การสืบพุทธศาสนาในลังกา
อาทิตย์นี้ได้ติดตาม “โครงการเอกสารโบราณสู่การเข้าใจข้ามวัฒนธรรม” ของ ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน) หรือ ศมส.ที่ได้คัดเลือกเอกสารโบราณเกี่ยวกับ “เอเชียอาคเนย์”จากแหล่งที่มาจากหลากหลายชนชาติและภาษานั้นมาศึกษาแปลความจากภาษาต้นฉบับ โดยมุ่งหวังการขยายพรมแดนความรู้ให้วงวิชาการไทยและสาธารณะ มีแหล่งข้อมูลอ้างอิงเอกสารต่างชาติแปลไทยที่สะดวก และเป็นมิตรกับผู้ใช้ในการต่อยอดความรู้ต่อไป โดยเฉพาะเรื่องการล่องนาวาแบบเจ็ดย่านน้ำข้ามมหาสมุทรเพื่อสืบเสาะหาทรัพยากรจากดินแดนต่างๆ นั้น มีเรือสินค้าสมัยโบราณที่แล่นผ่านทะเล เกาะแก่ง ป่าเขา จนพบกลุ่มชาติพันธุ์พื้นเมืองนั้นมักมีการบันทึกของนักเดินเรือหรือจดหมายที่มีการเขียนติดต่อกันของพ่อค้าและผู้เดินทาง ซึ่งก็มีอยู่ไม่มากนักที่ได้อ่านได้ศึกษากัน จนมีการรับรู้ถึงเส้นทางสายไหม เส้นทางเครื่องเทศ เส้นทางเครื่องเคลือบ ที่มีการเรียกกันนั้น จึงเป็นเรื่องน่าสนใจที่ทำให้พบแหล่งที่เป็นภูมิบ้านภูมิเมืองโบราณที่มีท่าเรืออยู่หลายแห่งตามเส้นทางเดินเรือแต่ละครั้ง โดยเฉพาะด้านโบราณคดี-ประวัติศาสตร์ ที่มีการพบ แหล่งเรือจมเบลิตุง ในอินโดนีเซีย หรือ แหล่งเรือโบราณพนมสุรินทร์ ที่ ต.พันท้ายนรสิงห์ จ.สมุทรสาคร นั้น ทำให้รู้ว่าเรือสินค้าอาหรับในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ ๙ นั้นได้มีความสำคัญต่อการศึกษาเส้นทางการค้ายุคโบราณและการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมระหว่างภูมิภาคขึ้น จึงเป็นที่มาของการถอดบทเรียนจากเอกสารภาษาอาหรับ ที่ต้องชื่นชมกับการทำงานของคุณสุนิติ จุฑามาศ นักวิชาการของ ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร ที่ได้นำเรื่องที่ไม่เคยมีใครศึกษามาก่อนและถอดบทเรียนถ่ายทอดเรื่องราวให้รู้กันในวันที่๒๓ กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา โดยนำเรื่อง ตำรามหัศจรรย์แห่งอินเดีย หรือ กิตาบอะญาอิบ อัลฮินด์ (The Book of the Marvels of India) ซึ่งเป็นวรรณกรรมของอาหรับ ในช่วงราวปลายคริสต์ศตวรรษที่ ๑๐ ประพันธ์โดย บุซูร์ก บุตรของชะฮ์ริยาร พ่อค้าวาณิชเปอร์เซีย ในเมืองท่าซีรอฟ ปัจจุบันอยู่ในอิหร่าน ข้อมูลบันทึกจากปากคำพ่อค้านักเดินเรือร่วมสมัยนั้น ได้นำมาร้อยเรียงเป็นวรรณกรรมแนวผจญภัยที่ตื่นเต้น และสอดแทรกความรู้จากเรื่องจริงให้น่าสนใจมากขึ้น
ค้นชื่อสถานที่จากตำราฯ
เรื่องนี้ถูกเขียนขึ้นในวันเวลาที่อ่าวเปอร์เซีย นั้นเป็นเมืองท่าเรือใหญ่ที่มีฐานะเป็นประตูเปิดการเดินทางไปสู่เมืองจีน ที่นำความมั่งคั่งจากโลกตะวันออกนั้นมาสู่โลกตะวันตก ก่อนที่จะมีชาวยุโรปเข้ามาซึ่งมีระยะเวลาว่าครึ่งสหัสวรรษ อีกทั้งยังเป็นแรงบันดาลใจที่ทำให้มีวรรณกรรมก้องโลกเกิดขึ้น ที่ทุกครู้จักกันดี คือ “ซินด์บาด ยอดกะลาสี” (Sindbadthe Sailor) จริงอยู่แม้ว่าตำราเล่มนี้จะเป็นวรรณกรรมบันเทิง และมีเรื่องราวจากมโนคติสร้างฝันเมื่อสืบค้นทางภูมิศาสตร์และเหตุการณ์แล้วก็สะท้อนข้อเท็จจริงจากประสบการณ์ของพ่อค้านักเดินเรือที่เดินทางไปยังดินแดนต่างๆ ให้เห็นภาพชัดเจนขึ้น ซึ่งต้องยอมรับว่า “ตำรามหัศจรรย์แห่งอินเดีย” เรื่องนี้ เป็นเอกสารสำคัญชิ้นสำคัญชิ้นหนึ่งที่จะช่วยค้นหาร่องรอยวิถีชีวิตและการค้าในยุคโบราณได้อย่างน่าสนใจ นอกจากการสร้างสีสันผจญภัยแล้ว ยังทำให้รู้ถึงอารมณ์ แรงผลักดันในการเดินทางเพื่อแสวงโชคลาภ สินค้าและกลวิธีแลกเปลี่ยน จนถึงการปะทะสังสรรค์ระหว่างกลุ่มชนพื้นเมืองที่ต่างวัฒนธรรม ไปพร้อมกับปรากฏการณ์ธรรมชาติ สิ่งมีชีวิตแปลกประหลาด เทคนิคการเดินเรือ ดาราศาสตร์ ภูมิศาสตร์ เมืองท่า และสถานที่ต่างๆ บุคคลในประวัติศาสตร์กว่า ๑,๐๐๐ ปีมาแล้ว กล่าวคือ ตำรามหัศจรรย์แห่งอินเดีย เล่มนี้จะช่วยสร้างจินตภาพกับเรือโบราณทั้ง สองลำที่โลดแล่นในมหาสมุทรเและติดต่อผู้คนตลอดเส้นทางรอบมหาสมุทรอินเดีย ทะเลแดง แอฟริกาตะวันออกรวมไปถึง “เอเชียอาคเนย์” ที่ชาวอาหรับรู้จักกันในนาม “บิลาด อัษษะฮับ” คือสุวรรณทวีปหรือสุวรรณภูมิได้เห็นชัดเจนยิ่งขึ้น จึงต้องตรวจสอบข้อมูลจริงและมโนคติเกี่ยวกับเอเชียอาคเนย์และสืบค้นวิถีชีวิตชาวเรือ จากบันทึกคำให้การของพ่อค้านักเดินเรืออาหรับ-เปอร์เซียในศตวรรษที่ ๑๐ ให้ปรากฏแม้จะเป็นเพียงเริ่มต้นของการแปลเอกสารภาษาอาหรับเรื่องนี้ก็ทำให้รับรู้เบื้องต้นถึงภูมิบ้านภูมิเมืองตามเส้นทางทะเลชายทะเลที่ต้องใช้เวลาถอดบทเรียนกันต่อไปอีก
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี