักจะมองข้ามไปเลย ไม่อยู่ในสายตา เขาส่ายหน้า เขาไม่เอา

l แต่เดี๋ยวนี้ ขนมเปี๊ยะดีๆ รสชาติอร่อย ราคาไม่ถูกนะครับ แพงเลยก็ว่าได้ ก็คงไม่ถือว่าเป็นอาชีพชั้นต่ำแล้วใช่ไหมครับ ผมถามต่อว่าขนมเปี๊ยะอร่อยต้องมีลักษณะอย่างไรครับ

ชวลิต: (หัวเราะ) ก็ไม่แน่ใจว่าคนอื่นมองอาชีพนี้ว่าสูงหรือไม่แต่เราก็ภูมิใจกับมัน ส่วนขนมเปี๊ยะอร่อย ต้องผ่านการทำที่พิถีพิถันมากๆเหมือนกับการก่อสร้างอาคารดีๆ ต้องมีวิศวกรดีๆ คุมงาน สำหรับขนมเปี๊ยะนั้นต้องอร่อยทุกส่วน ทั้งไส้และแป้ง ไส้นั้นถ้าใช้ฟักที่ไม่ดีก็ทำให้ไม่อร่อยเช่นถ้าฟักแฉะมากไป ก็ไม่ดี หวานมากไปก็ไม่ดี มันทำยากนะ เด็กรุ่นใหม่หลายคนเขาไม่ทนกับการทำงานที่ใช้เวลานานๆ เขาไม่ทำ เมื่อไม่ทำอาชีพนั้นมันก็ค่อยๆ หมดไป ส่วนแป้งขนมเปี๊ยะก็ต้องนุ่มละเอียด กินแล้วไม่สากลิ้นเหมือนกับกลืนกรวดกลืนทราย ผมก็เคยคิดว่าไม่อยากให้ลูกทำอาชีพนี้ เพราะมันเหนื่อย จึงให้เขาเรียนหนังสือสูงๆ เพื่อจะได้ทำอาชีพอื่น เขาจะได้ไม่ต้องเหนื่อยมาก แต่เขาก็ยังเห็นคุณค่าของอาชีพนี้ เขาเรียนจบสูงๆ มาก็จริง แต่เขาไม่ทิ้งอาชีพของบรรพบุรุษ

ปิยะพร: พ่อผมบอกกับผมและพี่น้องตั้งแต่พวกผมยังเด็กๆ ว่าอาชีพทำขนมเปี๊ยะ มันเหนื่อย ไม่อยากให้ลูกๆ ทำต่อ เพราะพ่อเรียนหนังสือน้อย พ่อจำเป็นต้องทำ แต่อย่างรุ่นผม ตอนเราเป็นเด็กๆ เวลาผู้ใหญ่ถามว่าโตไปอยากเป็นอะไร เราก็บอกอยากเป็นหมอ เป็นวิศวกร แต่พี่สาวผมคุยกับผมตอนเด็กๆ ว่า อาชีพทำขนมเปี๊ยะคืออาชีพของอากง อากงเคยถามว่าไม่อยากทำอาชีพของอากงต่อไปหรือ หลังจากนั้นพี่สาวผมเปลี่ยนความคิดคือจากที่เคยอยากเป็นหมอ ก็กลับมาคิดว่าอาชีพของอากงทำให้เรามีอยู่มีกิน เราน่าจะรักษาอาชีพนี้ไว้ อากงบอกพี่สาวผมว่า เราต้องภูมิใจในอาชีพของเรา มันเป็นอาชีพสุจริต นี่แหละผมเห็นว่าคำสอนของอากงมันคือ spirit ของครอบครัวเรา spirit ของตั้งเซ่งจั้ว ผมเห็นว่าแม้อากงไม่มีการศึกษา แต่อากงย้ำให้เห็นว่าความภูมิใจในอาชีพสุจริตเป็นเรื่องสำคัญของคนทุกคน ผมเองแม้จะจบคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จากพระจอมเกล้า ลาดกระบัง แต่สุดท้ายผมก็เห็นว่าอาชีพของอากงมีความสำคัญ ผมก็จึงกลับมาทำงานกับธุรกิจครอบครัวโดยใช้ความรู้ที่เรียนมาเป็นเครื่องช่วยทำให้ธุรกิจของครอบครัวก้าวหน้าต่อไป

l ขนมเปี๊ยะตั้งเซ่งจั้ว ดังมากนะครับ ผมเห็นภาพหม่อมราชวงศ์ถนัดศรีสวัสดิวัตน์ หรืออาหม่อม และ หม่อมหลวงศิริเฉลิม สวัสดิวัตน์หรือพี่หมึกแดง มาเยี่ยมร้าน แล้วให้เชลล์ชวนชิมในสมัยอาหม่อมเมื่อปี 2525 แสดงว่าร้านนี้มีของอร่อยมากมายเลยนะครับ

ชวลิต: (หัวเราะ) เรามีของอร่อยๆ เยอะแยะเลย คุณชายถนัดศรีมาชิมแล้วบอกว่าอร่อย เลยให้เชลล์ชวนชิมกับเรา ส่วนคุณหมึกแดงก็ชมร้านเราว่ามีของอร่อย

ปิยะพร: พ่อของผมสอนว่า ขนมอร่อยจะรู้ว่าอร่อยจริงหรือไม่ก็ต้องกินเท่านั้น เมื่อกินแล้ว ทุกคนจะตอบได้ด้วยตัวเองว่าอร่อยหรือไม่ ขนมไม่เหมือนกับเสื้อผ้าหรือสินค้าเครื่องใช้อื่นๆ คุณจะตอบได้ว่าขนมอร่อยหรือไม่ก็ต่อเมื่อกินเข้าไปก่อนแล้วจึงจะมีคำตอบตามมา เราจึงต้องทำของให้อร่อย เพื่อให้คนชอบของๆ เรา ส่วนผมก็เอาความรู้ที่เรียนมาเข้ามาเพิ่มเติมคือการทำบรรจุภัณฑ์ หรือกล่องขนมให้สวยงาม น่าซื้อ ซึ่งเรื่อง packaging design นั้น พ่อของผมไม่ค่อยให้ความสนใจมากนัก เขาจะเน้นแค่ขอให้ขนมอร่อยก็พอ แต่เราก็คุยกัน แล้วก็ช่วยกัน ผมบอกพ่อว่าของอร่อยก็ต้องอยู่ในกล่องที่สวยงามด้วย ลูกค้าจะได้อยากซื้อมากขึ้น ลูกค้าของเรามีทั้งคนไทยและคนจีนแผ่นดินใหญ่ จีนฮ่องกง  สิงคโปร์ มาเลย์ ลูกค้าบอกว่าชอบขนมเปี๊ยะของเรา เพราะอร่อย เรารู้ดีว่าขนมเปี๊ยะของบ้านเราเหมือนปลาที่มาโตในน้ำอื่น คือมาจากจีนแล้วมาโตในไทย การทำขนมเปี๊ยะของเรามีขั้นตอนมากตั้งแต่สมัยอากง แล้วเราก็เก็บรักษามันไว้จนถึงวันนี้

l ร้านขนมเปี๊ยะ ร้านปัจจุบันได้รับการชื่นชมว่าออกแบบร้านสวยงามนะครับ ได้แรงบันดาลใจการออกแบบจากอะไรครับ

ปิยะพร: ร้านใหม่แห่งนี้ จริงๆ ตั้งมานานพอสมควรแล้วครับเมื่อก่อนร้านของเราอยู่ในบางคล้า คนกินในเมืองบอกว่า ต้องขับรถไปไกลกว่าจะได้กิน เขาบอกกับเราว่าเปิดร้านใกล้ๆ เมืองหน่อยสิ จะได้ไปมาสะดวก แต่แรกๆ พ่อผมก็ถามว่าจะเปิดร้านใหม่ริมถนนหรือ จะทำอย่างไรกันล่ะ หลังจากคุยกันในครอบครัว ผมก็เสนอความคิดว่า ผมเรียนด้านสถาปัตย์ ผมรู้จักสถาปนิกเก่งๆ หลายคน คนหนึ่งคือคุณชาตรี ลดาลลิตสกุลบริษัทต้นศิลป์สตูดิโอ คุยกันตอนแรกๆ พ่อผมตั้งคำถามว่า จะเปิดร้านริมถนนใหญ่จริง จะต้องทำอย่างไร ทั้งนี้ครอบครัวเราเป็นครอบครัวใหญ่ เราก็หารือกัน บังเอิญผมเรียนสถาปัตย์ ผมรู้จักกับคุณชาตรี ลดาลลิตสกุลบริษัทต้นศิลป์สตูดิโอ คุณชาตรีมีผลงานการออกแบบที่หลายคนชื่นชอบ และได้รับรางวัลมากมาย และเป็นศิลปินแห่งชาติ สาขาทัศนศิลป์ เมื่อคุยกันแรกๆ นั้นคุณชาตรีถามว่าตั้งงบประมาณไว้เท่าไร ผมบอกว่าประมาณ1 ล้านบาท คุณชาตรีบอกว่าค่าออกแบบก็ 10 เปอร์เซ็นต์ ของงบก่อสร้างแล้ว จะทำอย่างไรกันต่อไป เมื่อคุณชาตรีได้ไปคุยกับคุณอาของผมอาผมเล่าให้ฟังว่า คนทำขนมเปี๊ยะแต่ละคนมีของคู่มือคือไม้บด ไม้บดของอากงยังอยู่เลย เราเก็บไว้ ไม้บดนี้ใช้มาแล้วหลายรุ่น วันนี้ผมได้ใช้ไม้บดต่อจากเตี่ยของผม ผมภูมิใจมาก พอคุณชาตรีได้ฟังเรื่องนี้ ก็บอกว่าผมจะทำกล่องเก็บความภาคภูมิใจในอาชีพทำขนมเปี๊ยะ ผมไม่ได้ออกแบบร้านขายขนมเปี๊ยะ นี่คือความเป็นมาของร้านขนมเปี๊ยะแห่งใหม่ที่เราเรียกว่าสาขาเก๋งจีน ริมถนน 304 เราเปิดร้านนี้มาตั้งแต่ปี 2547 ครับ และจากงบที่ตั้งไว้แค่ 1 ล้านบาท ก็ทำให้พ่อของผมต้องจ่ายเงินมากกว่านั้นหลายล้านเพราะพ่อผมบอกว่า เราจะทำร้านนี้เป็นที่ระลึกถึงอาชีพของอากง แม้จะเป็นอาชีพชั้นล่างของสังคมจีน แต่มันคือความภาคภูมิใจของตระกูลเรา ร้านแห่งนี้ได้รับรางวัลเหรียญทองสถาปัตยกรรมดีเด่นของประเทศด้วยครับ

l ขนมเปี๊ยะของที่นี้มีลูกค้าหลักๆ คือใครครับ

ปิยะพร ลูกค้าหลักคือคนไทย โดยเฉพาะคนในแปดริ้วครับ ส่วนคนต่างประเทศก็มีเช่นกัน แต่ก็น้อยกว่าคนไทยครับ ผมมองว่าขนมก็ไม่ต่างไปจากดอกไม้ แต่ขนมบางอย่างสวยแต่รูป แต่กินแล้วไม่อร่อย แต่ของเราจะทำให้ทั้งสวยและทั้งอร่อย ขนมร้านเราไม่ใส่สารกันบูด เราเน้นที่บรรจุภัณฑ์สุญญากาศเพื่อให้เก็บสินค้าได้นานขึ้นกว่าปกติ แต่ก็อยากให้ลูกค้ากินขนมของเราแบบใหม่ๆ สดๆ มากกว่า เพราะของใหม่สดอร่อยแน่นอน ลูกค้าชาวสิงคโปร์หลายคนชอบขนมเปี๊ยะของเรา มาทีหนึ่ง เขาซื้อกลับเป็นลังๆน่าสนใจมากที่เขาชอบกินของเรา ทั้งๆ ที่สิงคโปร์ก็มีขนมเปี๊ยะขายมากมาย เราอยากให้คนกินมาหาเรามากกว่า แต่เราก็ต้องพยายามอำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าของเราให้มากที่สุด ผมคิดว่าตั้งเซ่งจั้ว มันไม่ใช่เป็นแค่เรื่องของบ้านเราเท่านั้น เพราะมันผูกพันกับคนในชุมชนมายาวนานยกตัวอย่างตอนที่ผมทำร้านจำลองโดยเอาแบบบ้านเก่าของอากงที่บางคล้ามาเป็นต้นแบบ มีคุณลุงคนหนึ่งเดินมากับหลาน แล้วชี้ให้หลานดูบอกว่าเขาเคยเห็นบ้านจริงๆ หลังนี้มาก่อน ผมก็ถามคุณลุงว่าทำไมรู้จักบ้านหลังเก่าคุณลุงบอกว่า คุณรู้ไหม ผมทันเห็นบ้านหลังนี้ ตอนผมเด็กๆ ผมเดินเท้าเป็นระยะทาง 2-3 กิโลเมตร เพื่อไปขึ้นเรือที่บางคล้า อากงของคุณให้ผมเข้าไปล้างเท้าในบ้าน แล้วเมื่อเราเปิดร้านนี้ โดยมีบ้านจำลองหลังเก่าไว้ก็มีคนรุ่นพ่อพาลูกมา ปู่พาหลานมา มันคือตำนานครับ บางคนบอกกับหลานว่า สมัยก่อนตอนปู่ยังเป็นเด็ก พ่อของปู่พาปู่ไปกินขนมเปี๊ยะร้านนี้วันนี้ขนมเปี๊ยะร้านนี้ยังอยู่ ผมเห็นว่านี่คือความผูกพันระหว่างขนมเปี๊ยะของอากงกับคนในชุมชน

คุณสามารถพบรายการดีที่ครบครันด้วยสาระและความบันเทิง รายการ แนวหน้าวาไรตี้ ออกอากาศทุกวันอาทิตย์ เวลา16.00-16.25 น. ทางโทรทัศน์ TNN2 ช่อง 784 ดิจิทัลทีวี หรือ True Visions 8และชมรายการย้อนหลังได้ที่ YouTube ผู้หญิงแนวหน้า by คุณแหน

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • เปิดพาวิลเลียนสตาร์ทอัพ \'Thailand LAB INTERNATIONAL 2025\' เชื่อมวิจัยสู่ตลาด เปิดพาวิลเลียนสตาร์ทอัพ 'Thailand LAB INTERNATIONAL 2025' เชื่อมวิจัยสู่ตลาด
  • กลุ่มเดอะมอลล์ จัดแคมเปญ \'WE LOVE THAILAND\'  ส่งพลังใจถึงทหาร กลุ่มเดอะมอลล์ จัดแคมเปญ 'WE LOVE THAILAND' ส่งพลังใจถึงทหาร
  • เครือซีพี ส่งมอบถุงกำลังใจ 1,000 ชุด พร้อมระดม “ซีพีอาสา” ลงพื้นที่ฟื้นฟูจังหวัดน่านหลังน้ำลด เครือซีพี ส่งมอบถุงกำลังใจ 1,000 ชุด พร้อมระดม “ซีพีอาสา” ลงพื้นที่ฟื้นฟูจังหวัดน่านหลังน้ำลด
  • SACIT พาสื่อมวลชนสัมผัสเสน่ห์งานหัตถกรรมจาก “กก” จันทบุรี เสริมความยั่งยืนให้ชุมชน SACIT พาสื่อมวลชนสัมผัสเสน่ห์งานหัตถกรรมจาก “กก” จันทบุรี เสริมความยั่งยืนให้ชุมชน
  • ป.ป.ส. จัดงาน ‘มหกรรมกองทุนแม่ของแผ่นดิน 2568’  ชูแนวคิด “ก้าวสู่ทศวรรษที่ 3 อ้อมกอดของแม่” สานต่อพระราชปณิธานขจัดภัยยาเสพติด ป.ป.ส. จัดงาน ‘มหกรรมกองทุนแม่ของแผ่นดิน 2568’ ชูแนวคิด “ก้าวสู่ทศวรรษที่ 3 อ้อมกอดของแม่” สานต่อพระราชปณิธานขจัดภัยยาเสพติด
  • Griffith Foods ส่งต่อคุณค่าด้านโภชนาการแก่เยาวชนไทย สู่ 4 โรงเรียนในกรุงเทพฯ และเชียงใหม่ Griffith Foods ส่งต่อคุณค่าด้านโภชนาการแก่เยาวชนไทย สู่ 4 โรงเรียนในกรุงเทพฯ และเชียงใหม่
  •  

Breaking News

ตร.พังงาลุยจับ3ผู้ค้า-ยึดยาบ้าเฉียดแสนเม็ด

'การ์เซีย'ร่วมงาน! 'หงส์'เปิดตัวสวมชุดอาดิดาสล่าแชมป์

โค่นแชมป์เก่า!'พัณณิน'ผงาดแชมป์หวดไอทีเอฟเวิลด์

คนร้ายกราดยิงดับกำนันคาดปมขัดแย้่งธุรกิจมืด

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved