พระไภษัชยคุรุในกรุงเทพฯ
ยามที่ผู้คนในบ้านเมืองเกิดโรคภัยไข้เจ็บนั้นนอกจากการเยียวยารักษาตนแล้ว การสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์เพื่อให้อยู่รอดปลอดภัยจากโรคระบาดได้นั้น ก็คือ การกราบไหว้ขออำนาจจากคุณพระได้ช่วยเหลือ ในสมัยโบราณนั้นทุกคนนับถือ “พระไภษัชยคุรุ” เป็นสิ่งเคารพต่อกันมาช้านานพระพุทธรูปนี้มีนาม พระไภษัชยคุรุไวฑูรยประภาตถาคต เป็นพระพุทธเจ้าที่พบในนิกายพุทธมหายาน ไม่พบในพุทธเถรวาท พระนามนี้หมายถึงพระตถาคตเจ้าผู้เป็นบรมครูแห่งยารักษาโรค ผู้มีรัศมีสีน้ำเงินดังไพลินนอกจากนี้ ยังมีพระนามอื่นๆ อีกเช่น พระไภษัชยคุรุตถาคต พระมหาแพทย์ราชาพุทธเจ้า พระมหาไภษัชยราชพุทธเจ้า เป็นที่นิยมนับถือในหมู่ชาวจีนและชาวทิเบต แล้วได้แผ่ความเคารพนับถือตามกันไปในประเทศต่างๆ ของทวีปเอเชีย รวมทั้งแผ่นดินสยามพระพุทธเจ้าในความเชื่อของชาวจีน ได้สร้างรูปของพระองค์อยู่ในท่านั่งสมาธิ มีรัตนเจดีย์วางบนพระหัตถ์ บ้างถือกระปุกยา ส่วนพระพุทธเจ้าในความเชื่อของชาวทิเบต ได้สร้างรูปของพระองค์มีกายสีน้ำเงินเข้มนั่งขัดสมาธิ พระหัตถ์ขวาถือยาสมุนไพร จีนนิยมทำเป็นเห็ดหลินจือ พระหัตถ์ซ้ายถือบาตรวางบนพระเพลา พระไภษัชยคุรุฯ นี้ถือกันว่าเป็นพระพุทธเจ้าที่สามารถรักษาโรคทางกายและโรคทางกรรมของสัตว์โลกทั้งปวง ในพระสูตรที่กล่าวถึงพระไภษัชยคุรุพุทธเจ้าโดยเฉพาะพระองค์เดียวนั้น คือ ไภษัชยคุรุไวฑูรยประภาตถาคตปูรวปณิธานสูตร เดิมนั้นเขียนเป็นภาษาสันสกฤต ต่อมาแปลเป็นภาษาจีนโดยพระถังซำจั๋งหรือพระสมณะเสวียนจั้ง พระเถระสมัยราชวงศ์ถังของจีน และไภษัชยคุรุไวฑูรยประภาสัปตพุทธปูรวปณิธานวิเศษสูตร ซึ่งแปลเป็นภาษาจีนโดยพระสมณะอี้จิง พระเถระสมัยถังของจีน ซึ่งได้กล่าวถึงพระพุทธเจ้า ๗ พระองค์ โดยให้พระไภษัชยคุรุพุทธเจ้านั้นเป็นพระพุทธเจ้าองค์ที่ ๗ ซึ่งได้กล่าวถึงปณิธานอันวิเศษของพระไภษัชยคุรุพุทธเจ้าไว้ ๑๒ ข้อ คือ
พระไภษัชคุรุ-ราชวงศ์ชิง Qing Dynasty Buddha of healing
๑.ช่วยให้สรรพสัตว์บรรลุโพธิญาณโดยเร็ว ๒.ช่วยให้สรรพสัตว์ตื่นจากความโง่เขลา ๓.ช่วยให้สรรพสัตว์ถึงพร้อมด้วยของใช้ทั้งปวง ๔.ช่วยให้สรรพสัตว์หันมานับถือมหายานธรรม มุ่งสู่ความเป็นพระพุทธเจ้า ๕.ช่วยให้สรรพสัตว์มีศีลบริสุทธิ์ ๖.ช่วยให้สรรพสัตว์มีกายสมบูรณ์ ๗.ช่วยให้สรรพสัตว์พ้นจากความยากจน ๘.ช่วยให้สตรีได้เป็นบุรุษตามปรารถนา ๙.ช่วยให้สรรพสัตว์พ้นจากอุบายของมาร ๑๐.ช่วยให้สรรพสัตว์พ้นจากโทษทัณฑ์ทางอาญา ๑๑.ช่วยให้สรรพสัตว์พ้นจากการทำชั่วเพื่อเลี้ยงชีพ และ ๑๒.ช่วยให้สรรพสัตว์พบกับความสมบูรณ์ทั้งสิ้น
ด้วยเหตุนี้พระไภษัชยคุรุฯ จึงเป็นที่เคารพนับถืออย่างแพร่หลายในหมู่ชาวพุทธมหายานแต่ไม่มีนิกายเป็นของตนเองอย่างพระอมิตาภะพุทธะ แต่พระองค์ทรงมีแดนศุทธิไวฑูรย์เหมือนกับแดนสุขาวดีของพระอมิตาภะ นอกจากนี้ในคัมภีร์ไภษัชยคุรุไวฑูรยประภาสัปตพุทธปูรวปณิธานสูตร ยังได้กล่าวว่าพระองค์ทรงเป็นหนึ่งในพระไภษัชยคุรุพุทธเจ้าทั้ง ๗ และมีพระโพธิสัตว์เป็นสาวก ๒ องค์ คือพระสุริยประภาโพธิสัตว์ และพระจันทรประภาโพธิสัตว์ ในช่วงการเข้าพรรษาตั้งแต่วันที่ ๑ กรกฎาคม ถึงวันที่ ๒ ตุลาคม ๒๕๖๓ กรมศิลปากรโดยพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติทั่วประเทศ ๒๒ แห่งได้ร่วมกันอัญเชิญพระไภษัชยคุรุ ที่เก็บรักษานั้นออกมาให้ประชาชนได้ “สักการะพระไภษัชยคุรุพระพุทธเจ้าบรมครูแห่งโอสถ” เพื่อคุ้มครองรักษาให้ทุกคนนั้นได้พ้นความทุกข์ที่เกิดขึ้นจากวิกฤติการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 หรือโควิด-19 พร้อมกับเรื่องราวของพระไภษัชยคุรุ ที่เป็นความเชื่อ ลักษณะทางประติมานวิทยา และประติมากรรมตามศิลปกรรมต่างๆ สำหรับกรุงเทพมหานครนั้นได้อัญเชิญพระไภษัชยคุรุ ๖ องค์ ให้สักการบูชา ณ พระที่นั่งพุทไธสวรรย์ ในวันพุธ-อาทิตย์ ในเวลาราชการ ด้วยความเป็นมงคลแห่ง ๑๒ ประการของพระสำคัญองค์นี้ สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาปวเรศวริยาลงกรณ์ จึงโปรดให้พระยาเวียงในนฤบาล สร้างพระกริ่งปวเรศขึ้นโดยมีลักษณะคล้ายคลึงกับพระไภษัชยคุรุพระพุทธเจ้า ซึ่งเป็นพระกริ่งสำคัญหนึ่งเดียวแห่งกรุงรัตนโกสินทร์ที่ได้รับความนิยมจนทุกวันนี้
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี