พระแก้วมรกต
พระแก้วมรกตหรือพระพุทธมณีรัตนปฏิมากร พระพุทธรูปสำคัญของล้านนา-ต่อมาสมัยอยุธยาได้อัญเชิญมาประดิษฐานที่ล้านช้างโดยพระเจ้าไชยเชษฐาธิราชที่ ๑ หลังสุดเมื่อครั้งอัญเชิญกลับคืนสยามประเทศในสมัยกรุงธนบุรีนั้นได้มีการสร้างวัดพระแก้วเดิมขึ้นเพื่ออัญเชิญประดิษฐานชั่วคราว ณ ค่ายพานพร้าว ค่ายนี้ตั้งอยู่ที่อำเภอศรีเชียงใหม่ จังหวัดหนองคาย ปัจจุบันคือบริเวณของหน่วยเรือรักษาความสงบตามลำแม่น้ำโขงเขตหนองคาย ซึ่งเป็นที่ตั้งของวัดพระแก้วเดิมนี้ที่ถูกทิ้งร้างไปพร้อมกับเรื่องราวที่รู้เพียงว่าเมืองพานพร้าว หรือ “ค่ายพานพร้าว” แห่งนี้เป็นเมืองคู่แฝดกับเมืองเวียงจันทน์ เมื่อปลายสมัยกรุงธนบุรีนั้นได้ถูกใช้ตั้งเป็นค่ายทหารที่มั่นชั่วคราวของกองทัพสยามเพื่อที่จะข้ามไปตีเอาเมืองเวียงจันทน์ ภายหลังเมื่อยกกำลังเข้าตีเอาเวียงจันทน์ได้แล้วเมื่อ พ.ศ.๒๓๒๑ เจ้าพระยาจักรี (ทองด้วง) แม่ทัพได้อัญเชิญพระแก้วมรกตและพระบางจากเมืองเวียงจันทน์นั้นมาประดิษฐานไว้ที่ค่ายพานพร้าว โดยสร้างหอพระแก้วชั่วคราว เพื่อรอการจัดพิธีอัญเชิญกลับไปยังกรุงธนบุรี ส่วนชาวเวียงจันทน์ที่กวาดต้อนมานั้นได้ให้ตั้งบ้านเรือนอยู่ที่เมืองพานพร้าว เมืองปะโค และเมืองเวียงคุกต่อจากนั้นประมาณ ๓ เดือน จึงได้จัดพิธีอัญเชิญพระแก้วมรกตและพระบางพร้อมทั้งได้นำเชื้อพระวงศ์เวียงจันทน์ ข้าราชการ กรมการเมือง รวมทั้งราษฎรชาวเวียงจันทน์ที่เหลือลงไปยังกรุงธนบุรีเมื่อ พ.ศ.๒๓๒๒
เจ้าจอมแว่น-ชายา
ครั้งนั้นเจ้าพระยาจักรี (ทองด้วง) แม่ทัพได้พานางคำแว่น นางกำนัลของพระอัครมเหสีในพระเจ้าสิริบุญสารมาเป็นชายาและพาไปยังกรุงธนบุรีด้วย ต่อมาเมื่อเจ้าพระยาจักรี (ทองด้วง) ได้ปราบดาภิเษกเป็นพระปฐมกษัตริย์ราชวงศ์จักรี เมื่อ พ.ศ.๒๓๒๕ นางคำแว่น ชายานั้นได้รับแต่งตั้งเป็น “เจ้าจอมแว่น” เป็นพระสนมเอกรับใช้ใกล้ชิดเบื้องพระยุคลบาทในพระเจ้าแผ่นดินต้นคือรัชกาลที่ ๑ เจ้าคุณจอมแว่น ผู้นี้เดิมเป็นชาวเวียงจันทน์ เกิดที่เมืองพานพร้าว คือศรีเชียงใหม่ ชาวเวียงจันทน์นิยมออกนามท่านว่า เจ้านางเขียวค้อม ชาวพานพร้าวเชื่อว่าเจ้าจอมแว่นเป็นหญิงเมืองพานพร้าวที่งามพร้อมทุกสิ่ง สมเป็นกุลสตรี และเจ้าจอมแว่นผู้นี้ทำให้กองทัพสยามไม่ทำลายเมืองเวียงจันทน์ จึงมีการเรียกศึกครั้งนี้ว่า “ศึกนางเขียวค้อม”ในตำนานเมืองขอนแก่นได้กล่าวถึงเรื่องราวของเจ้าคุณจอมแว่นไว้ว่า เจ้าคุณจอมแว่น เดิมนามว่า อัญญานางคำแว่น เป็นธิดาของพระนครศรีบริรักษ์บรมราชภักดีศรีศุภสุนทร (ศักดิ์ เสนอพระ) เจ้าเมืองขอนแก่นคนแรก และด้วยเจ้าคุณจอมแว่น มีศักดิ์เป็นปนัดดาในพระเจ้าไชยเชษฐาธิราชที่ ๓ คือ สมเด็จพระเจ้าสิริบุญสาร แห่งนครเวียงจันทน์ ซึ่งเป็นพระราชบิดาของเจ้าอนุวงศ์ เดิมเจ้าคุณจอมแว่นอาศัยอยู่กับบิดาที่นครเวียงจันทน์ ครั้งบิดาทำราชการเป็น เพียเมืองแพน (เพีย-เป็นตำแหน่งพญา)กรมการเมือง ต่อมาบิดาได้เป็นเจ้าเมืองรัตนนครซึ่งเชื่อกันว่า เจ้าคุณจอมแว่นเป็นผู้อยู่เบื้องหลังในการทูลขอพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ตั้งเมืองขอนแก่นหรือเมืองขามแก่นให้บิดาเป็นเจ้าเมือง เจ้าคุณจอมแว่น จึงเป็นพระสนมเอกคนโปรดในพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช รัชกาลที่ ๑และรับใช้เบื้องพระยุคลบาทอย่างใกล้ชิด อีกทั้งยังมีหน้าที่อภิบาลพระเจ้าลูกเธอที่ยังทรงพระเยาว์อย่างเข้มงวด จนได้รับฉายาว่า “คุณเสือ” อีกชื่อหนึ่งภายหลังเจ้าคุณได้กำกับดูแลงานฝ่ายในทั้งหมดถือเป็น เจ้าคุณข้างใน คนแรก ด้วยมีความชอบจากการที่นางตัดสินใจกัดนิ้วพระบาททำให้พระองค์รู้สึกพระองค์จากอาการละเมอ เมื่อเจ้าคุณจอมแว่นถึงแก่กรรมลงได้มีสร้างเจดีย์บรรจุพระอัฐิเป็นอนุสรณ์ไว้ที่วัดนางเขียวค้อม บริเวณบ้านหัวทราย อำเภอศรีเชียงใหม่ ไว้เป็นที่เคารพสักการะของชาวพานพร้าวหรือศรีเชียงใหม่ จนถึงทุกวันนี้ แต่ความจารึกวัดหอพระแก้วที่พบบนฐานวิหารแห่งนี้ กลับระบุว่าเจ้าอนุวงศ์กษัตริย์เวียงจันทน์ได้สร้างวัดหอพระแก้วและถวายสิ่งของผู้คนไว้แก่วัด ในช่วง พ.ศ.๒๓๕๓-๒๓๕๕ และเป็นโบราณสถานที่เคยเป็นวัดประดิษฐานพระแก้วมรกตเมื่อแรกกลับคืนสยาม
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี