พ่อแม่ถือเป็นครูคนแรกของลูก และครอบครัวคือโรงเรียนแห่งแรกที่สั่งสอนลูก หน้าที่สำคัญของพ่อแม่คืออบรมเลี้ยงดู วางรากฐานชีวิตให้ลูกในทุกๆ ด้าน เพื่อให้สามารถดำรงอยู่ได้ทั้งในปัจจุบันและในภายภาคหน้าอย่างมีภูมิคุ้มกัน มั่นคงและมีความสุข เรื่องเงินๆทองๆ ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่มีความสำคัญอย่างยิ่งในการใช้ชีวิตในสังคมปัจจุบัน พ่อแม่ควรวางแผนและเตรียมพร้อมด้านการเงินเพื่อลูกตั้งแต่เริ่มสร้างครอบครัวจนกระทั่งลูกจะเรียนจบชั้นสูงสุด ครอบครัวที่มั่งคั่งร่ำรวยอาจจะไม่ต้องห่วงกังวลเรื่องการเงินเหมือนครอบครัวปานกลาง หรือยากจน แต่อย่างไรก็ตาม เมื่อมีลูกก็ต้องสอนให้จัดการทางการเงินเป็นและวางแผนการเงินเพื่ออนาคตเหมือนกัน
หนังสือ “Think Big for Your Child 101 คิดใหญ่ให้ลูกน้อย” เขียนโดย กาญจนา หงส์ทอง เป็นหนังสือวางแผนด้านการเงินสำหรับครอบครัวที่สมบูรณ์แบบเล่มหนึ่ง ให้ความรู้เรื่องการเงินของครอบครัวรอบด้าน และสามารถยึดเป็นแนวทางในการวางแผนด้านการเงินตั้งแต่เริ่มมีครอบครัวจนกระทั่งวางอนาคตทางการเงินให้ลูกตั้งแต่เล็กจนโตโดยหนังสือแนะให้เริ่มต้นที่เช็คสุขภาพการเงินของครอบครัว และวางแผนตั้งแต่เริ่มแต่งงาน เพราะในยุคนี้ดอกเบี้ยเงินฝากก็น้อย อัตราเงินเฟ้อพุ่ง หากวางแผนไม่รัดกุมพอก็จะไปไม่รอด ซึ่งจะออกแบบการวางแผนหรือออมอย่างไรนั้นก็แล้วแต่จุดพอดีของแต่ละครอบครัว การวางแผนบริหารเงินในครอบครัวแนะนำไว้ให้เตรียมไว้ 7 ด้าน ได้แก่ วางแผนด้านค่าใช้จ่ายด้านการศึกษาของลูกตั้งแต่อนุบาลถึงระดับมหาวิทยาลัย ประเมินค่าใช้จ่ายสถานศึกษาที่วางแผนจะให้ลูกไปเรียนทั้งค่าเล่าเรียน ค่าครองชีพอย่างละเอียดถี่ถ้วน การเตรียมเงินสำรองฉุกเฉินไว้อย่างน้อย 6 เท่า เริ่มต้นด้วยการเตรียมออมเงินไว้เป็นทุนค่าใช้จ่ายของลูกตามเป้าหมาย และต่อยอดเงินให้งอกเงยด้วยการลงทุนด้วยความเหมาะสม และระมัดระวัง ลดความเสี่ยงด้วยการทำประกันชีวิต ประกันอุบัติเหตุ หรือประกันสุขภาพจะทำให้ลูกยังมีอนาคตแม้ว่าเราไม่อยู่บนโลกนี้แล้ว และอย่าห่วงแต่ลูก ควรกันเงินไว้ใช้ยามเกษียณด้วยและที่สำคัญหมั่นติดตามและปรับปรุงแผนอย่างสม่ำเสมอ
ต่อไปได้แนะนำถึงการบ่มเพาะนิสัยทางการเงินที่ดีให้กับลูก ได้แก่ การวางรากฐานที่ดี การสร้างทัศนคติต่อเงินที่ถูกต้อง และปลูกฝังวินัย สอนการใช้เงินด้วยเหตุผลไม่ใช่อารมณ์ อาทิ สอนให้หยอดกระปุกตั้งแต่เล็ก กระตุ้นการออม พาไปเปิดบัญชีเงินฝากหัดบริหารค่าขนมด้วยตัวเอง สอนให้ใช้เงินเป็นไม่ตระหนี่จนเกินไป หัดบันทึกค่าใช้จ่าย สอนเรื่องการลงทุนด้านต่างๆ การเรียนรู้การเงินให้เหมาะกับช่วงวัย เช่น 3-5 ขวบ สอนให้หยอดกระปุก ให้รู้จักเงินเหรียญ และธนบัตรต่างๆ 5-7 ขวบ สอนให้หยอดกระปุกจากเงินเหลือค่าขนม 16-18 ปี ให้บริหารค่าขนมเอง สอนการลงทุนเบื้องต้น 19-22 ปี สอนเรื่องการลงทุนต่างๆ การเสียภาษี เครื่องมือการเงินใหม่ๆ การแบ่งความรับผิดชอบเรื่องค่าใช้จ่ายลูก เช่น ค่าใช้จ่ายปัจจุบันหรืออนาคตใครเป็นคนจ่าย ประเมินค่าใช้จ่ายของลูกร่วมกัน การทยอยสะสมเงินให้เพียงพอกับการใช้จ่ายของลูกในแต่ละช่วงวัย การวางแผนส่งลูกไปเรียนต่างประเทศ ควรศึกษารายละเอียดและค่าใช้จ่ายในต่างประเทศ และสะสมเงินให้พร้อมและเหมาะสมและเพียงพอ แนะนำการเพิ่มมูลค่าเงินออมโดยการลงทุนที่เหมาะสมและไม่เสี่ยงมากจนเกินไป สำหรับเป็นค่าใช้จ่ายของลูกในแต่ละช่วงวัย อาทิ ลงทุนกองทุนหุ้น อสังหาริมทรัพย์เป็นต้น วางแผนและดูแลการเงินก่อนเปิดเทอม โดยการรวบรวมค่าใช้จ่ายทุกอย่างให้ครบถ้วนโดยละเอียดในแต่ละเทอม พยายามลดค่าใช้จ่ายไม่จำเป็น การซื้อเสื้อผ้านักเรียนในงบที่เหมาะสม พิจารณาการเรียนพิเศษที่ได้ทั้งความรู้และคุ้มค่าเงิน การวางแผนค่าใช้จ่ายเดินทางไปเรียน การเลือกที่พักที่เหมาะสมให้ลูก เลือกวิธีให้ค่าขนมที่เหมาะสม และแนะวิธีแก้ปัญหาหากค่าเทอมไม่พอ ปลูกฝังทัศนคติการเงินที่ดี เพื่อจัดการและแก้ไขลูกใช้จ่ายเงินเกินตัว และการทำตัวเป็นแบบอย่างให้ลูก ด้วยการจัดการด้านการเงินที่ดีที่ถูกต้องให้ลูกเห็นเป็นตัวอย่าง และสุดท้าย ส่งต่อความมั่งคั่งให้ลูกหลานต่อไป
เนื้อหาในเล่มอ่านเข้าใจง่าย และอธิบายรายละเอียดข้อดีข้อเสียปัญหาและแนวทางแก้ไข การวางแผนด้านการเงินของครอบครัวพ่อแม่และลูก อย่างครบถ้วนโดยละเอียด หนังสือมีประโยชน์อย่างมากในการวางแผนชีวิตให้กับลูกน้อย สามารถนำไปเป็นแนวทางในการวางแผนทางการเงินให้ครอบครัวและลูกได้เป็นอย่างดี หนังสือจำหน่ายทั้งรูปเล่ม และe-book ของค่ายซีเอ็ด ราคาเล่มละ 195 บาท
แนะนำวิธีบริหารเวลา ให้คุ้มค่าที่สุด ปฏิบัติได้จริง เกิดประโยชน์ทันที
เวลาที่เรามีอยู่ในแต่ละวันนั้นจริงๆ ไม่ได้น้อย แต่มีเวลาจำนวนมากที่เราปล่อยให้สูญเสียไปโดยไม่ได้ใช้ให้เกิดประโยชน์ หนังสือ “วิธีบริหารเวลา ให้คุ้มค่าที่สุดในแต่ละวัน” ผู้เขียน โลทาร์ ไซแวร์ท ผู้แปล ปิยะกัลย์ สินประเสริฐ เล่มนี้ จะช่วยให้คนเรากลับมาทบทวนการใช้เวลาในปัจจุบันว่าใช้อย่างคุ้มค่าแค่ไหน และจับโจรขโมยเวลาหรือสิ่งที่ทำให้เราเสียเวลาโดยเปล่าประโยชน์ให้ได้ พร้อมวางแผนการใช้เวลาในแต่ละวันของคุณให้คุ้มค่าที่สุด การจัดลำดับความสำคัญ การฝึกกระจายงานไปให้คนอื่น การจัดระเบียบการวางแผนการทำงานที่ดีที่สุด เพื่อช่วยให้มีความสุขและมีชีวิตที่ดีขึ้นตลอดไปผู้เขียนได้แนะนำวิธีคิดที่นำไปปฏิบัติได้จริง เกิดประโยชน์ได้ทันที โดยเขียนสรุปย่อและจับประเด็นสำคัญมานำเสนอ ทำให้เข้าใจง่าย ไม่เสียเวลาในการอ่าน และนำไปปฏิบัติได้ทันที
แง่คิดวิธีการปฏิบัติด้านการเงินที่ถูกทาง นำทางสู่อิสรภาพการเงินตามต้องการ
“เส้นทางสู่อิสรภาพการเงินอย่างแท้จริง” ผู้เขียน จักรพงษ์ เมษพันธุ์ คือหนังสือที่ให้แง่คิดสำหรับคนที่กำลังมองหาวิธีการ การเข้าสู่การมีอิสรภาพทางการเงินอย่างแท้จริง แบบคนธรรมดาทั่วไป หนังสือจะทำให้ทุกคนที่อ่านเข้าใจเรื่องการเงินอย่างรอบด้าน สามารถวางแผนเส้นทางสู่การมีฐานะที่มั่นคง ผ่าน 46 บทความอ่านเข้าใจง่ายและสรุปในตัว อ่านแล้วจะเข้าใจตั้งแต่ความรู้การเงินขั้นพื้นฐานการบริหารสภาพคล่อง ตลอดจนการจัดการความเสี่ยงทางการเงิน เรื่องราวต่างๆ ที่ผู้เขียนนำเสนอ จะสามารถสร้างแรงบันดาลใจให้คุณเลือกเส้นทางสู่ความมั่งคั่งด้วยตัวคุณเอง โดยไม่ต้องเลียนแบบใคร เหมาะสำหรับผู้อ่านที่อยากเริ่มวางแผนด้านการเงิน อ่านง่าย ไร้ศัพท์แสงการเงินที่เข้าใจยาก
นวนิยายผจญภัยลี้ลับในป่าดงพงพีเมืองไทย ของนักประพันธ์ผู้ยิ่งยง มาลัย ชูพินิจ
“ลูกไพร” นวนิยายผจญภัยลี้ลับในป่าดงพงพีเมืองไทยของนักประพันธ์ผู้ยิ่งยง มาลัย ชูพินิจ ผู้เขียนนวนิยายชุด “ล่องไพร”ผู้เขียน น้อย อินทนนท์ นิยายเล่มนี้จะพาคุณไปพบกับการผจญภัยกับความลี้ลับในป่า ทั้งความตื่นเต้นมหัศจรรย์และเรื่องราวการต่อสู้ในดงดิบ และการดำรงชีวิตในป่า ของเด็กชายจากกรุงเทพฯ อายุเพียง 14 ปี กับเด็กชาวกะเหรี่ยง จากเหตุบังเอิญของการหลงป่าที่ส่งให้เด็กชายทั้งสองต้องมาใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันเป็นเวลานาน ต้องผจญทั้งภัยธรรมชาติและภัยจากสัตว์ร้าย ต้องอดมื้อกินมื้อ ต้องตัดสินใจเด็ดเดี่ยวในบางเรื่อง เพื่อเอาชีวิตรอดจากเหตุร้ายต่างๆ ที่ทำให้เกิดความรักความผูกพัน รักใคร่ฉันพี่น้องที่คลานตามกันมาเลยทีเดียว ซึ่งนอกจากจะได้ความเพลิดเพลินแล้วยังได้สาระความรู้เกี่ยวกับป่าและหลักในการดำเนินชีวิตที่ควรนำมาเป็นแบบอย่างอีกด้วย
ปุจฉาวิสัชชนา ของ2มหาปราชญ์ ตำราพุทธศาสนาที่อ่านเข้าใจง่าย
“มิลินทปัญหา” นับว่าเป็นปุจฉาวิสัชชนาอันแสดงถึงความเลอเลิศทางปัญญาครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดหลังพุทธปรินิพพาน (ราว 400-500 ปี) ระหว่างมหาปราชญ์แห่งยุค 2 ท่าน คือ “พระนาคเสนเถระ” กับ “พระเจ้ามิลินท์” ลักษณะพิเศษที่ทำให้ มีความโดดเด่ดจากตำราทางพุทธศาสนาเล่มอื่น คือ กลวิธีในการแจกแจงเเสดงธรรมที่ใช้เป็นแนวทางหลัก คือ การใช้ปฏิปุจฉาลักษณะ โดยการย้อนถาม-ตอบกันไปมา และการใช้อุปมาลักษณะ คืออธิบายโดยใช้การเปรียบเทียบ ซึ่ง “พระนาคเสนเถระ” ใช้ในการโต้ตอบปัญหากับ “พระเจ้ามิลินท์” ทำให้เรื่องที่ลึกซึ้ง เห็นได้ยากเข้าใจได้ยาก กลับแจ่มแจ้งชัดเจนอย่างหมดข้อสงสัยใดๆ พระนาคเสนเถระเป็นพระอรหันต์ ถึงพร้อมด้วยปฏิสัมภิทา คือ ความแตกฉานในอรรถ ในธรรม ในภาษา และในปฏิภาณ คำตอบของท่านต่อพระยามิลินท์ จึงน่าทึ่งเป็นอันมาก ผู้สนใจพระพุทธศาสนาควรได้อ่านหนังสือเล่มนี้เป็นอย่างยิ่ง ผู้เขียน วศิน อินทสระ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี