คณะนักวิทยาศาสตร์ในรัสเซียต่างทึ่งกับการค้นพบซากลูกสิงโตถ้ำในไซบีเรีย 2 ตัว คือ ซากลูกสิงโตถ้ำเพศเมีย ชื่อว่า สปาร์ตา บริเวณแม่น้ำ Semyuelyakh ในยาคูเตีย เมื่อปี 2018 และพบซากลูกสิงโตเพศผู้ ชื่อว่า บอริส ในปี 2019 ซากสิงโตทั้ง 2 มีอายุราว 1-2 เดือน เก็บรักษาอยู่ในชั้นดินเยือกแข็ง หรือ Permafrost ในพื้นที่ห่างกันเพียง 15 เมตร แต่พวกมันมีอายุต่างกันนับพันปี โดยลูกสิงโต บอริส น่าจะดำรงชีวิตอยู่เมื่อช่วง 43,448 ปีก่อน แต่ที่น่าสนใจ คือ ซากลูกสิงโตถ้ำ สปาร์ตา อายุกว่า 28,000 ปี ยังคงมีขน อวัยวะภายใน และกระดูกครบถ้วนดี และว่าเป็นเรื่องยากที่จะพบซากสัตว์ดึกดำบรรพ์ในสภาพที่สมบูรณ์เช่นนี้ ทีมวิจัยหวังว่ายังคงมีคราบน้ำนมแม่ของสิงโตสปาร์ตาเหลืออยู่ ซึ่งอาจจะช่วยให้เราเข้าใจถึงอาหารของสิงโตถ้ำในอดีตได้
การค้นพบซากสัตว์ดึกดำบรรพ์ ในแคว้นไซบีเรีย เกิดขึ้นบ่อยครั้งในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาอันเป็นผลมาจากการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศผิดธรรมชาติ ที่ทำให้แผ่นน้ำแข็งในทวีปอาร์กติกละลายลงอย่างรวดเร็วกว่าพื้นที่อื่นๆ ในโลก และชั้นดินเยือกแข็งในพื้นที่ดังกล่าวอุ่นขึ้น
ทั้งนี้ สิงโตถ้ำเป็นสัตว์ที่สูญพันธุ์ไปแล้วหลายพันปี
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี