กว่า 3 ทศวรรษที่ผ่านมา การติดเชื้อเอชไอวีนับว่าเป็นปัญหาทางสาธารณสุขที่สำคัญและส่งผลกระทบต่อสังคมและเศรษฐกิจโดยรวมในทุกประเทศทั่วโลก วันที่ 1 ธันวาคมของทุกปี ถูกกำหนดให้เป็นวันเอดส์โลก (World AIDS Day) จากรายงานของโครงการเอดส์แห่งสหประชาชาติ (UNAIDS) พบว่า ในปี 2562 มีผู้ติดเชื้อเอชไอวีทั่วโลกสะสม 38 ล้านคนเป็นผู้ติดเชื้อเอชไอวีรายใหม่ 1.7 ล้านคน และมีผู้เสียชีวิตเนื่องจากเอดส์ 690,000 คน
เมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน 2563 ศูนย์วิจัยโรคเอดส์ สภากาชาดไทย จัดงานแถลงข่าวกิจกรรมงานเทียนส่องใจเนื่องในวันเอดส์โลก ประจำปี 2563โดยมี ผศ.พญ.ยุวรีย์ พิชิตโชค ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยโรคเอดส์ สภากาชาดไทย, นพ.ปรีชา เปรมปรีรองอธิบดีกรมควบคุมโรค, สายสม วงศาสุลักษณ์ ประธานกรรมการฝ่ายหารายได้ศูนย์วิจัยโรคเอดส์,ปุยเมฆ-นภสร วีระยุทธวิไล และ แพทริค-ณัฐวรรธ์ ฟิงค์เลอร์ ศิลปินดารา บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) ร่วมงาน ณ ห้องประชุม 7A ชั้น 7 ศูนย์วิจัยโรคเอดส์ สภากาชาดไทย
นพ.ปรีชา เปรมปรี รองอธิบดีกรมควบคุมโรคกล่าวว่า “ตามที่ประเทศไทยได้แสดงเจตนารมณ์อย่างมุ่งมั่นที่จะยุติปัญหาเอดส์ภายในปี 2573 โดยการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์แห่งชาติว่าด้วยการยุติปัญหาเอดส์ พ.ศ.2560-2573 มีเป้าหมายหลัก 3 ประการ คือ 1.ลดจำนวนผู้ติดเชื้อเอชไอวีรายใหม่ ให้เหลือปีละไม่เกิน 1,000 ราย 2.ลดการเสียชีวิตในผู้ติดเชื้อเอชไอวีเหลือปีละไม่เกิน 4,000 รายและ 3.ลดการรังเกียจและการเลือกปฏิบัติอันเกี่ยวเนื่องจากเอชไอวีและเพศภาวะลงจากเดิมร้อยละ 90 โดยการดำเนินงานเพื่อลดการรังเกียจและการเลือกปฏิบัติที่เกี่ยวเนื่องกับเอชไอวีและเพศภาวะ ยังเป็นความท้าทายในการดำเนินงานของภาพประเทศ โดยเฉพาะในกลุ่มประชากรหลัก”
ผลการสำรวจสุขภาพประชาชนในปี 2558 พบว่า ประชาชนมีทัศนคติในการเลือกปฏิบัติต่อผู้อยู่ร่วมกับเชื้อเอชไอวีสูงถึงร้อยละ 58.6 และการสำรวจจากกลุ่มประชากรทั่วไป ผลการสำรวจการตีตราและเลือกปฏิบัติในสถานบริการสุขภาพในผู้ให้บริการและผู้รับบริการ พ.ศ.2560 พบว่าผู้ติดเชื้อมีการตีตราตนเองเพิ่มสูงขึ้นร้อยละ 34.9 เคยถูกเลือกปฏิบัติระหว่างรับบริการสุขภาพ ร้อยละ 11.1 เคยถูกเปิดเผยสถานะและความลับเกี่ยวกับการติดเชื้อเอชไอวี ร้อยละ 10.2 และเคยถูกแนะนำให้ยุติการตั้งครรภ์เนื่องจากมีเชื้อเอชไอวี ร้อยละ 2.1 สิ่งเหล่านี้ส่งผลให้ผู้รับบริการเคยตัดสินใจไม่ไปรับบริการที่สถานบริการสุขภาพ ร้อยละ 34.9
นอกจากนี้ ผศ.พญ.ยุวรีย์ พิชิตโชคผู้อำนวยการศูนย์วิจัยโรคเอดส์ สภากาชาดไทย กล่าวว่า “วันที่ 1 ธันวาคม โครงการเอดส์แห่งสหประชาชาติได้กำหนดให้เป็นวันเอดส์โลกซึ่งสภากาชาดไทยได้รับนโยบายนี้มาตั้งแต่ต้นโดยจัดกิจกรรมในวันที่ 1 ธันวาคมเป็นประจำทุกปี นับถึงปัจจุบันเป็นเวลา 30 ปีแล้ว ในปี 2563 นี้ สภากาชาดไทย กระทรวงสาธารณสุข ภาคีเครือข่ายภาครัฐและเอกชน ภาคประชาสังคมที่ทำงานด้านเอดส์ ร่วมกันจัดงานเทียนส่องใจขึ้น โดยมีวัตถุประสงค์ที่ต้องการสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องในเรื่องโรคเอดส์ รวมทั้งกระตุ้นเตือนให้ประชาชนมีความตระหนักถึงปัญหาเอดส์ และให้ความสำคัญในการร่วมมือ ป้องกัน แก้ไขปัญหา รวมถึงการไม่เลือกปฏิบัติ และลดการตีตรา ลดการรังเกียจกีดกันผู้ติดเชื้อด้วย”
ปี 2563 สภากาชาดไทยมีการกำหนดแนวคิดการรณรงค์เนื่องในวันเอดส์โลกว่า “เอดส์ อยู่ร่วมกันได้ ไม่ตีตรา” สอดรับกับคำขวัญของ UNAIDS หรือโครงการเอดส์แห่งสหประชาชาติว่า “Global solidarity, shared responsibility”ซึ่งหมายความว่า “การสมัครสมาน รวมพลังร่วมรับผิดชอบ” กิจกรรมสำคัญปีนี้ สภากาชาดไทยและภาคีเครือข่ายได้รับพระกรุณาธิคุณจากพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี กรมหมื่นสุทธนารีนาถ โปรดให้ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา เสด็จแทนพระองค์ทรงเปิดงานเทียนส่องใจ ประจำปี 2563 ในวันที่ 1 ธันวาคม 2563 ณ ห้องอเนกประสงค์ ชั้น 13 อาคารภูมิสิริมังคลานุสรณ์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย
ทั้งนี้ เชิญชวนประชาชนรับชมการเสวนา พูดคุยกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและเหล่าดาราศิลปินในหัวข้อ “เอดส์ อยู่ร่วมกันได้ ไม่ตีตรา” ในวันที่ 25 พฤศจิกายน 2563 เวลา 13.30 น. ทาง Facebook Live เพจ The Thai Red Cross Society สอบถามเพิ่มเติมโทร.1664
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี