เหตุการณ์ที่จอร์จ ฟลอยด์ ชายอเมริกันผิวสี ต้องตายเพราะถูกตำรวจเมืองมินนิอาโปลิส ใช้เข่ากดเข้าที่ท้ายทอยด้านหลัง บริเวณคอนานเกือบ 9 นาที จนเขาร้องหายใจไม่ออกและเรียกหาแม่อยู่นาน ก่อนขาดใจตายเมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม เพียงเพราะใช้เงินดอลลาร์ปลอมซื้อของ กลายเป็นกระแสประท้วงต่อต้านการกระทำรุนแรงเกินกว่าเหตุของตำรวจไปทั่วสหรัฐและยุโรป รวมถึงหลายประเทศทั่วโลก
แต่ที่เป็นเทรนด์ใหม่แบบรวดเร็ว คือการที่ผู้ประท้วงแห่กันไปโค่นและรื้อทำลายบรรดารูปปั้น อนุสาวรีย์ และอนุสรณ์สถานของบรรดาบุคคลสำคัญในอดีต ทั้งในสหรัฐและอังกฤษ ที่ผู้ประท้วงเชื่อว่าเกี่ยวข้องกับการล่าอาณานิคม ค้าทาสและจักรวรรดินิยม โดยเฉพาะในสหรัฐ ที่ในสัปดาห์ที่ผ่านมา รูปปั้นของทั้งคริสโตเฟอร์ โคลัมบัส นักสำรวจที่ทำให้เกิดการติดต่อระหว่างโลกเก่า กับโลกใหม่ ในช่วงการล่าอาณานิคมของยุโรป และอนุสาวรีย์เจฟเฟอร์สันเดวิส ประธานาธิบดีของสมาพันธรัฐอเมริกา ถูกโค่นทำลายทิ้งอย่างน่าเศร้าจุดประกายการถกเถียงกันเรื่องของอนุสรณ์สถานทางประวัติศาสตร์ และการเคลื่อนไหวเรื่องยกเลิกการใช้ธงสมาพันธรัฐอีกครั้ง
ที่ผ่านมา บรรดานักเคลื่อนไหวเชื้อสายชนเผ่าดั้งเดิมของอเมริกาได้ต่อต้านการยกย่องโคลัมบัส เพราะพวกเขามองว่าการสำรวจของโคลัมบัสทำให้อเมริกาตกอยู่ภายใต้อาณานิคมและเกิดการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์บรรพบุรุษของพวกเขา ขณะที่สมาพันธรัฐอเมริกา ถูกมองว่าสนับสนุนการค้าทาสและเหยียดผิว
เรื่องราวมันเป็นมาอย่างไรกัน
Confederate States of America หรือ สมาพันธรัฐอเมริกา คือการรวมตัวของรัฐฝั่งใต้ 7 รัฐ ประกอบด้วย รัฐเซาท์แคโรไลนา มิสซิสซิปปี ฟลอริดา อลาบามา จอร์เจีย ลุยเซียนา เท็กซัส ที่แยกตัวออกมาสถาปนารัฐบาลในปี 1861 ในช่วงที่ อับราฮัม ลินคอล์น ชนะการเลือกตั้ง กำลังเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีของสหรัฐ รัฐฝั่งใต้ต้องการแยกเป็นอิสระจากฝั่งเหนือและไม่ต้องการเลิกทาส เพราะฝ่ายใต้พึ่งพาแรงงานทาสชาวผิวดำในการทำการเกษตรมาก ขณะที่ลินคอล์นปฏิเสธการแยกตัวของรัฐฝั่งใต้และไม่สนับสนุนการค้าทาส จึงนำไปสู่สงครามกลางเมืองอเมริกายืดเยื้อหลายปี จนกระทั่งฝ่ายสมาพันธรัฐเริ่มพ่ายแพ้และล่มสลายในที่สุด
ปัจจุบัน คนในรัฐทางใต้มองว่าสัญลักษณ์ต่างๆของ Confederate เช่น ธงประจำรัฐที่มีสัญลักษณ์สมาพันธรัฐ หรือรูปปั้นต่างๆ ตามอาคารสถานที่ทางการ ถือเป็นหลักฐานทางประวัติศาสตร์ และเป็นการแสดงความเคารพต่อบรรพบุรุษและวีรบุรุษที่สละชีพในช่วงสงครามกลางเมือง แต่ขณะเดียวกัน ก็มีคนบางส่วนมองว่ามรดกเหล่านี้แสดงถึงการสนับสนุนการค้าทาส และการเหยียดสีผิวด้วย เพราะกลุ่มคนเหยียดผิวมักนำไปใช้เป็นสัญลักษณ์ในการเคลื่อนไหว เมื่อมีการประท้วงต่อต้านการเหยียดผิวในขณะนี้ จึงทำให้ผู้ประท้วงได้พากันโค่นรูปปั้นต่างๆ ที่เป็นสัญลักษณ์ของสมาพันธรัฐ และเรียกร้องให้มีการปลดธงสมาพันธรัฐตามสถานที่ราชการ โดยอ้างว่าสถานที่ราชการควรช่วยส่งเสริมความเป็นอันหนึ่งใจเดียวกัน มากกว่าการชูธงที่มีความหมายนัยแฝงถึงการเหยียดผิว
ขณะที่นางแนนซี เปโลซีประธานสภาผู้แทนสหรัฐ ได้ส่งจดหมายถึงคณะกรรมาธิการร่วมสองสภาที่ดูแล National Statuary Hall ในอาคารรัฐสภาสหรัฐ ให้นำรูปปั้นทหารสมาพันธรัฐ 11 ชิ้นออกไปโดยเธอกล่าวว่า ในอาคารรัฐสภาซึ่งเป็นศูนย์กลางของประชาธิปไตยของประเทศ ควรมีแต่รูปปั้นที่สะท้อนถึงค่านิยมที่ดีของอเมริกา ไม่ใช่รูปปั้นชายกำยำที่เกี่ยวข้องกับความโหดร้ายและป่าเถื่อน หากต้องการให้ปัญหาการเหยียดผิวยุติไป นอกจากนี้ ยังมีการเสนอให้เปลี่ยนชื่อฐานทัพสหรัฐราว 10 แห่ง ที่ตั้งชื่อตามนายพลกองทัพสมาพันธรัฐ เช่น Fort Bragg ใน North Carolina หนึ่งในฐานทัพที่ใหญ่สุดของสหรัฐฯ และ ฐานทัพ Fort Hood ในเท็กซัส เพื่อเป็นหนึ่งในวิธีสร้างความปรองดองทางชาติพันธุ์ในสังคม
แต่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ยืนยันผ่านทวิตเตอร์ว่า จะไม่มีการเปลี่ยนชื่อฐานเปลี่ยนชื่อฐานทัพแน่นอน เพราะฐานทัพที่ยิงใหญ่เหล่านี้เป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์อเมริกาซึ่งนำไปสู่ชัยชนะ และเสรีภาพ รัฐบาลของเขาไม่เคยคิดแม้แต่จะเปลี่ยนชื่อเลย
ดูเหมือนว่าความขัดแย้งในเรื่องนี้ ก็จะยังคงดำเนินต่อไป....
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี