พวกเราห่างหายจากการร่วมกันทำทานด้วยการไถ่ชีวิตกระบือและโคมาเกือบสองปีแล้ว นับจากประเทศไทยและโลกใบนี้ถูกเชื้อโควิด-19 เล่นงานอย่างหนัก
การร่วมกันไถ่ชีวิตกระบือและโคครั้งล่าสุดที่พวกเราได้ร่วมกันทำคือเมื่อปลายปี 2562 โดยในครั้งนั้นเราได้ร่วมกันไถ่ชีวิตกระบือและโครวมทั้งสิ้น 37 ชีวิต(ทั้งนี้ยังไม่นับรวมชีวิตน้อยๆ ที่กำลังจะเกิดขึ้นมาในเร็ววันเพราะชีวิตน้อยๆ เหล่านั้นยังอยู่ในท้องของแม่กระบือและแม่โคอีก 9 ตัว)
เมื่อปลายปี 2562 พวกเราได้ร่วมกันไถ่ชีวิตกระบือและโคจากโรงฆ่าสัตว์แห่งหนึ่งจากจังหวัดเชียงราย แล้วนำไปให้นักเรียนโรงเรียนชาวนาที่ได้รับการคัดเลือกแล้ว นำสัตว์ดังกล่าวไปเลี้ยง โดยกระจายให้ครอบครัวต่างๆ 16 ครอบครัว บางครอบครัวได้รับสัตว์ไปช่วยเลี้ยงดูต่อจำนวน 4 ชีวิต บางครอบครัวได้รับไปเลี้ยงดู 1 ชีวิต โดยขึ้นอยู่กับความสามารถในการเลี้ยงดูของแต่ละครอบครัว
ทุกครอบครัวที่ได้กระบือและโคไปเลี้ยงดูต้องทำสัญญาเป็นลายลักษณ์อักษรว่าไม่ฆ่า ไม่ขายต่อ และไม่ทำร้ายโคและกระบือเป็นอันขาด หากผิดสัญญาจะถูกดำเนินคดีตามกฎหมายจนถึงที่สุด สำหรับลูกของโคและกระบือที่ตกออกมานั้น ถือว่าเป็นส่วนควบของแม่โคและแม่กระบือที่พวกเราส่งมอบให้แต่ละครอบครัวนำไปช่วยเลี้ยงดู ซึ่งย้ำว่าเราไม่ได้มอบให้เป็นกรรมสิทธิ์เด็ดขาดของผู้ที่รับไปเลี้ยงดู เพราะผู้ที่ส่งมอบให้มีสิทธิ์เข้าไปตรวจเยี่ยมโคและกระบือได้ทุกเวลา ดังนั้นผู้รับไปเลี้ยงจึงไม่สามารถขายลูกโคและกระบือที่ตกออกมาได้แต่ถ้าผู้รับไปเลี้ยงไม่ประสงค์จะเลี้ยงดูสัตว์ที่ได้รับต่อไปสามารถแจ้งคืนสัตว์ได้ทุกเมื่อ โดยผู้ส่งมอบให้จะหาผู้รับเลี้ยงที่มีความเหมาะสมรายต่อไป นำสัตว์ไปเลี้ยงดู
สำหรับผู้ที่ติดตามคอลัมน์ตะลอนเที่ยว by Mr. Flower มาโดยตลอดจะทราบดีว่าพวกเราได้ร่วมกันไถ่ชีวิตโคและกระบือมาตั้งแต่ปลายปี 2556 จนถึงปัจจุบัน และสามารถไถ่ชีวิตพวกเขาได้แล้วนับร้อยชีวิต และนำโค-กระบือที่ไถ่ชีวิตไปส่งมอบให้เกษตรกรในท้องที่ต่างๆเลี้ยงดู ตัวอย่างเช่น ที่อำเภอเดิมบางนางบวช อำเภอศรีประจันต์จังหวัดสุพรรณบุรี อำเภอพนัสนิคม จังหวัดชลบุรีอำเภอบ้านไผ่ จังหวัดขอนแก่น อำเภอบางเลน จังหวัดนครปฐมและล่าสุดที่อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย
คณะของผู้มอบโคและกระบือติดตามดูความเป็นอยู่ของสัตว์ที่มอบให้ผู้รับเลี้ยงอย่างใกล้ชิด มีการโทรศัพท์ และไลน์พูดคุยไถ่ถามความเป็นอยู่ของทั้งสัตว์และทั้งคนเป็นประจำสม่ำเสมอ จนกลายเป็นกัลยาณมิตรของกันและกัน
และในวันนี้ Mr. Flower ขอนำภาพที่จะทำให้คุณๆ ประทับใจเมื่อได้เห็นโคและกระบือที่ถูกไถ่ชีวิตออกมาจากโรงฆ่าสัตว์เมื่อประมาณ 1 ปีครึ่งที่ผ่านมา วันนี้กับวันวานของพวกเขาแตกต่างกันไกลมาก วันที่เราไปไถ่ชีวิตพวกเขาจากโรงฆ่าสัตว์นั้น พวกเขาทั้งหมดส่งสายตาเสมือนวิงวอนขอให้เราช่วยพาเขาออกจากแดนประหาร จนทำให้พวกเราต้องตัดสินใจไถ่ชีวิตพวกเขาทั้งหมดออกมา แม้ในช่วงนั้นจะติดขัดปัญหาเรื่องเงินที่เตรียมไปสำหรับไถ่ชีวิต แต่สุดท้ายพวกเราก็สามารถไถ่ชีวิตของโค-กระบือออกมาได้ทั้งหมด แม้จะต้องจ่ายเงินไปเป็นจำนวนมาก แต่ทุกคนก็ยินดีและเต็มใจทำ
วันนี้ขอนำภาพที่เชื่อว่าคุณเห็นแล้วจะยิ้มได้ด้วยความชื่นใจคือ ภาพของโคและกระบือจากครอบครัวแก้มและสุขศรี ซึ่งได้รับกระบือไปเลี้ยงดูสองตัว มาบัดนี้
ครอบครัวนี้มีสมาชิกใหม่เพิ่มอีกสองตัว โดยเป็นกระบือเผือกครอบครัวนี้ตั้งชื่อกระบือได้น่ารักมาก คือมีเงิน (กระบือเผือก)บุญหลาย บุญมี (กระบือเผือกเพศเมีย) และนำโชค สำหรับนำโชค (กระบือเผือก) คือสมาชิกรายล่าสุด เพิ่งเกิดได้ประมาณ 3 เดือน
ภาพของกระบือที่มีชีวิตอยู่ในท้องทุ่ง มีน้ำให้เล่นมีโคลนให้นอนแช่ มีหญ้าสด มีฟางแห้งให้กินอย่างอิ่มหนำสำราญคือภาพที่ทำให้คุณๆ ยิ้มได้ ใช่ไหมครับและนี่คือความอิ่มเอมใจร่วมกันของเราทุกคนที่ร่วมกันไถ่ชีวิตของพวกเขาเมื่อหนึ่งปีครึ่งที่ผ่านมา
สำหรับคุณๆ ที่ต้องการร่วมโครงการไถ่ชีวิตโคและกระบือกับหนังสือพิมพ์แนวหน้า โปรดติดต่อสอบถามได้ที่หมายเลข 091-7233615 ส่วนผู้ประสงค์จะรับโค-กระบือไปเลี้ยงดู สามารถติดต่อสอบถามได้จากหมายเลขโทรศัพท์เดียวกัน
งดบริโภคเนื้อสัตว์ เพื่อลดการฆ่าสัตว์ เมตตาธรรมค้ำจุนโลกา
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี