วันที่ 1 พฤศจิกายน 2564 หลายเมืองของประเทศไทย อาทิ เชียงใหม่(บางอำเภอ เช่น อำเภอเมือง)ชลบุรี (พัทยา) เพชรบุรี (ชะอำ) ประจวบคีรีขันธ์ (หัวหิน)เป็นต้น จะเปิดบ้านเปิดเมืองเพื่อรับนักท่องเที่ยวจากต่างชาติ ซึ่งก็หมายความว่าจะมีความคึกคักและครึกครื้นจากหมู่นักท่องเที่ยวตามมาด้วย
แต่ทว่าความครึกครื้นคึกคักที่ว่านี้คงจะมีบรรยากาศแตกต่างไปจากช่วงก่อนเกิดวิกฤตการณ์โควิด-19 แพร่ระบาดอย่างแน่นอน เพราะทั้งชาวเมืองที่เป็นเจ้าของบ้าน และแขกผู้มาเยือนต่างก็จะต้องระมัดระวังดูแลสุขภาพของกันและกันอย่างที่สุดเนื่องจากการเปิดเมืองนั้นไม่ได้หมายความว่าเปิดแล้วจะปราศจากเชื้อโควิด-19 แต่ก็คงไม่สามารถปิดเมืองได้ตลอดไป เพราะไม่มีเมืองใดสามารถปิดเมืองแล้วดำเนินกิจการด้านธุรกิจให้เจริญรุ่งเรืองได้
เมื่อเราจำเป็นต้องเอาตัวให้รอด (รอดทั้งตัวและรอดทั้งเศรษฐกิจ) ก็จึงต้องอยู่ร่วมกับเชื้อโควิด-19 ให้ได้ และต้องอยู่ให้ได้โดยที่เราไม่ตกเป็นเหยื่อของมัน แต่ไม่ใช่เพียงแค่เราไม่เป็นเหยื่อเท่านั้น เราต้องระวังตัวเองไม่ให้กลายเป็นผู้แพร่กระจายเชื้อไวรัสตัวนี้ไปยังผู้อื่นด้วย ซึ่งนั่นก็หมายความว่า เราทุกคนต้องยกการ์ดสูงเพื่อป้องกันตัวเองและป้องกันคนอื่นๆ ไปพร้อมๆ กัน ซึ่งเรื่องนี้เราทุกคนทำได้ถ้าเราไม่ประมาท และไม่คิดเอาเองว่าเราจะไม่ติดเชื้อโควิด-19 แต่เราต้องคิดตลอดเวลาว่า เราอาจจะติดเชื้อนี้ก็ได้ ดังนั้นเพื่อป้องกันการติดเชื้อ เราจึงต้องสวมหน้ากากอนามัยที่ได้มาตรฐานตลอดเวลาที่อยู่กับผู้อื่น ล้างไม้ล้างมือทุกครั้งเมื่อจับต้องและสัมผัสสิ่งของอื่นๆ แม้กระทั่งโทรศัพท์มือถือของเราเอง เราก็ต้องทำความสะอาดตลอดเวลา แล้วที่สำคัญต้องเว้นระยะห่างทางสังคมระหว่างบุคคลอย่างน้อย1-2 เมตรแต่หากไม่สามารถเว้นระยะห่างได้เช่นนั้นก็ต้องไม่เปิดหน้ากากอนามัยเมื่ออยู่ในระยะใกล้ชิดกับผู้อื่น
เกริ่นเรื่องการดูแลรักษาสุขภาพของตัวเองเพื่อให้พ้นจากเชื้อโควิด-19มานานแล้ว ขอเข้าเรื่องที่จะชวนคุณๆ ไปไหว้สา (ไหว้สาคือคำของชาวเหนือของไทย)กราบพระศักดิ์สิทธิ์ประจำเมืองเชียงใหม่ด้วยกัน โดยจะเริ่มต้นที่วัดพระสิงห์วรวิหารก่อน แล้วตามมาด้วยวัดเจดีย์หลวงวรวิหาร (อันที่จริงมีวัดและพระศักดิ์สิทธิ์อีกหลายสิบแห่งในตัวเมืองเชียงใหม่ ซึ่งวันหน้าจะพาคุณไปไหว้สา)
ถามว่าทำไมต้องไปวัดพระสิงห์เป็นแห่งแรก ก็ขอตอบว่าเพราะต้องการพาคุณไปกราบพระสิงห์ หรือพระพุทธสิหิงค์ (แต่วันที่ไปนั้นทางวัดปิดวิหารพระสิงห์ชั่วคราวเพื่อซ่อมแซม) จึงไม่ได้นำภาพของพระสิงห์มาฝากคุณในวันนี้ แต่ก็นำภาพพระประธานในพระอุโบสถ ซึ่งมีนามว่าพระศรีสรรเพ็ชญมาฝากคุณ และด้านหน้าพระอุโบสถจะมีรูปหล่อของครูบาเจ้าศรีวิชัยประดิษฐานอยู่เนื่องจากท่านเป็นเคยเป็นเจ้าอาวาสวัดพระสิงห์มาก่อน นอกจากนี้เมื่อไปวัดพระสิงห์แล้วทุกคนจะต้องไปชมวิหารลายคำ และหอไตรที่แสนงดงามด้วย สำหรับคนที่เกิดปีมะโรงก็จะไปกราบไหว้พระมหาเจดีย์ธาตุ หรือพระธาตุหลวง เนื่องจากเชื่อกันว่าเป็นพระธาตุประจำปีมะโรง
ส่วนวัดที่สองที่จะพาคุณไปไหว้สาก็คือวัดเจดีย์หลวงวรวิหาร วัดนี้มีความสำคัญมากตรงที่มีพระมหาเจดีย์องค์มหึมา (ฐานกว้างด้านละ 60 เมตร และความสูงเมื่อครั้งที่ยังสมบูรณ์ คือ 80 เมตร) และยังมีเสาอินทขิล(เสาหลักเมือง) ตามประวัติระบุว่าพระมหาเจดีย์นี้สร้างไว้ ณ ใจกลางเมืองเชียงใหม่เมื่อครั้งโบราณ ครั้งสมัยพระเจ้าแสนเมืองมาพระมหาเจดีย์นี้ได้รับการก่อสร้างสืบต่อมาจากกษัตริย์ผู้ทรงครองล้านนามาอีกหลายพระองค์ จนกระทั่งยุคของพระนางเจ้าจิรประภามหาเทวี ประมาณช่วง พ.ศ. 2088ได้เกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ขึ้นในเมืองนี้จนทำให้ส่วนยอดของพระมหาเจดีย์หักพังทลายลงมา จากนั้นก็มิได้มีการซ่อมบำรุงพระมหาเจดีย์แต่อย่างใด จนผ่านเลยไปเกือบ 400 ปี ในยุคเจ้าแก้วนวรัฐ เจ้าผู้ครองนครเชียงใหม่องค์สุดท้าย จึงได้มีการบูรณะพระมหาเจดีย์
สำหรับพระวิหารหลวงของวัดแห่งนี้ถูกก่อสร้างขึ้นในยุคของเจ้าอินทวิชยานนท์(เจ้าพ่อของเจ้าแก้วนวรัฐ) สร้างเมื่อปี 2471 ภายในพระวิหารประดิษฐานพระปางห้ามญาติ สูง18 ศอก หล่อด้วยสำริดทั้งองค์ ครั้นในรัชสมัยรัชกาลที่ 5แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ทรงให้ใช้วัดนี้ประกอบพิธีถือน้ำพระพิพัฒน์สัตยา แทนการกระทำพิธีที่วัดเชียงมั่น
นักโบราณคดีที่ศึกษาศิลปะเมืองเหนือยกย่องว่าพญานาคที่หน้าวิหารหลวงวัดเจดีย์หลวงงดงามมากที่สุดในประเทศไทย กล่าวว่างดงามประดุจสิ่งมีชีวิตจริงในยามที่ต้องแสงไต้แสงไฟยามค่ำ (แต่วันที่ไปนั้นปิดซ่อมพระวิหาร จึงไม่สามารถถ่ายภาพพญานาควัดเจดีย์หลวงมาให้ชมได้)
ทั้งหมดทั้งมวลที่บอกเล่าความวิจิตรงดงามของวัดทั้งสองให้คุณฟังในวันนี้ คงจะไม่มีอะไรดีกว่าคุณได้ไปสัมผัสด้วยสายตาของคุณเอง ก็จึงขอเชิญชวนคุณไปไหว้สาและทำบุญด้วยกันครับ เราตั้งใจจะไปเที่ยวเมืองเชียงใหม่ในช่วงกลางเดือนธันวาคมนี้ หากคุณสนใจร่วมเดินทางกับเรา (รับสมาชิก 12 ราย) โปรดติดต่อ091-7233615 (สำหรับทริปสมุยเดินทาง20-23 ตุลาคม เต็มแล้วครับ ส่วนทริปกระบี่ เดินทาง 20-23 พฤศจิกายน ยังมีที่นั่งว่างอยู่บ้างครับ)
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี