วันวิสาขบูชาโลก
ด้วยวันวิสาขบูชาเป็นวันสำคัญของโลก อันเกิดจากการประชุมพุทธศาสนาระหว่างประเทศ (International Buddhist Conference) ณ กรุงโคลัมโบ เมืองหลวงของประเทศศรีลังกา ระหว่างวันที่ ๙-๑๔ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๔๑ ซึ่งมีผู้แทนประเทศที่นับถือศาสนาพุทธมีมติร่วมกันกำหนดให้วันวิสาขบูชาเป็นวันหยุดของสหประชาชาติ ต่อมาคณะผู้แทนจากศรีลังกา ขอเปลี่ยนเสนอให้ประกาศวันวิสาขบูชาเป็น “วันสำคัญสากล” แทน เนื่องจากวันหยุดของสหประชาชาตินั้นมีมากแล้วและเพื่อไม่ให้กระทบต่อการดำเนินงานของสหประชาชาติ จึงดำเนินการให้คณะผู้แทนถาวรประจำสหประชาชาติจำนวน ๑๖ ประเทศ คือ ศรีลังกา บังกลาเทศ ภูฏาน กัมพูชา ลาว มัลดีฟส์ มองโกเลีย พม่า เนปาล ปากีสถาน ฟิลิปปินส์ เกาหลีใต้ สเปน อินเดีย ไทย และยูเครนร่วมลงนามในหนังสือเสนอ
โบราณสถานลุมพินีวัน
จนเมื่อวันที่ ๑๕ ธันวาคม ๒๕๔๒ ที่ประชุมใหญ่สมัชชาแห่งสหประชาชาติสมัยสามัญ ครั้งที่ ๕๕ ได้พิจารณาระเบียบวาระที่ ๑๗๔ ว่าด้วยการยอมรับวันวิสาขบูชาในระดับสากล (International recognition of the Day of Visak) โดยการเสนอของศรีลังกา ประธานที่ประชุมได้ให้ผู้แทนจากศรีลังกาเสนอร่างข้อมติ และเชิญให้ผู้แทนจาก ไทย สิงคโปร์ บังกลาเทศ ภูฏาน สเปน พม่า เนปาล ปากีสถาน อินเดีย ขึ้นแถลง สรุปความได้“วันวิสาขบูชาเป็นวันสำคัญของพุทธศาสนิกชนทั่วโลก เพราะเป็นวันที่พระพุทธเจ้าประสูติ ตรัสรู้ เสด็จดับขันธปรินิพพาน พระพุทธเจ้าทรงสั่งสอนให้มวลมนุษย์มีเมตตาธรรมและขันติธรรมต่อเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน เพื่อให้เกิดสันติสุขในสังคม อันเป็นแนวทางของสหประชาชาติ จึงขอให้ที่ประชุมรับรองข้อมตินี้ซึ่งเท่ากับเป็นการรับรองความสำคัญของพุทธศาสนาในองค์การสหประชาชาติ โดยถือว่าวันดังกล่าวเป็นที่สำนักงานใหญ่องค์การสหประชาชาติและที่ทำการสมัชชาจะจัดให้มีการระลึกถึง(observance) ตามความเหมาะสม”
ในครั้งนั้น นายวรวีร์ วีรสัมพันธ์ อุปทูตคณะผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ ณ นครนิวยอร์ก ได้ให้เหตุผลในถ้อยแถลงมีความตอนหนึ่งว่า “องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงเป็นมหาบุรุษผู้ให้ความเมตตาต่อหมู่มวลมนุษย์ เปิดโอกาสให้ทุกศาสนาสามารถเข้ามาศึกษาพุทธศาสนา เพื่อพิสูจน์หาข้อเท็จจริงได้โดยไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนมานับถือศาสนาพุทธ และทรงสั่งสอนทุกคนโดยใช้ปัญญาธิคุณ โดยไม่คิดค่าตอบแทน”
ประชุมสมัชชาสหประชาชาติ
ในที่สุด องค์การสหประชาชาติได้กำหนดให้วันวิสาขบูชาเป็น “วันสำคัญสากล” มีชื่อวันว่า “Vesak” ตามมติการประชุมที่ประเทศศรีลังกาดังกล่าว ดังนั้น วันวิสาขบูชาจึงเป็นวันหยุดราชการในหลายประเทศและวันสำคัญระดับนานาชาติ จากเหตุที่เป็นวันคล้ายของเหตุการณ์สำคัญที่สุดของศาสนาพุทธ ๓ เหตุการณ์ คือ การประสูติการตรัสรู้ และการปรินิพพานของพระโคดมพระพุทธเจ้า หรือองค์สัมมาสัมพุทธเจ้าซึ่งเกิดขึ้นเมื่อกว่า ๒,๖๐๐ ปี ณ ดินแดนชมพูทวีปในสมัยพุทธกาล โดยเหตุการณ์แรกนั้น เมื่อ ๘๐ ปีก่อนพุทธศักราช เป็น “วันประสูติของเจ้าชายสิทธัตถะ” ณ ใต้ร่มสาลพฤกษ์ ในพระราชอุทยานลุมพินีวัน ปัจจุบันอยู่ในเนปาล เหตุการณ์ที่สอง เมื่อ ๔๕ ปี ก่อนพุทธศักราช เป็น “วันที่เจ้าชายสิทธัตถะได้บรรลุพระสัมมาสัมโพธิญาณ ตรัสรู้เป็นองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า” ณ ใต้ร่มโพธิ์พฤกษ์ ริมฝั่งแม่น้ำเนรัญชรา ตำบลอุรุเวลาเสนานิคม ปัจจุบันอยู่ในอินเดีย และเหตุการณ์สุดท้าย เมื่อ ๑ ปีก่อนพุทธศักราช เป็น “วันเสด็จดับขันธปรินิพพานขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า” ณ ใต้ร่มสาลพฤกษ์ ในสาลวโนทยาน พระราชอุทยานของเจ้ามัลละ เมืองกุสินารา ในอินเดีย โดยทั้งสามเหตุการณ์นี้อุบัติขึ้น ณ วันขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๖ หรือวันเพ็ญแห่งเดือนวิสาขะที่ต่างปีกัน อันเป็นความมหัศจรรย์ยิ่งของมหาบุรุษผู้เป็นศาสดาเอกของโลก ซึ่งนานาประเทศต่างพากันไปสักการะสถานที่สำคัญของสังเวชนียสถานในอินเดีย-เนปาล และร่วมกันประกอบพิธีบำเพ็ญบุญกุศล-พิธีพุทธบูชาเพื่อถวายสักการะรำลึกถึงแด่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าสืบต่อกันมา ทำให้มีการสร้างพุทธอุทยานประวัติศาสตร์ของโลกในอินเดียแล้ว และยังมีการสร้างพุทธสถาน-พุทธมณฑลเกิดขึ้นในแต่ละประเทศตามกันด้วย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี