สองสมเด็จฯ พบกันที่ปีนัง
ประเทศไทยนั้นโชคดีที่มีเจ้านายสองพระองค์ที่รู้จักกันดีในวงการศิลปไทยและประวัติศาสตร์คือสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานิวัดติวงศ์ ผู้ได้รับการยกย่องว่าทรงเป็น”พระบิดาแห่งช่างศิลปะไทย” และสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ ผู้ได้รับการยกย่องว่าทรงเป็น”พระบิดาแห่งประวัติศาสตร์และโบราณคดีไทย”เจ้านายทั้งสองพระองค์นี้ภายหลังยูเนสโก ได้ประกาศยกย่องให้เป็นบุคคลสำคัญของโลก จากผลงานที่ทรงรอบรู้ในวิทยาการต่างๆ และทรงมีพระปรีชาสามารถโดยเฉพาะเรื่องที่เด่นชัด ดังปรากฏในผลงานด้านช่างศิลปะไทย ศิลปะการละคร ประวัติศาสตร์โบราณคดี และอื่นๆ จนเป็นที่รู้กันว่าความรู้ของ”สองสมเด็จ”นี้เป็นเป็นตำราแห่งปราชญของแผ่นดิน เจ้านายสองพระองค์นี้เป็นพระราชโอรสในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่๔ คือสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานิวัดติวงศ์ ประสูติแต่พระสัมพันธวงศ์เธอ พระองค์เจ้าพรรณราย เมื่อวันอังคาร 8 เมษายน พ.ศ.2406 ส่วนสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพประสูติแต่เจ้าจอมมารดาชุ่ม ท.จ.ว. เมื่อวันที่ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2405ทั้งสองสมเด็จฯนี้ทรงสนองพระราชกิจและเป็นกำลังสำคัญของบ้านเมืองมาตั้งแต่รัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
สมเด็จฯกรมพระยาดำรงราชานุภาพ
จนกระทั่งเปลี่ยนแปลงการปกครอง พ.ศ.2475 แล้ว สมเด็จฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพได้เสด็จไปประทับที่ปีนัง ขณะสมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์ทรงดำรงตำแหน่ง ผู้สำเร็จราชการแผ่นดิน ในช่วงหลังวันที่ 24 มิถุนายน 2475 ขณะที่พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จไปประทับต่างประเทศ โดยพระสถานะที่มีโอกาสจะรู้ และสามารถศึกษาความรู้ได้ โดยความสนพระทัย และพระปรีชาในทางส่วนพระองค์จึง เป็นปัจจัยสำคัญต่อการมีส่วนร่วมทางสังคม ทางวิชาการ อันเป็นที่มาแห่งความรู้ และการที่ทรงแลกเปลี่ยนความรู้ ต่อกัน เมื่อสองพระองค์ล่วงเข้าพระปัจฉิมวัยนั้นทรงได้แสดงความคิดด้วยความรู้ ด้วยสุขุมคัมภีรภาพ-รสนิยม และพระนิสัยใฝ่ดี อันควรจูงใจคนให้โดยเสด็จฯติดตามความรู้ของทั้งสองพระองค์อยู่เป็นนิจ จึงเป็นคุณลักษณะอันวิเศษทางวิชาการของเจ้านายที่มีคุณค่ายิ่งในการนำทางความคิด และสุนทรียภาพทางปัญญาที่หาได้ยาก สมเด็จเจ้าฟ้าฯได้รับราชการสนองพระเดชพระคุณในตำแหน่งต่างๆ เช่น เสนาบดีกระทรงโยธาธิการ เสนาบดีกระทรวงการคลัง เสนาบดีกระทรวงกลาโหม ผู้บัญชาการกรมยุทธนาธิการ ผู้บัญชาการทหารเรือ พระองค์ทรงประชวรด้วยโรคพระหทัยโต
สมเด็จฯเจ้าฟ้านริศรานุวัดติวงศ์
ขณะที่ยังทรงรับราชการในตำแหน่งเสนาบดีกระทรวงวัง จึงได้กราบถวายบังคมลาออกจากราชการ แต่พระองค์ก็ยังคงรับราชการส่วนพระองค์ในพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวโดยทรงออกแบบงานต่างๆตามพระราชประสงค์ เช่น พระโกศ พระบรมอัฐิ และพระวิมานทองคำลงยาราชาวดี สำหรับประดิษฐาน พระบรมอัฐิพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เป็นต้น
ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว พระองค์ทรงใช้เวลาส่วนใหญ่กับงานศิลปะและวิทยาการจนพระชราและสิ้นพระชนม์เมื่อวันที่ 10 มีนาคม พ.ศ.2490มีพระชันษาได้ 83 ปี สำหรับสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพนั้น ทรงรับราชการเป็นเสนาบดีกระทรวงศึกษาธิการและกระทรวงมหาดไทย สนองพระพระราชกิจจนชราภาพจึงกราบถวายบังคมลาออกจากตำแหน่งเสนาบดีกระทรวงมหาดไทยในปี พ.ศ. 2458 พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ทรงเป็นเสนาบดีที่ปรึกษา ภายหลังเหตุการณ์การเปลี่ยนแปลงการปกครอง พ.ศ. 2475ทรงประทับอยู่ ณ เกาะปีนังต่อมาได้เริ่มประชวรด้วยโรคพระหทัยพิการมาตั้งแต่เดือนธันวาคม พ.ศ. 2484 จึงเสด็จกลับมารักษาในประเทศไทย สิ้นพระชนม์เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2486 รวมพระชันษา 81 ปี ตลอดพระชนม์ชีพนั้นพระองค์ทรงงานนิพนธ์ไว้มากมายหลายประเภท ได้แก่พงศาวดาร 134 เรื่อง,โคลงกลอน 92 เรื่อง,ศาสนา 79 เรื่อง,อธิบายแทรก 19 เรื่อง,ประวัติ 160 เรื่อง,ตำนาน 130 เรื่องและบทความในนิตยสารสยามสมาคม 10 เรื่อง,โดยเฉพาะเอกสารชุดสาส์นสมเด็จ นั้นเป็นงานรวบรวมพระหัตถเลขาส่วนพระองค์ของสองสมเด็จ ที่ทรงมีไป-มาระหว่างกัน เพื่อแลกเปลี่ยนความรู้ความคิด จากเรื่องราวและข้อมูลในลักษณะรอบรู้ หลากหลายด้วยอัจฉริยภาพที่เป็นสหวิทยาการที่มีคุณค่ายิ่งในการเรียนรู้เรื่องประวัติศาสตร์ศิลปวัฒนธรรมและวิทยาการอื่นๆนับเป็นเอกสารสำคัญของแผ่นดินที่ใช้อ้างอิงมาจนทุกวันนี้ สนใจคอยติดตามนิทรรศการ ณ พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติ ที่รอวันเปิดให้ชมเรื่องนี้ต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี